• เก๋ ฉะ! สจ๊วตตุรกี หมิ่นสาวไทย!! พร้อมเคลียร์ข่าวทะเลาะ-แย่งงาน โย!! |
โพสต์โดย reporter , วันที่ 12 มี.ค. 52 เวลา 17:58:32 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เคลียร์ข่าวควงน้องเลิฟ ทาทา ยัง เดินแฟชั่นชุดว่ายน้ำ จนเกิดกระแสเม้าท์ถูกนางแบบมืออาชีพ โย-ยศวดี เขม่น ถึงขั้นทะเลาะวิวาทแย่งงานกัน นางแบบสาว เก๋-ชลดา งงเต๊ก!! ยันสาว “โย” ไม่เคยโทรมาวีน ฟุ้งร่วมงานกันมาร่วม 10 ปีไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน พร้อมเปิดอกฉะ! สจ๊อตชาวตุรกี ของสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ หลังดูถูกคนเอเชียและเหยียดสีผิว จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ปัด! ไม่อยากฟ้องร้อง หวั่นกลัวเป็นปัญหาระดับชาติ!!
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวทะเลาะกับเพื่อนนางแบบสาว “โย” เรื่องเดินแบบชุดว่ายน้ำ สาว “เก๋” เหวอกิน! ก่อนชี้แจงควันตลบว่า
“ไม่มีเรื่องอะไรเลยจริงๆ เพราะว่าการทำงานอย่างที่บอกว่าเราเป็นแค่ลูกจ้าง แล้วก็เขาก็มาติดต่อผู้จัดการส่วนตัวเก๋ คอนเซ็ปของงานไทรอัมพ์อันนั้นเก๋ทราบแค่ว่าเขาอยากให้ไปเดินกับทาทา ไม่ว่าเก๋กับทาทาคนใดคนนึงเซย์โนไม่เดินก็ไม่เดินทั้งคู่เลย วันนั้นเป็นคอนเซ็ปคู่กัน เป็นคู่พี่น้อง เก๋ก็ถามเขาว่าเขาติดต่อใครบ้าง เขาก็บอกว่ามีแค่เพื่อนสนิทในวงการ มีดาราอีกสองท่าน มีแค่เก๋กับทาทา ส่วนนางแบบคนอื่นไม่มีนะที่เก๋ทราบ”
ถามต่อถึงกระแสเม้าท์ว่าสาว “โย” โทรมาวีนว่าไปแย่งงานเขา สาวเก๋รีบเคลียร์ด่วนจี๋ทันทีว่า
“ไม่มีๆ ยิ่งบอกว่าโยโทรมาทะเลาะกัน ไม่มีเลยนะคะ อันนี้เรื่องจริงเลย คือโยไม่ได้โทรมาทะเลาะอะไรกับเก๋ และไม่ได้โทรมาต่อว่าอย่างที่เป็นข่าว คือโยไม่ได้โทรมาหาเก๋อย่างเป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่เป็นข่าวเลย ไม่มีเลย แล้วก็คุณเอกับโยรู้จักกันมาตั้งนาน เดินแบบมาด้วยกัน 10 กว่าปีแล้ว ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทะเลาะกันงาน อย่างที่บอกว่าเรื่องงานอยู่ที่ผู้จ้าง เก๋ก็ทำหน้าที่ในฐานะผู้รับจ้างไป เรื่องการติดต่อเท่าที่ทราบคือมีนางแบบฝรั่งเดิน แล้วชุดฟินเนเร่มีเก๋กับทาทาเดินจริงๆ ค่ะ”
“ถามว่าอยากเคลียร์มั้ย เดี๋ยวหลังจากสัมภาษณ์พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ อาจจะต้องโทรไปหาโยว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่เท่าที่ดูไม่มีเรื่องนะ แล้วโยไม่เคยโทรมาวีนเก๋เลยจริงๆ งงมากค่ะ เมื่อกี้ยังบอกทำไมงานเข้าแรงขนาดนี้ ไม่เคยทะเลาะกับใครเลยตั้งแต่ทำงานเป็นนางแบบมา 10 ปี คือเป็นนางแบบไม่ทะเลาะกันเรื่องนี้อยู่แล้ว ปกติเวลาเราทำงานสมมติเขาจ้างใครคนนั้นก็ทำงาน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทะเลาะกันเรื่องนี้ คือโยยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลยจริงๆ ถามว่าต้องเคลียร์มั้ย คงไม่ต้องเคลียร์เพราะว่าโยไม่ได้ทะเลาะกับเก๋ แล้วโยก็ไม่ได้ว่าอะไรเก๋ด้วย ไม่มีการพูดคุยกันเลย งงมากเลยที่มาเป็นข่าวอันนี้ต้องโทรไปถามออร์แกไนซ์เซอร์ เพราะเท่าที่เก๋ทราบคือเราได้รับการติดต่อมา เขาบอกว่าให้ลูกค้าเลือกเป็นชาวฮ่องกงเขาเลือกดาราคู่ ก็มีเก๋กับน้องทาทา แล้วอีกคู่นึงก็เป็นคู่นางเอกที่เป็นเพื่อนสนิทกันมีทราบแค่นี้เองคะ”
