• พสกนิกรชาวไทย ร่วมจัด พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ |
โพสต์โดย luckychamp@hotmail.com , วันที่ 23 ก.ค. 52 เวลา 16:05:39 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พสกนิกรชาวไทย ร่วมจัด “พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ”
การเจริญพระพุทธมนต์แบบอาณาจักรสุวรรณภูมิ ถวายพระพรชัยมงคล
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๗ พรรษา “๑๒ สิงหาพระบรมราชินีนาถ”
วันอังคารที่ 11 สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๕.๓๐ - ๐๘.๐๐ น.
**************
เนื่องในวโรกาสคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๗ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช พร้อมด้วย พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถระสมาคม และ อาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท ประธานโครงการ “พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ” พร้อมด้วยพสกนิกรชาวไทย ร่วมใจน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัด “พิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชและสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า” พร้อมทั้ง “พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ” ซึ่งเป็นการเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ยังความเป็นสิริมหามงคลและความผาสุกแก่ประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี และ ร่วมสร้างความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ขอเชิญชวน พสกนิกรทุกท่าน เข้าร่วมบำเพ็ญบุญในพิธี “มหาชาตาบารมีสิทธิ” ในงาน“๑๒ สิงหาพระบรมราชินีนาถ” ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันอังคาร ที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๕.๓๐ - ๐๘.๐๐ น.
ดร. จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช เปิดเผยว่า “ในการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จะมีพระชนมพรรษาครบ ๗๗ พรรษา ซึ่งการเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญยิ่ง เพราะปีนี้จะมีพิธี “มหาชาตาบารมีสิทธิ” ในเช้าวันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2552 โดยมี พระพรหมวชิรญาน กรรมการมหาเถระสมาคม และ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานในพิธีสงฆ์ มีพระสงฆ์ร่วมในพิธีทั้งหมด 42 รูป และ อาจารย์ วรธนัท อัศกุลโกวิท ปรมาจารย์ศาสตร์ฮวงจุ้ยชื่อดัง เป็นประธานโครงการ “พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ” และ เป็นผู้นำประกอบพิธีฯ ซึ่งถือเป็นการสืบสานพิธีโบราณราชประเพณี เช่นครั้งสมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิ ที่ได้จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี ตามคติความเชื่อ หากดวงพระราชชะตาของผู้ปกครองแผ่นดินแข็งแกร่ง จะนำมาซึ่งความผาสุขแก่ปวงประชาทั่วทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้เกิดความสงบร่มเย็นภายในบ้านเมือง และ มีความสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ”
“ภาพรวมการจัดงาน“๑๒ สิงหาพระบรมราชินีนาถ” เริ่มตั้งแต่เช้า วันที่ 9 -10 สิงหา 2552 เป็นการแสดงกลางแจ้งบนเวทีของสถานศึกษา และ สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ตามด้วยพิธีอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลจำนวน 78 รูป ส่วนวันอังคารที่ 11 สิงหา 2552 พิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช และ สมเด็จพระบูรพามหากษัตริยาธิราชเจ้า และ พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ สำหรับวันพุธที่ 12 สิงหาคม 2552 จะมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 278 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และ วันสุดท้าย 13 สิงหาคม 2552 จะเป็นเป็นพิธีอัญเชิญเครื่องสักการะ เฉลิมพระเกียรติไปยังประตำหนักจิตรดารโหฐาน” ดร. จรินทร์ กล่าว
