• หมอฟันจูบสาว เข้ารับข้อกล่าวหา แต่ยังปฏิเสธ อ้างถูกแบล๊คเมล์ |
โพสต์โดย reporter , วันที่ 15 ก.ค. 52 เวลา 16:34:10 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตร.หัวหมากแจ้งข้อหาหมอฟันจูบสาวแล้ว เจ้าตัวยังปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล อ้างขบวนการแบล๊คเมล์ ฝ่ายสาวเรียกค่าเสียหาย3แสน ชี้เคยถูกมือหมอโดนหน้าอก-โทรจีบหลายครั้ง ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด นายกทันตแพทยสภาฯตั้งกก. 2 ชุดสอบ
พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยวันที่ 14 กรกฎาคม ถึงกรณีหญิงสาววัย 26 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ให้ดำเนินคดีกับทันตแพทย์คลีนิคแห่งหนึ่งย่านถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ข้อหากระทำอนาจาร หลังจากถูกลวนลามด้วยการจูบปากที่คลีนิค เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ว่า
หลังเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกทันตแพทย์ผู้ถูกกล่าวหาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยก่อนหน้านั้นพนักงานสอบสวนเรียกคู่ความมาเจรจากัน ฝ่ายหญิงสาวเรียกค่าเสียหายหลักแสน ทางทันตแพทย์ไม่ยินยอมและยืนยันว่าไม่ได้กระทำอนาจาร และปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอให้การชั้นศาล
เมื่อคู่ความไม่สามารถตกลงกันได้ พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติมอีก 1-2 ปาก ซึ่งเป็นคนไข้ที่มาใช้บริการคลีนิคในวันเกิดเหตุ และได้สอบสวนพยานหมดแล้ว อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบลายนิ้วมือและประวัติของผู้ต้องหาซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ก่อนจะสรุปสำนวนส่งมอบให้อัยการนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาล ขอยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตลอดเวลาไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด
ด้านหญิงสาวผู้เสียหายให้สัมภาษณ์รายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ว่า เคยใช้บริการคลีนิคดังกล่าวตั้งแต่ปี 2549 จากนั้นมีโทรศัพท์ทำนองจีบอยู่หลายครั้งและเรียกชื่อเล่นตนอย่างถูกต้อง ซึ่งจำได้ว่าเป็นเสียงทันตแพทย์ผู้ชาย สามีของทันตแพทย์หญิงประจำคลีนิค หลายๆ ครั้งที่นัดไปทำฟัน
จะถูกทันตแพทย์ชายเอามือหรือแขนมาโดนหน้าอกเป็นประจำ และที่ผ่านมา พ่อบุญธรรมของตนแฟน และน้องชาย ขอเจรจากับทันตแพทย์ชาย แต่กลับถูกแจ้งข้อหาบุกรุกเคหสถาน
หญิงสาวผู้เสียหายกล่าวว่า หลังเกิดเหตุถูกลวนลามวันที่ 23 มิถุนายน ได้เข้าแจ้งความทางทันตแพทย์หญิงพยายามที่จะขอร้องให้ยอมความกันซึ่งฝ่าย ทันตแพทย์ชายก็ยอมขอโทษ แต่เมื่อได้ปรึกษากับทางบ้านแล้วจึงตัดสินใจว่าควรจะดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด
หญิงสาวผู้เสียหายให้สัมภาษณ์กับมติชนว่า “จริงๆ แล้ว ทางดิฉันและครอบครัวอยากให้หมอคนนี้เข็ดหลาบและไม่กล้าทำกับใครแบบนี้อีก แต่เนื่องจากว่ามีผู้ใหญ่ที่นับถือท่านหนึ่งโทรศัพท์มาคุยและบอกว่าจะคุยกับ ทางฝ่ายหมอให้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก อยากให้เราถอยออกมาหนึ่งก้าว ดิฉันและครอบครัวจึงตัดสินใจเรียกร้องค่าเสียหาย 3 แสนบาท
แต่ถ้ายอมความเพื่อให้ทุกอย่างจบไปเฉยๆ คงไม่ได้และทางหมอก็ขอเจรจาลดเงินค่าเรียกร้อง บอกทำนองว่าจะดูค่าเสียหายให้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อจากหมอคนดังกล่าวอีกเลย ซึ่งทางดิฉันและครอบครัวได้เรียนกับผู้ใหญ่ให้รับรู้แล้ว และคงต้องดำเนินการทางคดีความซึ่งทางผู้ใหญ่ก็รับทราบและให้ดำเนินการในที่ สุด”
