ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 มกราคม ร.ต.อ.วิชิต สินค้า พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.พลับพลาไชย 1 รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่า ถนนเจริญกรุงตัดถนนราชวงศ์ แขวงและเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 และรถดับเพลิงจากสำนักบรรเทาสาธารณภัย กทม. อีกกว่า 20 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 8 ชั้นที่เปิดเป็นแหล่งขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองกรุง ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำสกัดเพลิง แต่เกิดอุปสรรคเพราะอาคารค่อนข้างทึบ ภายในแบ่งซอยเป็นร้านค้าย่อยหลายพันร้าน นอกจากนี้ยังมีรายงานคนติดอยู่ในอาคารอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่หนีตายขึ้นไปยืนโบกมือขอความช่วยเหลืออยู่ดาดฟ้าอาคารชั้น 8 ท่ามกลางควันไฟที่โหมลุกโชนขึ้นไปชั้นบนตลอดเวลา
สถานการณ์เริ่มตึงเครียดระทึกขวัญมากขึ้นเรื่อยๆ หลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ควันที่หนาทึบฟุ้งกระจายไปทั่วอาคาร ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งตัดสินใจยอมเสี่ยงกระโดดลงมาเอาตัวรอดจนได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว ส่วนพวกที่เหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องนำรถกระเช้าขึ้นไปทยอยช่วยเหลือลงมาอย่างทุลักทุเลคราวละประมาณ 20 คน
นายธนวัฒน์ ปักธงชัย อายุ 44 ปี ผู้จัดการอาคารให้ข้อมูลว่า อาคารดังกล่าวแบ่งชั้น 1-3 ขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ชั้น 4 เปิดเป็นลานนวดแผนโบราณ ชั้น 5-6 ทำเป็นเกสต์เฮาส์ ส่วน ชั้น 7 เปิดเป็นเซาน่า และชั้น 8 เป็นดาดฟ้า ก่อนเกิดเหตุร้านค้าส่วนใหญ่กำลังเก็บของเช็กสต็อกสินค้า มีคนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่แผงขายโทรศัพท์บริเวณชั้น 1 โซนกลางจนเกิดประกายไฟติดลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พ่อค้าแม่ค้าและลูกจ้างแตกตื่นหนีกันอลหม่าน ส่วนใหญ่ตกใจวิ่งขึ้นไปชั้นบน แต่กลับเป็นชั้นที่ซับซ้อนคล้ายเขาวงกต สุดท้ายต้องขึ้นไปกระจุกกันอยู่บนชั้นดาดฟ้ารอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ต่อมาเวลา 22.00 น. เพลิงยังลุกลามอย่างต่อเนื่อง มีเพียงหน่วยผจญเพลิงต้องนำอุปกรณ์ออกซิเจนและสายยางดับเพลิงเข้าไปในตัวอาคารเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเท่านั้น ส่วนการดับเพลิงแทบจะหมดหวัง เมื่อไฟลามทั่วอาคารชนิดที่ใกล้จะพังพินาศลงมาทุกระยะ แม้จะประสานกองบินตำรวจนำเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ บินมาทยอยช่วยเหลือผู้ที่อยู่บนอาคารก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะไม่มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ต้องใช้บันไดลิงห้อยลงมาให้ผู้ประสบภัยไต่ขึ้นไปทีละคน แต่ก็ยังมีผู้หลงเหลือในอาคารอีกจำนวนไม่น้อย
ล่าสุดเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดแล้ว แต่ยังไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในพื้นที่เนื่องจากเกรงว่าอาคารอาจถล่มพังลงมา โดยมีรายงานว่า หน่วยกู้ภัยของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพบศพเหยื่อเสียชีวิตในกองเพลิงแล้วอย่างน้อย 7 ราย และคาดว่าอาจจะมีมากกว่านี้ เพราะสถานที่ภายในคับแคบวกวน ด้านบนเป็นห้องพักและเซาน่าอยากแก่การหลบหนี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้นำรถกระเช้าลำเลียงศพผู้เสียชีวิตจากบริเวณชั้น 7 ลงมาได้แล้ว สภาพศพถูกห่อไว้ในผืนผ้าสีขาว ทราบชื่อนายสงวน แสนแก้ว อายุ 45 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ผู้กำกับ สน.พลับพลาไชย 1 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังคงตรวจสอบอยู่ภายในตัวอาคารบริเวณชั้น 1 ถึงชั้น 3 และบริเวณชั้น 5 ถึงชั้น 8 ส่วนบริเวณชั้นที่ 4 นั้น จะต้องรอให้ความร้อนภายในตัวอาคารเย็นลงเสียก่อน เนื่องจากเป็นชั้นที่มีความร้อนมากที่สุด ทั้งนี้จะต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมเข้าตรวจสอบในช่วงเช้าวันนี้ด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นได้นำส่ง สน.พลับพลาไชย 1 แล้ว เพื่อลงบันทึกประจำ ส่งมอบให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และติดต่อทางด้านญาติของผู้ตาย เพื่อมารับศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป
เกาะติดข่าว เสือป่าพลาซ่า ทั้งหมดที่นี่ค่ะ
ตำรวจตั้ง 3 ปมไหม้ "เสือป่าพลาซ่า" วางเพลิง-ประมาท-ไฟฟ้าลัดวงจร
เรียกเจ้าของ "เสือป่าพลาซ่า" ให้ปากคำตำรวจบ่าย 2 โมงวันนี้
กทม. ประกาศให้ เสือป่า พลาซ่า เป็นพื้นที่อันตราย
คืบไฟไหม้เสือป่าพลาซ่า เอาศพออกจากตึกแล้ว 1
ยังระบุยอดผู้เสียชีวิตไม่ได้ รอจนท.เข้าตรวจสอบเสือป่าฯ
เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต1 ศพ เหตุไฟไหม้เสือป่าพลาซ่า
ดับ7ศพไหม้เสือป่าพลาซ่า เร่งเคลียร์คนหวั่นอาคารทรุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|