กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สั่งกระทรวงแรงงานติดตามใกล้ชิดจี้ประชาสัมพันธ์เชิงรุกบรรเทาทุกข์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.เศรษฐกิจว่า ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาสถานการณ์การว่างงานล่าสุดในเดือน ก.พ. ที่พบ ว่ามีมากถึง 100,599 คน เพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค. เกือบ 40,000 คน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จึงกำชับให้กระทรวงแรงงานใช้กระบวนการแรงงานสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อบรรเทาปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง รวมทั้งให้แยกประเภทของแรงงานตามอุตสาหกรรมให้ชัดเจนเพื่อจะได้แก้ไขปัญหา ได้ตรงประเด็น โดยกระทรวงแรงงานได้รายงานให้ทราบว่าได้พยายามจัดงานวันนัดพบแรงงาน เพื่อจัดหางานใหม่ให้เพราะยังมีตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ประมาณ 100,000 ตำแหน่ง
ส่วนแรงงานไทยที่ทำงานในต่างประ เทศนั้นได้รับรายงานว่ายังสามารถทำงานต่อไปได้ โดยกระทรวงแรงงานได้ประสานงานกับบริษัทเพื่อปรับเปลี่ยนนายจ้าง ทำให้ในปี 52 ยังไม่มีแรงงานไทยถูกส่งกลับจากต่างประเทศเพราะปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจแต่อย่าง ใด ขณะที่ในเดือน พ.ย. 51-ม.ค. 52 กระทรวงแรงงานได้จ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือแรงงานไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท ขณะที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานได้ให้ความช่วยเหลือในการ จัดหางานใหม่ให้แรงงานที่ว่างงานไปแล้วประมาณ 13,000 คน ส่วนการดำเนินการตามมาตรการ 3 ลด 3 เพิ่ม ตั้งแต่เกิดวิกฤติสามารถบรรจุงานแล้ว 90,000 คน
นายพุทธิพงษ์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังรับทราบสถานการณ์การค้าและเงินทุนเคลื่อนย้ายตามที่ธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงฐานะการคลัง ที่กระทรวงการคลังรายงานที่พบว่าในช่วง 4 เดือนของปีงบประมาณมีเงินรายได้สุทธิเพียง 363,729 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 16.2% และคาดว่าทั้งปีงบประมาณจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 110,000 ล้านบาท ขณะ ที่ผลการเบิกจ่ายเงิน งบประมาณมีจำนวน 706,889.63 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 0.35% ส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 15 แห่ง ล่าสุดในเดือน ม.ค. 52 มีเพียง 18,477.11 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57.41% จากเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมทั้งสิ้น 32,182.38 ล้านบาท โดย กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า เงินคงคลังภายในสิ้นปีงบประมาณ 52 (30 ก.ย. 52) จะมีประมาณ 122,091 ล้านบาท
ทั้งนี้ที่ประชุมได้สั่งการให้เร่งรัดการเบิกจ่ายในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ มากขึ้น เช่นโครง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เพื่อให้มีเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้ได้ตามเป้าหมาย ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีต้องการทราบความคืบหน้าและรายละเอียดทั้งหมดของโครงการ 3 จี โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประสานกับ บมจ.ทีโอที เพื่อรายงานให้ที่ประชุมในครั้งต่อไป
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่าได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์การคลัง โดยล่าสุดในเดือน ก.พ. ฐานะเงินคงคลังอยู่ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยรายได้รัฐบาลล่าสุดยังต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 70,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าในเดือน พ.ค.-มิ.ย. จะมีเงินได้จากภาษีรายได้บุคคลธรรมดา นิติบุคคล เข้าสู่ระบบ.
ที่มา เดลินิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|