สาว เมืองดอกบัวอยากอึ๋ม ยอมควักครึ่งแสนให้หมอเถื่อนในหมู่บ้านเสริมหน้าอก ปรากฏอีกสองอาทิตย์ต่อมาเกิดอาการติดเชื้อที่ปอดตายอนาถ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังแข็งแรง แม่โร่แจ้งตร.ล่าหมอสาว อ้างเป็นแพทย์ศัลยกรรมจากกรุงเทพฯ มาเปิดรับทำสวยเป็นพิเศษช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ตร.บุกค้นบ้านพบอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์เต็มบ้าน พร้อมบัญชีรายชื่อลูกค้า แต่ไม่เจอตัวหมอศัลยกรรมลึกลับ
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 23 ธ.ค. พ.ต.ท.วีรยุทธ กุระนาม สารวัตรเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากนางประหยัด สุนทรารักษ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 หมู่ 9 บ้านกุดปลาขาว ต.บุ่งไหม อ.วารินชำราบ ว่า น.ส.ธัญญ์รภัส นาราช อายุ 29 ปี บุตรสาว เสียชีวิตจากการติดเชื้อที่ปอดอย่างรุนแรง โดยเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากทำศัลยกรรมเสริมเต้านม
นางประหยัด กล่าวว่า บุตรสาวพักอยู่บ้านเดียวกับตน และประกอบอาชีพร่วมหุ้นกับเพื่อนขายรถยนต์มือสอง เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา บุตรสาวพร้อมเพื่อนวัยเดียวกัน ไปพบน.ส.หลิน ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งอ้างเป็นแพทย์ทางศัลยกรรมตกแต่งจากกรุงเทพฯ และ เดินทางมารับทำศัลยกรรมช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่บ้านเช่าเลขที่ 88 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี โดยบุตรสาวตกลงทำศัลยกรรมเสริมเต้านมทั้ง 2 ข้างให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และผู้รักษาเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการฉีดสารเสริมเต้านม 2 ครั้งเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท โดยได้ฉีดสารไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณฐานเต้านมทั้ง 2 ข้างในวันแรก และนัดแนะให้มารับการฉีดครั้งที่ 2 ในวันอาทิตย์ต่อมา
นางประหยัด กล่าวต่อว่า วันแรกที่น.ส.ธัญญ์รภัสได้รับการฉีดสารเข้าเต้านมวันแรก ก็มีอาการปวดศีรษะตัวร้อนและอาเจียน วันรุ่งขึ้นก็หายเป็นปกติ จึงไม่ได้สงสัยอะไร กระทั่งเข้ารับการฉีดเสริมเต้านมครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.หลังกลับเข้าบ้านบุตรสาวก็มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ตัวร้อนและอาเจียน และอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจากหัวนมโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังรับการฉีดสารไปแล้ว 4 วัน จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจำ อ.วารินชำราบ หมอได้ตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมเอกซเรย์ก็พบความผิดปกติที่ปอด จึงส่งตัวมาให้โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์รักษาตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.และมาเสียชีวิตในวันนี้
"แพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ศพลงความเห็น สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากปอดเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรง เชื่อว่าเป็นเหตุให้ลูกสาวเสียชีวิตอย่างแน่นอน เพราะก่อนที่จะไปรับการฉีดเสริมเต้านมบุตรสาวแข็งแรงดี ไม่มีอาการเจ็บป่วยเป็นโรคใดมาก่อน รวมทั้งหลังเสียชีวิตนมที่ฉีดจนโตขึ้นก็หดตัวเล็กเท่าเดิม" นางประหยัด กล่าว