พระพรหมวชิรญาน กล่าวว่า “ในวันแม่ปีนี้ นับว่าเป็นโอกาสดียิ่ง ที่สาธุชนชาวไทย จะได้เข้าร่วมพีธีบุญอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงมีพระคุณูปการสูงสุดแก่ปวงชนชาวไทย พร้อมกันนี้ พสกนิกรชาวไทยจะได้ร่วมสร้างบารมีให้แก่ตนเองและครอบครัวและประเทศชาติโดยรวม อีกด้วย”
อาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท กล่าวว่า “รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญจากมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราชให้เป็นผู้นำประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ คือ พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ ซึ่งจะได้มีโอกาสนำสิ่งที่ตั้งใจมุ่งมั่นศึกษามาโดยตลอด เพื่อทำคุณประโยชน์ ร่วมกับมูลนิธิฯ ตลอดจนผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน และประชาชนชาวไทย
วัตถุประสงค์หลักในการจัดพิธีครั้งนี้ขึ้น ถือเป็นการเจริญพระพุทธมนต์แบบอาณาจักรสุวรรณภูมิ ถวายพระพรชัยมงคล ยังความเป็น สิริมหามงคล ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๗ พรรษา ในงาน “๑๒ สิงหาพระบรมราชินีนาถ”
ตามตำนานในอดีตของอาณาจักรสุวรรณภูมินั้น พิธีมหาชาตาบารมีสิทธิได้จัดเป็นประจำทุกปี ส่วนหนึ่งจัดตามคติความเชื่อที่ว่าหากดวงพระราชชะตาของผู้ปกครองแผ่นดินแข็งแกร่ง จะนำมาซึ่งความผาสุขแก่ประชาชนทั่วทั้งแผ่นดิน และนอกจากนี้ยังจัดให้เป็นพิธีสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมมือร่วมใจกันถวายความจงรักภักดี และความศักดิ์สิทธิ์ระหว่างการดำเนินพิธีจะส่งผลให้ประชาชน ผู้เข้าร่วมพิธีเกิดความสงบภายในจิตใจ มณฑลพิธีในอดีตนั้นจึงเปรียบดั่งศูนย์รวมจิตใจของประชาชนทุกคน
เมื่อกระผมได้ศึกษาประวัติศาสตร์ ก็รู้สึกศรัทธาในประเพณีดีๆที่เคยมีมาในอดีต จึงได้เริ่มต้นศึกษาอย่างจริงจังและมุ่งมั่นเสาะแสวงหาความรู้จากต้นกำเนิดหลายๆที่ ซึ่งหลายๆครั้งค่อนข้างลำบากเนื่องจากมีผู้สืบสานตำนานน้อยมาก แต่กระผมก็ไม่เคยละความพยายาม เพราะเชื่อว่าอาจจะมีสักครั้งที่กระผมได้ใช้ความรู้จากการร่ำเรียนครั้งนี้ทำประโยชน์ให้กับแผ่นดิน ซึ่งก่อนจะมีพิธีฯครั้งนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดพิธีมหาปะฐะมังสิทธิขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพิธีหลวงในอดีตที่จัดขึ้นเพื่อหนุนดวงชะตาบ้านเมืองและดวงชะตาของราชวงศ์ผู้ปกครองประเทศ ครั้งนั้นท่านประธานมูลนิธิฯ ก็ได้ให้เกียรติไปเข้าร่วมพิธี นับจากวันนั้นท่านพระพรหมวิชิรญาน ก็ได้กล่าวกับกระผมรวมถึงท่านประธานมูลนิธิฯ ว่า น่าจะจัดพิธีนี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน อีกทั้ง เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้มีส่วนร่วมในพิธีอย่างกว้างขวาง และสาเหตุจากสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนขาดกำลังใจ และประชาชนต้องการศรัทธาและความหวัง ท่านจึงฝากให้มูลนิธิฯเป็นตัวกลางในการดำเนินการร่วมกับกระผม
คณะกรรมการจึงได้พยายามดำเนินพิธีให้เป็นไปด้วยความสมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณีปฏิบัติในอดีตทุกประการเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมหามงคลที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนั้น ยังหวังว่าพิธีฯครั้งนี้อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ได้รวมพลังกันด้วยความสมัครสมานสามัคคี ผมเชื่อว่าหากเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว จะไม่มีอุปสรรคใดในบ้านเมืองที่เราจะฝ่าฟันไปไม่ได้ ไม่มีโชคชะตาใดที่เรากำหนดไม่ได้
****************
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์มูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช
ลักขณา จำปา / 084-1111 208 โทร.02-377 0127-8 โทรสาร 02 -375 2670 luckychamp@hotmail.com |
|
|
|
โดยคุณ : luckychamp@hotmail.com |
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1903 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย luckychamp@hotmail.com
IP: Hide ip
, วันที่ 23 ก.ค. 52
เวลา 16:05:39
|