ส่วนอีกกระแสข่าวหนึ่งที่แรงไม่แพ้กันในรอบปีนี้ของนางแบบก้านยาวและพิธีกรสาวปากไว ที่ทำเอาสนามบินตุรกีสะเทือนไปตามๆ กัน หลังมีกระแสข่าวว่าไปทะเลาะวีนแตกกับสจ๊วตชาวตุรกี จนเป็นข่าวครึกโครมที่โน่น เจ้าตัวชี้แจงให้ฟังอย่างละเอียดมากว่า
“อันนี้เรื่องจริง ก็อยู่ในเหตุการณ์ คือเก๋เดินทางไปฝรั่งเศสมา ก็จะมีพนักงานคนนึงเป็นสุภาพบุรุษแสดงกิริยาไม่สุภาพกับคนไทยของเรา คือเราไปกันเป็นทริปใหญ่ 18 คน ก็จะมีปัญหาเรื่องกระเป๋าเกินน้ำหนัก เผอิญสุภาพสตรีคนนั้นเขาพูดภาษาไทยไม่คล่อง แล้วตัวสุภาพบุรุษก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่องเหมือนกัน เขาเป็นฝรั่งเศส ก็มีการสื่อสารกันไม่เข้าใจ เพราะในฐานะที่เราเป็นคนไทย คือเขามาต่อคิวข้างหน้าเก๋ ก็มีการถกเถียงกันเล็กน้อยอาจจะพูดไม่สุภาพ เราก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมพูดจาไม่สุภาพเลย”
“คือผู้หญิงคนนี้เขามีบัตรสิทธิพิเศษที่เขาโดนจับ กระเป๋าเขาหนัก 33 กก. เขามีบัตรสิทธิพิเศษเขาได้อีก 10 กก. เขาเกินมาแค่ 3 กก. คือมีปัญหาเรื่องเงินยูโรว่าเกิน 1 กก. ต้องชาร์ต 17 ยูโร แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องตัวเงิน คือเราพูดกันไม่เข้าใจ เขาพูดกันไม่เข้าใจ แล้วเก๋ก็อยู่ในเหตุการณ์ มันเลยเกิดไม่เข้าใจเขาก็เลยทำท่าทีที่ไม่สุภาพ พูดจาไม่สุภาพ เป็นคำพูดที่ไม่เพราะ เก๋บอกว่าเก๋รู้แล้วมั่นใจว่าอะไร ถามเขาว่ารู้ได้ยังไง เราก็เลยบอกว่าเราเข้าใจภาษาฝรั่งเศส แล้วในฐานะที่เขาเป็นสายการบินอินเตอร์ขนาดนี้ ภาษาอังกฤษมันเป็นภาษาสากลที่สุดให้พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย เขาเหมือนตะโกนว่า เขาบอกว่าเขาพูดภาษอังกฤษไม่ได้ เราก็อะไรเราก็ถามว่าเขาเป็นใคร เขาบอกว่าเขาเป็นหัวหน้ากราวด์ เขาก็เริ่มพูดไม่เพราะ”
“เขาบอกว่าเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราก็อ้าว...ทำไมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เขาก็ตวาดกลับมาว่าเขาไม่ได้ไปโรงเรียน เก๋รู้สึกว่าเราเริ่มทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง คือเรื่องแค่น้ำหนักเกิน แล้วคนข้างๆ ก็บอกว่าไล่ไอ้พวกเอเซียนั่นไปทีสิ เผอิญกรุ๊ปที่เราๆ ไปด้วย เขาฟังภาษาฝรั่งเศสออก เขาก็แปลให้เก๋ฟัง เฮ้ย..ทำไมเขาพูดจาไม่สุภาพ เก๋ว่าคนที่ทำสายการบิน อาชีพแบบนี้มันเป็นอาชีพบิรการควรจะมีเซอร์วิส ไม่ควรจะตวาดลูกค้า เก๋ก็บอกทำไมเขาพูดจาไม่สุภาพขนาดนี้ เก๋พูดกับเขาดีๆ นะ ถ้าคนอยู่ในเหตุการณ์คือเสียงมันค่อนข้างดังมาก เราจะอยู่กันไกลมาก ผู้ชายคนนี้เขาตะโกนมาว่าบอกให้ย้ายกรุ๊ปนี้ออกไปให้หมด”