ต่อมาพ.ต.อ.นพพร จัยสิน ผกก.สภ.เมืองอุบล ราชธานี สั่งให้ชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบรุดไปตรวจสอบที่บ้านที่ใช้เป็นคลินิกของน.ส. หลิน พบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ แต่ไม่มีใครอยู่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเสนอขอออกหมายค้นจาก ศาล เพื่อเข้าค้นหาหลักฐานที่อาจมีหลงเหลืออยู่ โดย พ.ต.อ.นพพร กล่าวว่า เบื้องต้นจะตรวจสอบผู้ให้บริการมีใบประกอบโรคศิลปะหรือไม่ และขอเปิดเป็นสถานบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนการพิสูจน์จะขอชิ้นเนื้อส่วนหน้าอก ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้นางสาวธัญญ์รภัสเสียชีวิตไปตรวจสอบหาสารอันตรายว่า เป็นสารชนิดใด และเป็นสาเหตุให้ติดเชื้อจนเสียชีวิตด้วยหรือไม่ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความ เพื่อตรวจสอบหาชื่อ-นามสกุลจริงของ น.ส. หลิน จะได้ติดต่อมาให้ปากคำ เพื่อความกระจ่างของเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป
ด้าน น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตส.ว.อุบล ราชธานี ให้ความเห็นกรณีดังกล่าวว่า การเสียชีวิตของผู้ไปทำศัลยกรรมตกแต่งครั้งนี้ แยกได้ 2 ประเด็นคือ ใช้เข็มฉีดสารทะลุเข้าไปถูกเยื่อหุ้มปอด จนทำให้ติดเชื้อ แต่การติดเชื้อต้องใช้ระยะในการฟักตัวพอสมควร แต่จากอาการที่ทราบคือ หลังคนไข้ไปรับการฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย และเกิดมีอาการเจ็บป่วย น่าจะเกิดจากการแพ้สารที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย และมีผลข้างเคียงลุก ลามไปถึงปอด ทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ตามมา
น.พ.นิรันดร์ ยังกล่าวถึงพฤติกรรมของผู้มาให้บริการที่ลักลอบทำกัน โดยไม่เปิดเป็นคลินิกรับให้บริการเสริมความงามอย่างเปิดเผย ผู้ใช้บริการไม่ควรไปทำด้วยอย่างเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าผู้ให้บริการมีใบประกอบโรคศิลปะอย่างถูกต้องหรือเปล่า รวมทั้งหากเป็นแพทย์จริง ก็ไม่ใช่จะรับทำได้ทุกคน เพราะการเสริมความงามถือเป็นแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งแพทย์ที่รับทำต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง ขนาดตนยังรับทำในเรื่องนี้ไม่ได้เลย
น.พ.นิรันดร์ ยังเล่าถึงพฤติกรรมการลักลอบให้บริการเสริมความงามอีกว่า เป็นการรับทำเหมือนธุรกิจขายตรงคือ มีคนไปติดต่อหาลูกค้ามาใช้บริการ หรือติดต่อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ จึงขอเตือนให้หน่วยงานสาธารณสุขในภูมิภาคช่วยกันจับตาการให้บริการแบบนี้ เพราะนอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นอันตรายแก่คนเข้าไปใช้บริการถึงตายได้เหมือนผู้ป่วยรายนี้
ต่อ มาเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.ศรัญ นิลวรรณ รอง ผกก.สส.นำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ ค 590/ 2551 ลงวันที่ 23 ธ.ค.เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 88 ซอยชยางกรู 18 ถ.ชยางกรู ต.ในเมือง ซึ่งเป็นบ้านที่รับทำศัลยกรรมเสริมความงามให้นางสาวธัญญ์รภัส พบนางจูมจี นนท์วงศ์ อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน จึงแสดงหมายศาลขอตรวจค้น โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์ใช้เสริมความงาม อาทิ ครีมหนีบจมูก ยาชา ถุงมือ ผ้าปิดจมูก สมุดบัญชีรายชื่อลูกค้าที่มาทำศัลยกรรม รวมทั้งเอกสารใช้โฆษณาสรรพคุณผ่านสถานีวิทยุใน จ.สุรินทร์ จำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวนนางจูมจี ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นการให้บริการเสริมความงาม แต่รับว่าอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของบุตรสาวที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด และจะกลับบ้านเฉพาะวันหยุด จึงสอบปากคำนางจูมจีไว้ในฐานะเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และจะได้ออกหมายเรียกตัวบุตรสาวมาสอบสวนเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อหาใคร เพราะต้องรอการสอบสวนก่อน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด