การข่าวกลิ่มไม่ดีเหลิมจวกตื่นตูม
รัฐบาลตื่นตูมประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเขตดุสิต"เทพเทือก"ไม่สนม็อบมากหรือน้อยต้องป้องกันไว้ก่อน ด้านกฤษฎีกาชี้จะใช้กฎหมายความมั่นคงต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน ไม่ใช่คิดอยากจะออกกันตามใจชอบ ส่วน กอ.รมน.ยันมีแผนพร้อมรับมือเต็มที่ “มาร์ค” แย้มการข่าวได้กลิ่นไม่ดี ไม่อยากให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเดือนเม.ย.ขณะที่ “ตู่” เตือนการออกกฎหมายความมั่นคงอาจเป็นปัจจัยให้การชุมนุมยืดเยื้อ ขู่ใช้กำลังเล่นงานเสื้อแดงเป็นเรื่องแน่ “เหลิม” ติงจะเป็นตัวเร่งความร้าวฉานให้มากขึ้น ด้าน “ภูมิ ใจไทย” ลุยแหลก กม.นิรโทษกรรม “เจ๊วา” ยันต้องทำเพื่อความสงบสันติของสังคม ไม่มีอะไรแอบแฝง
* ประกาศ พ.ร.บ.มั่นคงเขตดุสิต
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอ พ.ร.บ.ความมั่นคงต่อที่ประชุม ครม. เพื่อเตรียมรับมือกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) ว่า ตนมีหน้าที่ดูแลให้ทุกอย่างเรียบร้อย ที่ต้องเสนอ ครม. เพื่อเตรียมการควบคุมและรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เมื่อถามว่า จะประกาศใช้ในเขตพื้นที่ใดบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า พื้นที่เขตดุสิต ในช่วงแรกอาจประกาศไม่กี่วันโดยเริ่มวันที่ 29-30 ส.ค. โดยตนจะเป็นผู้รักษาการ
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินเบื้องต้นว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาแค่หลักพันเท่า นั้น นายสุเทพกล่าวว่า จะมากี่คนตนก็ต้องเตรียมการ ไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะรักษาความสงบเรียบร้อย ของบ้านเมืองไว้ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่า หากประกาศเพียงพื้นที่เขตดุสิตแต่กลุ่มผู้ชุมนุมอาจ จะดาวกระจายไปนอกพื้นที่ตรงจุดนี้จะมีแผนสำรองไว้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องแก้ไปตามสถานการณ์เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย เมื่อถามแย้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าเขาไม่ได้มาก่อเหตุรุนแรง นายสุเทพกล่าวว่า ขอบคุณมากที่จะไม่ก่อเหตุรุนแรง ตนจะได้ไม่เหนื่อย
* โยนบาป“แม้ว”อยากเห็นวุ่นวาย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนจะประชุมร่วมกับเครือข่ายสื่อภาครัฐเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง รัฐบาลกังวลในเรื่องของการชุมนุม นายกฯ เกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยาก จะเห็นเหตุการณ์ความวุ่นวายเหมือนกับเดือน เม.ย. จึงไม่อยากให้มีภาพเช่นนั้นเกิดขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุม ครม.กรณี พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า ครม. อนุมัติตามที่นายสุเทพเสนอ โดยให้ประกาศใช้ในวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย. ในพื้นที่เขตดุสิตเพียงเขตเดียว
* แค่ชุมนุมไม่มีเหตุผลต้องใช้
คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรม การกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงรัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรว่า หาก ครม. ให้ความเห็นชอบก็ประกาศใช้ได้เลย ไม่ต้องให้กฤษฎีกาดู เมื่อถามว่า การจะประกาศใช้จะต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหรือไม่ คุณ พรทิพย์กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ กฎหมายว่าเหตุการณ์อะไรบ้างถึงจะออกประกาศได้ ไม่ใช่นึกจะออกได้ตามที่เห็นสมควร
เมื่อถามอีกว่า แค่มีข่าวว่าจะมีการชุมนุมกันก็สามารถออกประกาศได้เลยใช่หรือไม่ คุณพรทิพย์กล่าวว่า การชุมนุมคงไม่ใช่เหตุที่จะมาออกประกาศฉุกเฉินหรือความมั่นคง มันต้องมีมากกว่านั้นที่จะกระทบต่อความมั่นคง เช่น มีข้อมูลด้านการข่าวว่าจะมีเหตุรุนแรงถึงจะออกประกาศได้ ทั้งนี้การประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ถือว่ามีความรุนแรงน้อยที่สุด และรุนแรงน้อยกว่าการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
* กอ.รมน.สกัดมือที่ 3 ก่อเหตุ
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจะเกิดความรุนแรง หากมีการรวมตัวกันจริงนครบาลก็จัดเตรียมกำลังตำรวจรองรับมาตรการปฏิบัติใน เรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตดุสิตนั้น เมื่อประกาศใช้ กอ.รมน. ก็จะเป็นผู้รับ ผิดชอบซึ่งก็มีการประสานขอกำลังทหารไปแล้ว ตำรวจทำหน้าที่สนับสนุนในการดูแลการชุมนุม
พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า คงไม่ต้องสั่งการอะไรเพิ่มเติม เพราะมีแผนรองรับอยู่แล้ว และไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงอะไร ผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะทำตัวเรียบร้อยต้องการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเท่า นั้น โอกาสที่มือที่ 3 จะมาก่อเหตุก็เป็นไปได้ยาก
* นัดประชุมออกข้อกำหนด
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม. เห็นชอบในการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 ระหว่างวันที่ 29 ส.ค. ถึง 1 ก.ย. และในวันที่ 28 ส.ค. จะมีการประชุม กอ.รมน. เพื่อออกประกาศและข้อกำหนดทั่วไปจะเป็นการควบคุมเส้นทางคมนาคม การเข้าออก การใช้พื้นที่ ควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และควบคุมอาคารสถานที่ต่าง ๆ
นายปณิธานกล่าวว่า รัฐบาลทำงานโดยมีพื้นฐานข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองฝ่ายความมั่นคง พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็ออกมาเพื่อดูแลสิทธิของผู้ชุมนุมด้วย เพราะสามารถฟ้องร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ได้ เมื่อปฏิบัติงานเสร็จแล้วต้องรายงานต่อสภาผู้แทนและวุฒิสภา ซึ่งรัฐบาลต้องการให้เกิดบรรยากาศ ที่ดีในการชุมนุม ไม่กระทบต่อการฟื้นตัวของประเทศ
* ยันการข่าวมีกลิ่นไม่ดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ว่า แม้กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาความวุ่นวาย แต่ด้านการข่าวทำให้รัฐบาลไม่สามารถวางใจได้ อาจมีมือที่ 3 หรืออุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้น รัฐบาลจึงตัดสินใจว่าจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย โดยมอบหมายให้นายสุเทพเป็นผู้อำนวยการฯ ส่วนเจ้าพนักงานจะมีการบูรณาการทั้งทหารและตำรวจ
“ขอย้ำว่ารัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน แต่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อีกทั้งต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการที่จะช่วยดูแล ไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เพื่อให้บรรยากาศของบ้านเมืองเอื้อต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่อไป” นายอภิสิทธิ์กล่าว
* ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดือน เม.ย.
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถชุมนุมที่ท้องสนามหลวงได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้ แต่ต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการที่ ข้าราชการที่จะเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เราไม่ต้องการให้เกิดการเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาลอีก เพราะจะเกิดผลกระทบ และมีความสุ่มเสี่ยงต่อการลุกลามของเหตุการณ์
“ผมเชื่อว่าประชาชนไม่ต้องการเห็นเหตุ การณ์ซ้ำรอยเดือน เม.ย. ถ้าเราตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ส่วนเขาอยากจะใช้สิทธิในการชุมนุม แสดงออกทางการเมืองก็สามารถทำได้” นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า
วันนี้ยังไม่มีการประกาศห้ามการชุมนุม เป็นเพียงการประกาศพื้นที่ และจะมีการประชุม กอ.รมน. ในวันที่ 28 ส.ค. ส่วนการใช้อำนาจ จะเข้มข้นแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การที่รัฐบาลประกาศออกมาเช่นนี้ไม่ได้เป็นการยั่วยุ
* “ชุมพล”หวั่นกระทบท่องเที่ยว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม. ระหว่างที่นายกฯ เสนอใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงนายชุมพล ศิลปอาชา รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา ได้ถามว่าหากประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวแล้ว เรื่องการท่องเที่ยวจะเป็นอย่างไร ซึ่งนายกฯ ได้ตอบทีเล่นทีจริงว่า “ผมไม่ รู้ เพราะไม่ได้เป็นเสื้อแดง แต่ทางการข่าวก็ทราบว่ามีการเตรียมการที่จะทำให้เกิดสถานการณ์ไม่ดีขึ้นใน บ้านเมือง จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือมาดูแล” นายชุมพลได้ถามอีกว่า ประกาศใช้เฉย ๆ ใช่ หรือไม่ แต่ไม่ได้ดำเนินการอะไร นายกฯ ตอบว่า ประกาศแล้วก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ต้องมีการดูแลตรวจค้น
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และประธาน ส.ส.แถลงถึง ครม. มีมติเห็นชอบประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. ถึง 1 ก.ย. ว่า รัฐบาลตื่นเต้นตกใจเกินเหตุรีบประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ทั้งที่ยัง ไม่รู้ว่าวันที่ 30 ส.ค. จะเกิดอะไรขึ้น การออก พ.ร.บ. ดังกล่าวไม่น่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้รัฐบาลงานเข้าฝ่ายค้านต้องดำเนินการแน่นอน การใช้อารมณ์ประกาศใช้ พ.ร.บ.นอกจากลิดรอน สิทธิประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อประเทศ นักท่องเที่ยวนักลงทุนก็ไม่กล้าเข้ามา และมีแต่จะสร้างรอยร้าวมากขึ้น ถ้าวันที่ 30 ส.ค. เกิดอะไรขึ้นมารัฐบาลต้องรับผิดชอบ
* “ตู่”ขู่ทำร้ายเสื้อแดงวุ่นแน่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค. ว่า การชุมนุมครั้งนี้จะไม่พูดถึงรายละเอียดของการถวายฎีกา แต่จะพูดถึงการเล่นเกมการเมืองของรัฐบาล รวมถึงแสดงทีท่าให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์หมดความชอบธรรมที่จะดำรงตำแหน่งนายก รัฐมนตรีแล้ว และเมื่อพอถึงเวลาอันควรก็เดินทางกลับ
“แต่เมื่อรัฐบาลมาประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ อาจจะเป็นเงื่อนไขที่เราจะชุมนุม ยืดเยื้อ หรือหากมีการใช้อาวุธทำร้ายคนเสื้อแดงที่ชุมนุมด้วยมือเปล่าเมื่อใด ก็ถือเป็นปัจจัยที่เราจะชุมนุมยืดเยื้อเมื่อนั้น จึงอยากเตือนรัฐบาลว่าระวังจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ทั้งนี้กลุ่ม นปช. จะประชุม หารือเกี่ยวกับท่าทีการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในวันที่ 26 ส.ค. และจะแถลงท่าทีที่ชัดเจนในวันเดียวกัน เวลา 13.00 น. ที่ห้างอิมพีเรียล ลาด พร้าว” นายจตุพรกล่าวและว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 26 ส.ค. จะเริ่มที่ท้องสนามหลวงและเคลื่อนไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เป็นการเคลื่อนไหวของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ร่วมกับกลุ่มเสื้อแดงอื่น ๆ ไม่เกี่ยวกับกลุ่ม นปช. แดงทั้งแผ่นดิน เพราะเรามีมติชุมนุมในวันที่ 30 ส.ค. เท่านั้น
* เปิดห้องมั่นคงเก็บรักษาฎีกา
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้า หน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทยอย ขนกล่องรายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ร่วมกันลง ชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 383 กล่องขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน เพื่อส่งต่อยัง กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นกระทรวงยุติธรรมจะได้ทำการตรวจสอบรายชื่อทั้งหมดตามขั้นตอนของ กฎหมายก่อนที่จะสรุปความคิดเห็นกลับไปยังสำนักราชเลขาธิการเพื่อดำเนินการ ต่อไป
ด้านนายโกศล วิชิตธนาฤกษ์ รองเลขา ธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำฎีกาของกลุ่มเสื้อแดง มาส่งมอบให้กับนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่สำนักรักษาและจำหน่ายทรัพย์สิน กรมบังคับคดี ภายหลังการตรวจรับ เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าไปเก็บไว้ในห้องมั่นคง โกดัง 2 ห้องซึ่งเป็นห้องกระจก มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาและมีกล้องวงจรปิดตรวจจับตลอด 24 ชั่วโมง
* “เจ๊วา”ยันพรรคตั้งใจให้สังคมสงบ
อีกด้านหนึ่งนางพรทิวา นาคาศัย รมว. พาณิชย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี แสดงความไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่พรรคภูมิใจไทยเสนอต่อรัฐสภาว่า พรรคมีความตั้งใจอยากให้สังคมสงบสามัคคี ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้ เมื่อถามว่า มีการมองว่าถ้าร่างกฎหมายดังกล่าวออกมา จะทำให้วงจรความรุนแรงไม่จบสิ้น เลขา ธิการพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า เราคาดว่าความขัดแย้งจะลดลง
เมื่อถามต่อว่า การที่นายกฯ แสดงความไม่เห็นด้วยจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้หรือไม่ นางพรทิวากล่าวว่า เรื่องของความคิดเห็นก็เป็นเรื่องธรรมดา ถ้ามีความคิดเห็นเหมือนกันหมดคงไม่ใช่ จึงต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นธรรมดา
