• วิบากกรรม..เกษตรกร..ลำใย..กระเทียม ฯลฯ ผลงาน ทักษิณ ทำ FTA กับจีน |
โพสต์โดย พี , วันที่ 21 ก.ค. 52 เวลา 12:53:12 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
การทำข้อตกลงเปิดทางการค้ากับจีน ที่เรียกว่า FTA ของรัฐบาล ทักษิณ ซึ่งก่อนที่จะไปเซ็นสัญญาความร่วมมือ นักวิชาการต่างๆพากันคัดค้าน ว่าจะทำให้ไทยเสียเปรียบทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม แต่ ทักษิร ชินวัตร หาได้ฟังไม่ กลับ ดันทุรังไปทำข้อตกลง จนได้ และมีผลสมบูรณ์ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546
เหตุผลสำคัญ ที่ ทักษิณ ชินวัตร บอกกับประชาชน คือ จะเป็นโอกาสของเกษตรกรไทย เพราะ จีนเป็นตลาดใหญ่มาก มีประชากร1300ล้านคนตลาดจีนใหญ่กว่าของไทยถึง20เท่า คนต้องกินอาหารและจีนยังผลิตอาหารไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงคนในประเทศ ต้องซื้อจากประเทศอื่น
แต่ นักวิชาการ แย้งว่า เงื่อนไขการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรของจีนเข้มงวดและมีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อนกว่าไทยมาก อาทิเช่น
1.มาตรฐานการตรวจสอบสินค้าในแต่ละมณทล แตกต่างกัน ทั้งระเบียบปฏิบัติและค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้ผู้ประกอบการคำนวณต้นทุนที่แท้จริงไม่ได้
2.ใบอนุญาตผู้นำเข้า ผักผลไม้ จีนอนุญาตให้เฉพาะคนจีนเท่านั้น ทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องส่งเอกสารที่เกี่ยวกับการนำเข้าให้กับชาวจีนที่มีใบอนุญาตเท่านั้น และใบอนุญาตที่จีนออกให้ชาวจีนด้วยกันเป็นใบอนุญาตเฉพาะแต่ละประเภทเช่น ใบอนุญาตนำเข้าลำใยก็ใช้เฉพาะลำใย ไม่ใช่ใบอนุญาตนำเข้าผักผลไม้ทุกชนิดแบบที่ประเทศไทยใช้ปฏิบัติอยู่ ผู้ส่งออกไทยจะเกิดความยุ่งยากมาก
3.การนำเข้าสินค้า จากไทยไปจีน แม้จะไม่เสียภาษีนำเข้าตามข้อตกลงFTAแต่ก็ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มถึง 13% ซึ่งของไทย เพียง7%
4.การจัดตั้ง บริษัท เพื่อประกอบการในจีน สำหรับ ชาวต่างชาติ ต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 3ล้านบาท ในขณะที่ ถ้าชาวจีน มาตั้งบริษัท ในไทย จะมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำเพียง 5 แสนบาท เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมาก
5.การขนส่งสินค้า จากไทยไปจีน โดยผ่านแม่น้ำโขง เรือต้องวิ่ง ทวนน้ำทำให้เสียค่าขนส่งแพงกว่า จีน ส่งสินค้ามาไทยถึง3เท่า กับ ช่วงเวลาที่ผลไม้ไทยออก จะเป็นช่วงฤดูร้อนและช่วงต้นฝน ซึ่งเป็นช่วงที่แม่น้ำโขงตื้นเขิน ต้องรอให้ จีนเปิดน้ำจากเขื่อนซึ่งประมาณ 4 วันต่อครั้ง จึงจะเดินเรือขึ้นไปได้
ข้อ ทักท้วงทั้งหมด จะเห็นว่า ไทยเสียเปรียบมาก แต่ ทักษิณ ก็ไม่ฟัง (ซึ่งข้อมูลทางลึกว่า มีวาระซ่อนเร้นเรื่องการปรับองศาดาวเทียมของจีนไป2%แต่หลักฐานเอกสารไม่มีจึงไม่ขอกล่าวรายละเอียด )
ผลจากการทำข้อตกลงเปิดเสรีทางการค้ากับจีน คือ ตั้งแต่ปี 2547-2548-2549-2550-2551 ไทยขาดดุลการค้ากับจีนมาโดยตลอด ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ไทยได้ดุลการค้าต่อจีน อาทิเช่น ปี 2545 ไทยส่งออกสินค้าไปจีน เช่น ลำใย มันเส้น มันอัดเม็ด ฯลฯ เป็นเงิน 5900 ล้านบาท และไทย นำเข้าสินค้าจากจีนเช่น แอฟเปิ้ล แพร์ เกาลัด ฯลฯ เป็นเงิน 1573 ล้านบาท ได้ดุลการค้ากว่า 4พันล้านบาท
แต่หลังจาก ทำFTA ปรากฏว่า ไทยเสียดุลการค้ามาโดยตลอด อาทิเช่น
ปี 2547 ไทยส่งออก ไปจีน 7115.1ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ นำเข้ามาถึง 8144.3 ล้านเหรียญ ขาดดุลไป 1029.2
ปี 2548 ไทยส่งออก ไปจีน 9167.6ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ นำเข้ามาถึง 11159.8 ล้านเหรียญ ขาดดุลไป 1992.3
ปี 2549 ไทยส่งออก ไปจีน 11727.9ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ นำเข้ามาถึง 13604 ล้านเหรียญ ขาดดุลไป 1876
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ถ้า เพื่อนๆต้องการข้อมูลมากกว่านี้เข้าไปที่เว็บของ สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ครับ
ผลจากการทำFTAกับจีน แม้ว่า มูลค่าการค้าขายจะสูงขึ้น แต่แนวโน้มไทยจะเสียเปรียบเพิ่มขึ้นๆ ผลจากการที่จีนส่ง ผักผลไม้มาขายในไทยซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าที่ ไทยส่งไปขายที่จีน ทำให้ ตลาดผลไม้ไทยภายในของไทยเอง หดตัวลงอย่างมโหฬารเพราะคนหันไปซื้อ ผักผลไม้เมืองหนาวจากจีนเพิ่มขึ้น ผลก็คือ ราคาต่ำติดดิน ขาดทุนกันระนาว นี่ลำใยกำลังจะออก คงต้องเห็นชาวสวนลำใย มาปิดถนน ประท้วงเพื่อขอให้รัฐบาลช่วยเหลืออีกแน่นอน เพราะถ้าไม่ให้รัฐบาลช่วยชาวสวนลำใยก็หมดตัว
นี่แหละปัญหาของเกษตรกรไทย ซึ่งผมเอาเฉพาะภาคการเกษตรมาเสนอ เท่านั้น ยังไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบภาคอุตสาหกรรมเลย เพราะเชื่อว่า ภาคอุตสาหกรรมจะเป็นกลุ่มองค์กร เป็นบริษัท พวกเขาคงดิ้นเพื่อความอยู่รอดได้ดีกว่าเกษตรกร
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 4013 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย พี
IP: Hide ip
, วันที่ 21 ก.ค. 52
เวลา 12:53:12
|