| • เผย คาซัคขนอาวุธคายแอบผ่านไทย4รอบ มาแล้ว |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 15 ธ.ค. 52 เวลา 09:08:48 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ฝากขังครั้งแรก “แก๊งขนอาวุธสงครามข้ามชาติ” คอมมานโดคุมเข้ม พงส.ค้านประกันตัว กลัวเผ่นหนี ทนายยื่นหลักทรัพย์คนละ 4 แสนบาทขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกัน ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที เผยผลสอบผู้ต้องหายอมรับทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่บอกว่าใครอยู่เบื้องหลัง ด้านนายกฯ ชี้ต้องใช้เวลาอีกระยะแจงข้อเท็จจริงขบวนการขนอาวุธ ยอมรับเครื่องบินเคยผ่านน่านฟ้าไทย “เทพเทือก” ซัด “ตุ๊ดตู่” บ้าไปแล้ว ป้ายสีรัฐบาลรับสินบนนำจับอาวุธสงคราม 7 ล้านดอลลาร์ฯ เลขาฯสมช.เรียก ตร.-อัยการ-ทอ.-บัวแก้ว ถกคดีจับกุมเครื่องบินขนอาวุธเข้าประเทศ อธิบดีอัยการเผยเบื้องต้นแจ้งได้แค่ข้อหาขนอาวุธเข้าประเทศ รอสอบเชิงลึกต่อไป รอง อสส. ชงเรื่อง ตั้งอัยการต่างประเทศร่วมสอบ
กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเข้าตรวจค้นเครื่องบินลำเลียงแบบเช่าเหมาลำ สัญชาติจอร์เจีย ขณะแวะจอดเติมน้ำมันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พบขีปนาวุธอานุภาพร้ายแรงจำนวนมาก น้ำหนักรวมเกือบ 40 ตัน จึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 5 คนมาสอบสวนที่กองปราบปราม เป็นชาวคาซัคสถาน 4 คน ชาวเบลารุส 1 คน เบื้องต้นทั้งหมดให้การว่าเดินทางจากกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ เตรียมมุ่งหน้าไปประเทศศรีลังกา แต่ปฏิเสธไม่ทราบว่าสินค้าที่รับจ้างบรรทุกเป็นอาวุธสงคราม ขณะที่รัฐบาลไทย ระบุต้องดำเนินการตามมติขององค์การสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องเกาหลีเหนือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า ที่กองปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 14 ธ.ค. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาท รรท.ผบก.ป. พ.ต.ต.มิ่งมนตรี ศิริพงศ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.นำตัวผู้ต้องหาขบวนการขนอาวุธข้ามชาติ ประกอบด้วยนายอิลยาส อิสซาคอฟ (IIyas Issakov) อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 1, นายวิคเตอร์ อับดุลลายัฟ (Viktor Abdullayev) อายุ 58 ปี สัญชาติคาซัคสถาน เนวิเกเตอร์, นายมิคคาอิล พีทูคู (Mikhail Petukou) อายุ 54 ปี สัญชาติเบลารุส ช่างเครื่องยนต์, นายอเล็กซ์ซานเดอร์ ไซร์บาเนฟ (Alexandr Zrybnev) อายุ 53 ปี สัญชาติคาซัคสถาน ช่างเทคนิค และนายวิทาลี ซุนคอฟ (Vitaliy Shunkov) อายุ 54 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 2 เป็นผู้ต้องหาที่ 1-5 ตามลำดับ ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยมีเจ้าหน้าที่คอมมานโด กก.ปพ. บก.ป.3 ชุด วางกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา
ในคำร้องระบุว่าเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 52 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมอาวุธ และเครื่องกระสุนปืนของกลาง 145 ลัง โดยเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2552 นายนิมิต แสงอำไพ หัวหน้าสืบสวนปราบปรามทางบก 2 กรมศุลกากร และพวก รับแจ้งว่ามีเครื่องบิน IL-76 เที่ยวบินที่ AWA 732 เดินทางจากกรุงเปียงยาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) จุดหมายไปประเทศศรีลังกา แวะจอดเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่า อากาศยานดอนเมือง จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมากับเครื่องบิน ต่อมาสำนักข่าวกรองมีหนังสือแจ้งถึง ผอ.ทบ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจค้นโดยละเอียด
กระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. กองทัพอากาศ เจ้าหน้าที่อากาศยานดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้นำสิ่งของที่บรรทุกมากับเครื่องบินตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ดอนเมือง แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 และ 72 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทั้งหมดทราบแล้ว โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัว ชั่วคราว เนื่องจากอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ปืนของกลางที่พบมีจำนวนมาก จึงเชื่อว่ามีพฤติการณ์ทำเป็นขบวนการลักษณะองค์กรอาชญากรรม ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติเกรงว่าจะหลบหนีศาลพิจารณาคำร้อง แล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฝากขังเรียบร้อย เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ขึ้นรถตู้สีขาวติดฟิล์มทึบของตำรวจคอมมาน โด 2 คัน ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมีรถยนต์สายตรวจกองปราบปรามขับประกบดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ต่อมาเจ้าหน้าที่สถานทูตคาซัคสถาน และเบลารุส ได้ตั้งทนายความให้กับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน และเดินทางมาขอยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาต่อศาล โดยใช้หลักทรัพย์คนละ 4 แสนบาท ศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง มีของกลางจำนวนมาก หากปล่อยตัวไปเกิดความวุ่นวาย อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ เกรงว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ ให้ยกคำร้อง
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่าลักลอบขนส่งชิ้นส่วน และอะไหล่อาวุธสงครามข้ามชาติมาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ไม่เปิดเผยว่านำไปส่งให้กับกลุ่มไหน และมีใครเป็นคนว่าจ้าง หรืออยู่เบื้องหลัง โดยเดินทางจากประเทศยูเครนผ่านน่านฟ้าอาเซอร์ไบจาน เข้าเส้นทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผ่านประเทศไทย มุ่งหน้าไปรับสินค้าที่กรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อบรรทุกสินค้าได้เต็มลำก็เดินทางต่อไปส่งสินค้าบางส่วนที่ประเทศ ศรีลังกา จากนั้นได้ลำเลียงอาวุธไปส่งต่อยังประเทศแถบตะวันออกกลางให้กับพวกแบ่งแยก ดินแดน และใช้เส้นทางเดิมเดินทางกลับประเทศยูเครน พร้อมกับอาวุธสงครามจำนวน หนึ่ง ซึ่งการขนส่งอาวุธสงครามผ่านน่านฟ้าไทยนั้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. การเดินอากาศ และความผิดสำแดงหลักฐานเท็จ
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก สตช.กล่าวว่า ก่อนนำตัวมาฝากขัง เจ้าหน้าที่สถานทูตได้มาติดต่อและจัดหาทนายความให้ผู้ต้องหา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อธิบายขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายไทยให้ทราบ โดยเข้าใจแล้ว ส่วนคดีจะมีการสอบสวนขยาย ผลถึงใครอีกบ้าง ทาง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. ได้ประสานกับอัยการสูงสุดเพื่อหารือข้อกฎหมายในการดำเนินคดี และเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนพยาน หลักฐานส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดีได้ทันภายใน 84 วันตามกรอบกฎหมาย ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เปิดเผยข้อมูลว่า ทางสหรัฐมีการตั้งรางวัลนำจับจำนวนมากนั้น โฆษก สตช. ปฏิเสธว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการ จับกุมขบวนการลักลอบขนอาวุธจากประเทศเกาหลีเหนือ ว่า การตรวจสอบคงต้องใช้เวลา เพราะของกลางมีหลากหลายพอสมควร และจะต้องไปเทียบเคียงกับข้อมติขององค์ การสหประชาชาติ ว่าของแต่ละประเภทมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เมื่อถามว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่ามีการให้รางวัลนำจับขบวนการดังกล่าว นายกฯ ปฏิเสธว่ายังไม่ทราบเรื่อง แต่หน้าที่ของเราคือการเป็นสมาชิกที่ดีของประชาคมโลก และทำตามข้อมติของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นหลักดำเนินการ ไม่ใช่เรื่องอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าขบวนการดังกล่าวเคยเข้ามาในเมืองไทยบ้างหรือไม่ นายอภิ สิทธิ์ กล่าวว่า ทราบว่าเครื่องบินลำนี้เคยผ่านไปผ่านมาเหมือนกัน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าแต่ละครั้งมีหลักฐานอะไรแค่ไหน เมื่อถามว่าทราบเบาะแสมาก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่ามีการประสานงานเป็นระยะ เมื่อถามว่าจะมีการแถลงข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะทางตำรวจแถลงข้อเท็จจริงอะไรไม่ได้ นายกฯ กล่าวว่าให้เขาทำให้เรียบร้อยก่อนแล้วจะมีการเปิดเผย เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายประเทศ เราต้องระมัดระวังในเรื่องความละเอียดอ่อน เพราะเราก็ต้องชี้แจงถึงแนวปฏิบัติของเราทั้งหมดว่าเป็นไปตามข้อมติของสห ประชาชาติอย่างไร ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกัน ถึงกรณีหลายฝ่ายกังวลว่าอาจเป็น การชักศึกเข้าบ้าน ว่า เราดำเนินการด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ดูทั้งกฎหมายไทย และกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งมติของ สหประชาชาติ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ก็ต้อง ดำเนินการ ยืนยันว่าทำถูกต้องทุกขั้นตอน