ชาวบ้านตื่นเม็ดพระยาข้าวสารดำ เชื่อกันว่าอายุนานกว่า 2,000 ปี หลังพระเกจิดังนั่งสมาธิบอกมีพระยาเม็ดข้าวดำอยู่ทั่วบริเวณวัด เชื่อกันว่าเป็นข้าวสารของพระพุทธเจ้าแห่ขุดกันเต็มวัด สุดท้ายจุดธูปเทียนขอเลขเด็ดกันตามเคย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 28 พ.ย.51 ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งว่า ได้มีชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ใน ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน แห่กันเข้าไปขุดเอาดินในบริเวณวัดป่าค่าง (กู่น้อย) ม.10 ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน แล้วนำเอาไปแช่น้ำร่อนหาเม็ดพระยาข้าวสารดำ ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นข้าวสารในสมัยพุทธกาล ของพระพุทธเจ้าที่นำมาทิ้งไว้ หลังได้รับแจ้งแล้วจึงได้เดินทางไปยังที่ตามรับแจ้ง
เมื่อไปถึงพบเป็นวัดเล็กๆ ในหมู่บ้าน มีเนื้อที่กว้างประมาณ 4 ไร่กว่า มีพระวิหารตั้งอยู่กลางบริเวณวัด 1 หลัง มีกุฏิสงฆ์อยู่ข้างๆ อีก 1 หลัง ห่างจากพระวิหารไปทางทิศเหนือประมาณ 50 เมตร พบชาวบ้านประมาณ 100 คน กำลังช่วยกันขุดดินในหลุมลึกประมาณ 1 เมตรขึ้นมา แล้วนำเอาดินที่ขุดได้ไปแช่น้ำในถังท่อซีเมนต์ที่เตรียมกันไว้ แล้วใช้มุ้งลวดตาข่ายมาร่อนดินที่แช่น้ำอีกรอบ จากนั้นพบเป็นเศษดิน หรือเศษวัสดุคล้ายเม็ดข้าวสารจำนวนมาก เมื่อนำมาตากแดดมีสีคล้ายคลึงกับข้าวสารทั่วไป แต่ที่ผิดไปจากเม็ดข้าวสาร คือเป็นสีดำเท่านั้น และขนาดก็เท่ากับข้าวสารที่ใช้หุงกินกันตามปกติ ทุกอย่าง สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านกันมาก
จากการสอบถามชาวบ้านที่มาช่วยกันขุดดินแล้วนำมาร่อนเพื่อหาพระยาเม็ดข้าวสารดำ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเม็ดข้าวสารของพระพุทธเจ้าที่มีมานานกว่า 2,000 ปีมาแล้ว ตามคำบอกเล่าของพระเกจิอาจารย์ที่เล่าต่อกันมา และบริเวณวัดนี้มีจุดเดียวที่พบเม็ดข้าวสารดำ นอกเหนือออกไปจากพื้นที่บริเวณนี้จะไม่พบพระยาเม็ดข้าวสารดำ เพราะเป็นดินดานแข็งกระด้างไม่มีเม็ดข้าวสารอยู่เลย
จากการสอบถามพระครูใบฎีกาธวัชชัย ธณวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าด่าง กู่น้อย เล่าว่า ก่อนที่จะอนุญาตให้ชาวบ้านขุดดินหาเม็ดข้าวสารดำนี้ ได้มีนาย จักรกฤษณ์ ศรียาบ อายุ 22 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้บวชเป็นสามเณรอยู่ในวัดแห่งนี้ ต่อมาได้สึกออกไปเพื่อไปเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้เรียนอยู่ระดับปริญญา ต่อมานาย จักร-กฤษณ์ ได้มาเล่าให้ฟังว่า ในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่นั้นได้ฝันเห็นมีพระสงฆ์มาหาและบอกว่าบริเวณดังกล่าวมีเม็ดข้าวสารดำจำนวนมากฝังอยู่ ขอให้ไปบอกให้เจ้าอาวาสและชาวบ้านมาขุดออกไปด้วย อาตมาจึงได้ไปนิมนต์ท่านครูบา กฤษฏา สุเมโธ เจ้าอาวาสวัดป่ายางสันพระเจ้าแดง ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับวัดของอาตมา และท่านครูบาก็มีวิชาเกี่ยวกับการนั่งทางใน เพื่อได้เข้ามาบริกรรมศีลภาวนา และนั่งสมาธิ จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานท่านครูบาฯก็บอกว่า มีเม็ดข้าวสารดำอยู่จริง ซึ่งเป็นเป็นเม็ดข้าวสารดำของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีมานานกว่า สองพันปีแล้ว นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธรูปทองคำอีก 2 องค์ อยู่บริเวณใกล้ๆ กับพระยาเม็ดข้าวสารดำ แต่ขอให้ขุดเพียงหาเม็ดข้าวสารดำเท่านั้น ส่วนพระทองคำให้ปล่อยไว้ก่อน
ดังนั้นทางวัดจึงได้มีการประชุมกับศรัทธาและลูกบ้านว่าต้องมีการขุดนำเอาเม็ดข้าวสารออกมาเพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปเก็บไว้เพื่อบูชา ส่วนที่เหลือจะนำออกให้ผู้ที่สนใจเช่าบูชากันไป ส่วนเงินที่ได้จากการเช่า จะนำมาบูรณะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุในวัดต่อไป จึงได้มีการอนุมัติการขุดเอาเม็ดข้าวสารขึ้นมา จนชาวบ้านแตกตื่นกันแห่มาช่วยกันขุดเม็ดข้าวสารดังกล่าว
ขอบคุณข่าวจาก หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์