หญิงสาวผู้เสียหายกล่าวอีกว่า ครอบครัวของตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่จำเป็นต้องเอาชื่อเสียงมาแลกกับเงิน แต่ที่ลุกขึ้นมาสู้เพราะเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับตนนั้น เป็นการถูกกระทำที่แย่มากสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง และเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณของแพทย์เป็นอย่างยิ่ง
ในวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวมติชนเดินทางไปยังคลีนิคที่ถูกกล่าวหา พบว่าเปิดให้บริการตามปกติ และเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปขอพบทันตแพทย์ผู้ถูกกล่าวหา ทางทันตแพทย์ออกมาพูดคุยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ขณะตัดเล็บมือไปด้วยโดยบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็น ความจริง น่าจะเป็นขบวนการแบล๊คเมล์เรียกหาเงินกับตนมากกว่า เพราะผู้กล่าวหาคนนี้ได้เรียกค่าเสียหายถึง 3 แสนบาท
“ผมทำงานมากว่า 20 ปี คงไม่ทำเรื่องแบบนี้แน่นอน อีกทั้งเวลาทำงานก็จะมีผู้ช่วยหมออยู่ด้วย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นได้มอบหมายให้ทนายความดูแลต่อไป” ทันตแพทย์ผู้ถูกกล่าวหากล่าว
จากนั้นผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามทนายความของ ทันตแพทย์ โดยทนายความกล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ขอให้ข้อมูลเพราะอยู่ในชั้นของกระบวนการยุติธรรม เกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี
ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังทันตแพทยสภาแล้ว เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องของจริยธรรมทางการแพทย์ จึงจำเป็นต้องให้ทันตแพทยสภาเป็นผู้พิจารณาสอบสวนทันตแพทย์ชายผู้นี้ว่า มีความผิดจริงหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจริง ทางกองการประกอบโรคศิลปะจะมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรให้ชัดเจนได้
ด้าน ศ.พิเศษ พล.ท.ทพ.พิศาล เทพสิทธา นายกทันตแพทยสภา กล่าวว่า ทางกองการประกอบโรคศิลปะได้ส่งเรื่องร้องเรียนมายังทันตแพทยสภาแล้ววันนี้ (14 ก.ค.) ซึ่งยังไม่ได้พิจารณาในรายละเอียด แต่หากพบว่าทันตแพทย์ชายมีความผิดทางด้านจริยธรรมจริง จะลงโทษตามกฎระเบียบของทันตแพทยสภา ซึ่งบทลงโทษตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ จนกระทั่งเพิกถอนใบอนุญาต
ส่วนที่จะต้องจ่ายค่าเสียหายหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับผู้ร้องทุกข์ว่าจะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในกฎระเบียบของทันตแพทยสภาที่จะดำเนินการให้ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการปิดกิจการซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองการประกอบโรค ศิลปะ แต่จากการพิจารณาพบว่า หากมีความผิดจริงเป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่น่าเกี่ยวข้องกับกิจการ
“ปกติทันตแพทยสภาจะได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับทันตแพทย์ในประเด็น บริการมากกว่าการทำอนาจาร หรือลวนลามผู้ป่วย ซึ่งแต่ละปีพบน้อยมาก แต่เมื่อร้องเรียนเกิดขึ้นต้องดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด
คือ คณะกรรมการด้านจริยธรรม และคณะกรรมการสอบสวนพฤติกรรมการประกอบอาชีพทันตกรรม และสุดท้ายต้องให้คณะกรรมการทันตแพทยสภาชุดใหญ่เป็นผู้ตัดสินอีกครั้ง จะใช้เวลาค่อนข้างนาน 4-5 เดือน” นายกทันตแพทยสภากล่าว
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1609 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย reporter
IP: Hide ip
, วันที่ 15 ก.ค. 52
เวลา 16:34:10
|