* มองต่างกันเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรต่อการที่นายกฯระบุว่าร่างกฎหมายนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ที่ต้องรีบพิจารณาในตอนนี้ นางพรทิวากล่าวว่า มองคนละมุม นายกฯ มองมุมหนึ่ง พรรคอื่นมองมุมหนึ่ง ส่วนพรรคของเราก็มองอีกมุมหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องขัดแย้ง แต่เป็นการมองที่ไม่เหมือนกันเท่านั้น
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อคนที่ผิดจะได้รับนิรโทษกรรมอย่างง่ายดาย นางพรทิวากล่าวว่า ไม่ได้เรียกว่าง่ายดาย มันไม่ใช่ง่าย ร่างกฎหมายนี้อาจจะตกก็ได้ในการพิจารณาของสภา
* ยัน ก.ม.นิรโทษกรรมลดขัดแย้ง
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงพรรคเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมฯให้ที่ประชุมสภาพิจารณาว่า พรรคต้องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง เชื่อว่ากฎหมายนี้น่าจะลดความขัดแย้งหรือเงื่อนไขได้ เมื่อยื่นแล้วก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสภาจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนิน การอย่างไร เราเสนอกฎหมายด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ และขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้วินิจฉัยตัดสิน หากกฎหมายนี้ไม่ผ่านการพิจารณาก็รู้สึกเสียดายในสิ่งที่เราตั้งใจทำเพื่อ บ้านเมือง
เมื่อถามว่า หากกฎหมายไม่ผ่านการเห็นชอบ พรรคจะรู้สึกเสียหน้าหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า การคิดอะไรเพื่อบ้านเมืองแล้วเสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยเราก็ต้องยอมรับ แต่ไม่ได้รู้สึกเสียหน้าอะไร ถ้ามัวแต่คิดว่าทำอะไรสักเรื่องแล้วเสียหน้า ก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเลย
* “เนวิน”รับกินข้าวกับ “สุวัจน์”
นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายอภิสิทธิ์แสดงความเห็นคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ว่า ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ จะผ่านสภาหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องประเด็นการเมือง แต่พรรคที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ต้องตอบสังคมให้ได้ ว่าทำไมไม่เห็นด้วย เพราะการเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ไม่มีนัยการเมือง เราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อประเทศจริง ๆ
นายเนวินยังกล่าวถึงการรับประทานอาหารร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ว่า ตนไปรับประทานอาหารจริงที่บ้านนายสุวัจน์ ส่วนรายละเอียดการหารือให้ไปถามนายสุวัจน์เอาเอง
* พท.บี้เร่งรัดคดีพันธมิตรฯ
วันเดียวกันนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิและบุกยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เพราะการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ตรงข้ามกับการเอาผิดกับกลุ่มคนเสื้อแดงกลับเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำพูดของนายกฯที่ระบุว่า จะดำเนินการกับทั้ง 2 กลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ตนจะให้เวลานายกฯ เร่งรัดการทำงานให้เร็วที่สุด แต่ถ้าเพิกเฉยสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นเรื่องเอาผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต่อไป
จากนั้นนายพร้อมพงศ์ได้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร. ในฐานะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เพื่อทวงถามการเอาผิดกับผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่ยังล่าช้าไม่มีความ ชัดเจน หากไม่ดำเนินการภายใน 10 วัน จะไปยื่นดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในข้อหากระทำผิดอาญา ม.157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และตนมีข้อมูลว่าในช่วงที่มีการบุกยึดสนามบินได้มีการเบิกงบลับของสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ จำนวน 80 ล้านบาท ไปดำเนินการใช้จ่ายในทางที่ไม่โปร่งใส
* ภท.ปัดเปิดวิทยุสู้ “แม้ว”
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเตรียมเปิดสถานีวิทยุเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและ สร้างความสมานฉันท์ในสังคมว่า พรรคไม่ได้มีสถานีวิทยุเป็นของตัวเอง เพียงแต่มีสถานีวิทยุที่เป็นเครือข่ายทดลองออกอากาศอยู่ 2 สถานี คือ คลื่น 91.75 และ 102.75 มีเนื้อหาเกี่ยวกับการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง
เมื่อถามว่า สถานีวิทยุดังกล่าวเป็นการตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า สถานีของเราจะเป็นเครื่องมือสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นใน สังคมทุกเรื่อง เน้นใน เรื่องการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สังคมได้ใช้ดุลพินิจได้ฟังความรอบด้าน ในอนาคตอาจจะมีการพิจารณาในเรื่องทีวีผ่านดาวเทียม เพราะขณะนี้เป็นเรื่องของสงครามสื่อ เมื่อถามว่า จะมีบุคคลระดับแกนนำของพรรคไปร่วมจัดรายการด้วยหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ต้องติดตามกันต่อไป
* “มาร์ค”จูง ครม.อวยพร “ป๋า”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะรัฐมนตรีเดินทาง มายังบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นได้เดินทางออกไปยังที่ทำการพรรค
ด้านนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.เปรม ได้อวยพรให้พระสยาม เทวาธิราชคุ้มครองนายกฯ และคณะรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จ และเชื่อว่านายกฯ สามารถทำได้
* ค้านข้อเสนอสมานฉันท์
วันเดียวกันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทย ร่วมกับภาควิชา การปกครอง คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาสาธารณะ เรื่อง “วิพากษ์ 6 ข้อเสนอ คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ประชา ชนได้อะไร” โดยนายตระกูล มีชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ยังไม่พบแนวทางสมานฉันท์ แต่เห็นด้วยกับข้อเสนอการยกเลิกยุบพรรคในมาตรา 237 และเห็นว่าควรมี ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อมากขึ้นกว่าเดิม 100 คน เป็น 250 คน ทั้งยังเห็นว่าข้อเสนอของกรรมการสมาน ฉันท์ฯ ไม่ผ่านถึงขั้นสอบตก
นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยให้มีการสอดไส้กฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามา เกรงจะมีวาระซ่อนเร้น ข้อเสนอของกรรมการสมานฉันท์ฯ จอมปลอมและไร้ทิศทาง อย่างไรก็ตามเห็นว่าหากมีกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสมานฉันท์ที่แท้จริง และเสนอให้แก้ไขมาตรา 291 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
* บีบนายกฯขอคำตอบใน 7 วัน
วันเดียวกันที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชูชาติ สุกันต์ ประธานชุมชนวัดมะกอก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมพวกประมาณ 50 คน ในฐานะตัวแทนเครือข่ายชุมชน 17 ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากการระงับจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์และเครื่องผลิตปุ๋ยชีวภาพ ตามโครงการชุมชนพอเพียงของรัฐบาล เดินทางมายื่นหนังสือให้นายเจริญ คันธวงศ์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุมชนพอเพียง
นายชูชาติกล่าวว่า โครงการชุมชนพอเพียงกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคฝ่ายค้านนำไปโจมตี ทำให้โครงการถูกระงับ ผู้ที่เสียประโยชน์คือชาวบ้านโดยตรง จึงอยากถามนายกฯว่าจะดำเนินโครงการไปในทิศทางใด จะให้ทำอย่างไรต่อไป และจะมารับคำตอบจากนายกฯ ในอีก 7 วัน
* “แม้ว”อวยพร“ป๋า”ผ่านทวิตเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายจักรภพ เพ็ญ แข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำ นปช. ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ได้เขียนบทความเรื่อง “ทักษิณกลับบ้าน?” ลงหนังสือพิมพ์ “แนวร่วม red” เนื้อหาส่วนใหญ่พูดถึงแกนนำ นปช. 3 คนที่คุมคนเสื้อแดงอยู่ว่ากำลังจะเหลิงในอำนาจ มีการพูดเป็นนัยหลอกใช้ พ.ต.ท. ทักษิณพร้อมหลอกคนเป็นล้านเข้าป่าช้า สนุกกับคนเสื้อแดงจำนวนมากจนลืมภารกิจที่ต้องล้มอำมาตย์ พร้อมเตือนให้หยุดเล่นกับความฝัน ไม่เช่นนั้นขบวนการประชาธิปไตยจะถูกทำลายเกลี้ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 25 ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณได้โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอทคอม มีใจความว่า “ฝากแฮปปี้เบิร์ธเดย์จากแดนไกลขอให้ป๋ามีสุขภาพแข็งแรงนะครับ” อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้โพสต์ข้อความว่า จะหยุดทวิตเตอร์ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบอะไรบางอย่าง เนื่องจากสงสัยว่ามีบางคนพยายามเข้ามาในล็อกอินของตัวเอง.
ที่มา เดลินิวส์
