ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สธ.เผยใช้ยาต้านไวรัสโอเซลฯ ไปแล้ว 1.8 ล้านเม็ด แจ้งยอดผู้เสียชีวิตไข้หวัดใหญ่ 09 ลดลงเหลือ 8 ราย คงตรึงมาตรการ 2 ลด 3 เร่งเข้มข้นต่อเนื่อง เตรียมจัดกองทัพสุขภาพลงพื้นที่ให้ความรู้ทั่วไทยช่วงปิดเทอมนี้
วันนี้ (26 ส.ค.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.วิฑิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และน.ส.มาลินี จิตตกานต์พิชย์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ของประเทศไทย
จาก การวิเคราะห์สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าการระบาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และขยายตัวไปสู่ต่างจังหวัด แนวโน้มกระจายลงสู่เขตชนบท โดยพบผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ แต่พบมากขึ้นในกลุ่มวัยแรงงานอายุ 31-45 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างและเกษตรกร และพบมีการแพร่ระบาดในสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมากหรือมีกิจกรรมที่ต้องอยู่ ร่วมกัน เช่น โรงเรียน เรือนจำ ค่ายเยาวชน เป็นต้น ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดคงมาตรการ 2 ลด คือ ลดการติดเชื้อและป่วยให้มากที่สุด ลดการเสียชีวิตให้มากที่สุด และ 3 เร่ง คือ เร่งให้อสม.ค้นหาผู้ป่วยทุกชุมชน เร่งเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันตนเอง และเร่งรัดการบริหารจัดการความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งในส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น
ทั้ง นี้ คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ ของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีพลตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการประชุมเมื่อวานนี้ และเห็นว่าสถานการณ์ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่องเป็นกลุ่มๆ จึงให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนคงมาตรการต่างๆ ที่ทำอยู่ต่อไปอย่างเข้มงวด ทั้งการคัดกรองนักเรียนในโรงเรียน การให้อสม.ค้นหาผู้ป่วยในชุมชน การพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาล และเพิ่มการเข้าถึงยาต้านไวรัส รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขณะ เดียวกันให้หน่วยงานต่างๆ ดูแลสถานที่ในความรับผิดชอบที่เป็นจุดเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาด เช่น สถานเลี้ยงเด็กและคนชรา โรงเรียนปริยัติธรรม เพื่อชะลอการระบาดของโรค และลดการเสียชีวิตของประชาชน และที่ประชุมได้ขอความร่วมมือสถาบันศึกษาด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกแห่ง จัดกิจกรรมให้นักศึกษาแพทย์ พยาบาลและสาธารณสุข ออกค่ายเป็นกองทัพสุขภาพ รณรงค์ให้ความรู้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ และเป็นผู้นำสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องแก่ประชาชน เช่น การล้างมือ การใช้หน้ากากอนามัย เป็นต้น ช่วงปิดภาคการศึกษา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนประสานงาน
สำหรับนโยบายกระจายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ได้กระจายยาไปยังทุกจังหวัด 6,677,341 เม็ด และสำรองไว้ส่วนกลางทั้งหมด 5,999,410 เม็ด จนถึงขณะนี้มีการใช้ยาไปแล้ว 1.8 ล้านเม็ด จากการประเมินการเข้าถึงยาต้านไวรัส พบว่าผู้ป่วยเข้าถึงยาเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 16-22 สิงหาคม 2552 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 8 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 4 ราย ร้อยละ 50 อายุอยู่ระหว่าง 31-40 ปี และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง สรุปยอดเสียชีวิตสะสม 119 ราย
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ อ้างข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิด เผยยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก ล่าสุดพุ่งสูงถึง 180,000 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1,799 คน ทั้งนี้เชื้อไวรัสมีการแพร่ระบาดตั้งแต่พื้นที่ชนบท กระทั่งเมืองพัฒนาแล้ว และคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังคงเพิ่มขึ้นอีก
นอก จากนี้กลุ่มประเทศที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ตามพื้นที่ชนบท อาจทำให้เชื้อไวรัสชนิดใหม่เกิดขึ้น และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งยากต่อการควบคุม ในกลุ่มประชาชนรายได้น้อย ด้าน พูดเชี่ยวชาญกล่าวแสดงความเป็นห่วงประเทศในแถบเอเชียว่า เชื้อไวรัสอาจแพร่บาดบาดมากขึ้นในประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย บังกลาเทศ รวมถึงประเทศในแถบละติมอเมริกา และทวีปแอฟริกา
ที่มา ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|