“แล้วคนที่ไม่ใช่คนผมดำเนี่ย ให้ไปเข้าแถวอีกอันนึง ซึ่งเราแปลออกตลอด แล้วเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ ถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็บอกว่ามีปัญหาแค่เรื่องเงินผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมจ่าย 17 ยูโร คือเราฟังออกแต่พูดไม่ได้ เก๋ก็เลยบอกว่าเรื่องเงินมันไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าปัญหาคือคุณพูดจาไม่สุภาพยังไงเขาก็เป็นลูกค้า เราเป็นลูกค้าของคุณนะ เขาก็พูดมาอีกเนี่ยว่าคือคุณซื้อตั๋วชั้นประหยัด คราวนี้ก็เลยกลายเป็นแบบว่าสงครามข้ามชาติเล็กน้อย”
“นอกจากเขาจะไล่เรากลับไปแล้วเขาก็แบ่งคนฝรั่งไป เราก็เอ๊ะ..ชักไม่ถูกแล้วนะ เก๋ก็เลยบอกว่า คุณเป็นสุภาพบุรุษ น่าจะให้เกียรติผู้หญิงหน่อย ไม่ต้องทำเหมือนปฏิบัติต่อสุภาพสตรีชั้นสูงก็ได้ แต่ทำกับพวกเราคนไทย เอเซียทุกคน แต่ทำให้เหมือนกับเราเป็นมนุษย์หน่อยได้ไหม ทำไมต้องมาแบ่งชนชาติอย่างนี้ได้อย่างไร เขาก็ถามมาอีกว่าแล้วยังไงคือเขากวนตลอดจริงๆ คือมันเรื่องใหญ่มากคือมันเกิดมาจากเรื่องเล็กน้อยมากๆ คือเขาเสียงดังก่อน เก๋ก็เลยบอกเอาอย่างนี้แล้วกัน เก๋ก็เดินถอยห่างจากเขาไปไกลมาก เก๋ก็ตบมือบอกว่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านกรุณาฟังทางนี้หน่อย เก๋ก็ถามว่ามีคนกี่คนบ้างที่ซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด คนก็ยกมือเยอะมาก เก๋ก็ถามอีกว่าใครซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส ซึ่งก็คนยกมือประมาณนึง เก๋ก็หันไปบอกเขาว่าว่าเห็นมั้ยสายการบินของคุณจะบินขึ้นไปได้ ก็เพราะมีคนซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด 80% แล้วอีก 20%เป็นตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส”
“อีกอย่างตั๋วเครื่องบินที่เรามีเราก็ซื้อมานะ เราไม่ได้ได้มาฟรีๆ คือเขาเถียงเราไม่ได้ แล้วเขาก็เริ่มแบบว่าทำไมต้องเสียงดังด้วย เก๋ก็เลยบอกว่าครั้งแรกเนี่ยคุณเป็นคนเสียงดังก่อน คือเก๋พูดสุถาพตลอดเลย ไม่มีพูดคำหยาบเลย เพราะว่านึกคำหยาบอะไรไม่ออก แต่ว่าอายมากมันมาถึงขั้นนี้เลือดไทยแลนด์มันเข็มข้นมาก แล้วยิ่งมาดูถูกว่าให้เราไปทำกสิกรรมไทยแล้วกัน เราก็อ้าว..มันเริ่มเป็นการเถียงกันที่มันไร้สาระ เขาไล่เก๋ไปทำนา เก๋ก็เลยบอกแล้วคุณไม่กินข้าวเหรอ พอเขาเสียงดังปั๊ปเก๋ว่าทำอย่างนี้ไม่ถูกต้องแล้ว คนก็เริ่มมอง”
“คือเราเรียกเราว่าเอเชียพีเพิ้ลตลอดเวลา เก๋บอกว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกหนูก็เลยถอยไปไกลๆ ทำให้ฝรั่งมุงคะ ประมาณ 30 -40 คน แล้วก็พูดว่าสุภาพบุรุษท่านนี้เขาว่าดิชั้นว่าซื้อตั๋วชั้นประหยัดเราไม่มีสิทธิ์เหมือนคนอื่นเขา คนก็เฮกันใหญ่เลย แล้วเขาก็หันไปนินทาต่อมันเหมือนจะจบก็ไม่จบ ซึ่งเขาก็หันไปพูดกับผู้หญิงอีกคนนึง ซึ่งจังหวะที่เขาพูดเขาก็เท้าเอวขึ้นมา