รองปธ.สภาฯ สายพท. ค้าน”เฉลิม”ยื่นซักฟอกรัฐบาลชี้เร็วไป แนะช่องยื่นศาลรธน.ตีความนายกฯ กู้เงินญี่ปุ่น เหนียมแคนดิเดตนายกฯ ชู”มิ่งขวัญ”แทน ที่ รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาตนได้ประสานกับวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อพยายามขอร้องทั้งสองฝ่ายว่าไม่ควรเล่นเกม เนื่องจากจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของสภาเสียหาย โดยในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวานนี้(10 กพ.) ตนได้พูดถึงกรณีดังกล่าว เพื่อขอร้องส.ส.ในพรรคว่าการนับองค์ประชุมจะต้องทำโดยมีเหตุผล ไม่ใช่นับพร่ำเพรื่อ ส่วนความเป็นไปได้ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนอาจใช้วิธีการวอล์คเอ้าท์ทันทีที่รัฐบาลแก้เกมด้วยการชิง ปิดประชุมสภานั้น ตนเชื่อว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหากตนขึ้นทำหน้าที่ประธานในการประชุมสภาฯ เมื่อไหร่ ก็จะพยายามควบคุมการประชุมให้เป็นไปได้ด้วยดี และพยายามเตือนส.ส.ฝ่ายค้านที่มักขอนับองค์ประชุมบ่อยครั้งอย่าง นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แต่ก็เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนก็มีเหตุผลและมีเจตนาที่ดีในการทำหน้าที่ในสภา ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องมีความพร้อมในการทำงานในสภา เพราะหากมีการนับองค์ประชุมแล้วสภาไม่ครบองค์ประชุม รัฐบาลก็จะเป็นผู้เสียหายแต่หากองค์ประชุมครบ ฝ่ายค้านก็จะเป็นผู้เสียหายเองเช่นกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ในฐานะประธานส.ส.พรรรคเพื่อไทย ระบุว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัติติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 11 มีนาคม พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นช่วงเวลากะชั้นชิดเกินไป ฝ่ายค้านควรมีเวลาในการเก็บข้อมูลนานกว่านี้ โดยกรณีข้อกล่าวในประเด็นการทุจริตก็ต้องมีหลักฐานชัดเจน ส่วนกรณี นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน เสนอจะอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีเจรจาเงินกู้ญี่ปุ่นกว่า 3,000 ล้านเยนนั้น ตนมองว่าการตรวจสอบสามารถทำได้หลายช่อง ไม่ใช่แค่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น แต่สามารถยื่นผ่านช่องทางอื่นนอกสภา เช่น การให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ผู้สื่อข่าวถามว่า ล่าสุด พรรคเพื่อไทยมีรายชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะเสนอในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาล คือ ร.ต.อ.เฉลิม นายมิ่งขัวญ แสงสุวรรณ์ และ พ.อ.อภิวัณท์ เอง พ.ต.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ยอมรับว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยได้เสนอรายชื่อบุคคลมาหลายบุคคลในขณะนี้ ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม นายมิ่งขัวญ และตนเอง ซึ่งก็คงต้องไปลงมติในการประชุมกันอีกครั้ง “ส่วนผมนั้นก็รู้สึกยินดีที่สมาชิกในพรรคเสนอชื่อ ทั้งที่ใจจริงแล้วผมไม่อยากเป็นนายกฯ และเห็นว่านายมิ่งขวัญมีความเหมาะสมมากกว่า แต่สุดท้ายหากมติพรรคเพื่อไทยออกมาเป็นอย่างไรตนก็พร้อมปฎิบัติตาม” พ.อ.อภิวันท์ กล่าว เมื่อถามว่า ในการดำเนินการทางการเมือง เช่นในการประชุมพรรคเพื่อมีมติเรื่องใดๆ คนในตระกูลชินวัตรได้เข้ามามีบทบาทหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า สามารถเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคได้ แต่ไม่ได้มีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องใดๆในพรรค ซึ่งเรื่องนี้ตนก้เคยพุดว่าแม้จะยังเคารพพ.ตท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่พรรคก็ต้องมีระบบมีความเป็นสถาบัน การตัดสินใจเรื่องใดในพรรค ก็ต้องผ่านที่ประชุมพรรคเสมอ ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