เก๋ก็บอกโอเคเข้าใจแล้วแหละ เมื่อกี้ขอโทษนะที่ว่าเธอแรงๆ ไม่น่าว่าเธอเป็นเจนเทิลแมนเลย จริงๆ แล้วเธอเป็นเลดี้ก็ไม่บอก เก๋บอกเขาว่าจริงๆ เก๋มีเพื่อนเป็นเลดี้เยอะมากเลย คือไม่ถือไม่ว่าจะเพศไหน เรารักทุกเพศ เขาเลยไม่จบ คราวนี้ยาวเลยหันเท้าสะเอวชี้โบ้ชี้เบ้พูดเป็นภาษาฝรั่งเศสหมดเลย เก๋กับทีมงานก็เลยพูดภาษาไทยใส่เขาไปบ้าง เขาก็ตะโกนถามว่าเก๋พูดอะไร เก๋ก็เลยถามว่าไหนบอกว่าเข้าใจ ก็เธอพูดฝรั่งได้เลย ฉันก็พูดภาษาไทยบ้างดิ”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะฟ้องมั้ย นางแบบสาวเปรยว่า “เราไม่ได้ฟ้องขนาดนั้น พอเกิดเรื่องตำรวจมาเลย แล้วเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขาก็มา ก็เรียกไปคุยในห้อง เขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ฟ้องๆๆ ซึ่งเราก็แปลได้ที่เขาฟ้องว่าผู้หญิงสองคนนี้มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงินแค่ 17 ยูโรคูณ 3 เก๋ก็บอกเงินไม่ใช่ปัญหา ตอนเขาทะเลาะกับเก๋เขาพูดจาไม่ดี พอต่อหน้าหัวหน้าเขา เขาไม่ได้พูดแบบนี้ เขาบอกว่าเก๋มีปัญหาแค่จ่ายเงิน เก๋บอกว่าเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องมันคือว่าคุณเทคแคร์เราไม่ดี แล้วทำไมต้องพูดจาแบบนี้ด้วย คือตอนนี้เรายื่นโนติสส์ไปทางต้นสังกัดเก๋ ถ้าเราจะมีปัญหากับใครสักคนเราต้องมั่นใจว่าเราถูกรังแกจริงๆ แล้วเราไม่ใช่เป็นคนหาเรื่อง ไม่ได้อยากหาเรื่องใคร เก๋ก็เลยโทรศัพท์กลับเมืองไทยกดอัดเสียงตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าเราทำถูกต้องหรือเปล่า คือมีการยื่นโนติสส์ไปที่เตอร์กิชแอร์ไลน์”
“ซึ่งเตอร์กิชแอร์ไลน์มันก็ไม่ได้มีอยู่ในประเทศไทย คือสงสารที่การบินไทยไม่ได้เกี่ยวข้องเลย ทางเจ้าหน้าที่เขาก็ตอบกลับมาทางแกรมมี่ฯ ต้องขอโทษมากๆ เลย เก๋บอกว่าเก๋ไม่โกรธคนไทย คือตอนเราบินไปเตอร์กิชแอร์ไลน์ที่สุวรรณภูมิก็น่ารักมาก ไม่มีปัญหา แต่มันมีปัญหาขากลับ คือเก๋อยากให้มิสเตอร์ราบาห์ที่มีเรื่องกับเราแสดงความรับผิดชอบ คือคนรอบๆ ข้าง หัวหน้าเขา นายเขา ทุกคนมาขอโทษกันหมดไม่มีปัญหา คือเกิดตรงที่ว่าเขามาอาฆาต”
พอถามต่อว่าจะไปฟ้องที่สถานทูตมั้ย สาวเก๋ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า “มันไม่เกิดการจะไปสถานทูต เพราะว่าระยะเวลาที่เขาเถียงกัน สามภาษา ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ไทย ใช้เวลา 2 ชั่วโมง พูดตรงๆ ว่าเรามีปัญหากับสุภาพบุรุษคนนี้คนเดียว ไม่อยากให้เป็นปัญหาระดับชาติ ต้องไปฟ้องสถานทูต คือหัวหน้าเขาเองผู้ชาย ผู้หญิง 2 ท่านก็มาขอโทษ เขาก็ยกมือขอโทษ ยังไม่อยากตอบตรงนี้มาฟ้อง ไม่ฟ้อง อยากให้มันเป็นไปตามกระบวนการนิดนึง ตอนนี้เขาบอกเก๋ว่าให้เขียนโนติสส์ไป”
Gossip
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1436 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย reporter
IP: Hide ip
, วันที่ 12 มี.ค. 52
เวลา 17:58:32
|