เพียงแต่ขณะนี้ยังตรวจสอบและทำบัญชี อาวุธที่ยึดได้ไม่ครบ เพราะมีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา ส่วนกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่าการจับเครื่องบินขนอาวุธสงคราม รัฐบาลไทยได้รางวัลนำจับจากประเทศสหรัฐอเมริกา 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นายสุเทพ กล่าวว่า “คุณยังเชื่อจตุพร แล้วมาถามผมทำไม” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสุเทพกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ผมไม่ชี้แจงกับคนบ้า ๆ บอ ๆ จตุพรมันบ้าไปแล้ว” จากนั้นนายสุเทพเดินออกจากที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจับกุม 5 ผู้ต้องหาขนอาวุธสงครามข้ามชาติ โดยอ้างแหล่งข่าวว่า เป็นการประสานงานจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีรางวัลนำจับ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงอยากให้รัฐบาลออกมาชี้แจงว่า ใครเป็นผู้จัดการและรับเงินรางวัลนี้ รวมทั้งคุ้มค่าหรือไม่ เพราะประเทศไทยอาจตกเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับเครือ ข่ายค้าอาวุธข้ามชาติ
ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเรื่องการจับกุมเครื่อง บินลักลอบขนอาวุธที่สนามบินดอนเมือง โดยมี พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ส.นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ รองอธิบดีกรมอัยการฝ่ายต่างประเทศ ตัวแทนจากกองทัพอากาศ และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วม นายศิริศักดิ์ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวพันกับต่างประเทศ ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 กำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และจะ ได้มอบหมายให้มีพนักงานสอบสวนเป็นผู้รับ ผิดชอบคดีด้วย “เบื้องต้นมีความผิดเพียงนำอาวุธเข้ามา ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายของไทย จึงจะสอบสวนไปตามกฎหมายของเราก่อน จากนั้นจะสอบในเชิงลึกต่อไป”
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ 5 ผู้ต้องหาคดีขนอาวุธข้ามชาติ ว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และกระทำผิดต่อเนื่องในราชอาณาจักรไทย ซึ่งตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2551 มาตรา 20 บัญญัติว่าให้อำนาจอัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวน หรือให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานสอบสวนผู้หนึ่งผู้ใด หรืออัยการคนหนึ่งคนใดเป็นพนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดี หรือให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานสอบสวนและอัยการ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน โดยคดีดังกล่าวตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว และทำความเห็นเสนอนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 20 แต่งตั้งอัยการร่วมสอบสวนคดีกับพนักงานสอบสวน
นายถาวรกล่าวว่า ตนเสนอให้มีพนักงานอัยการจากสำนักงานต่างประเทศ 2 คนร่วมสอบสวนด้วย คือนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ และร.ต.ต.โสภณ เกษมพิบูลย์ชัย อัยการประจำกรมสำนักงานต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหากพบว่าคดีดังกล่าวมีการสอบสวนคดีในต่างประเทศด้วย อัยการก็จะต้องใช้ช่องทางตามกฎหมายระหว่างประเทศประสานขอข้อมูลต่อไป อย่างไรก็ดีคาดว่าภายในสัปดาห์ นี้อัยการสูงสุดจะมีหนังสือเป็นทางการออกมาว่าจะใช้อำนาจตามมาตรา 20 อย่างไร ส่วนจะมีการตั้งเรื่องส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือ ไม่นายถาวร กล่าวว่าคดีนี้ไม่มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเนื่องจากการ กระทำผิดเกิดขึ้นในประเทศไทย และยังไม่ปรากฏว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นในต่างประเทศ จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไทยให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการยุติธรรม
ที่กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ น.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผบ.กองบิน 4 เปิดเผยถึงกรณีขีปนาวุธที่ถูกตรวจยึดแล้วนำมาเก็บไว้ที่กองบิน 4 ว่า ทางกองบิน 4 จะไม่มีการให้ข่าวใด ๆ เพราะทางกองทัพอากาศจะเป็นผู้แถลงเอง กองบิน 4 มีหน้าที่เพียงเก็บรักษาอาวุธให้ดีที่สุด และให้ปลอดภัย ที่สุด ด้าน พล.อ.ต.เมธา สังขวิจิตร เจ้า กรมสรรพาวุธทหารอากาศ กล่าวว่าจากการ ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีอาวุธร้ายแรงประเภทนิวเคลียร์ตามที่หลายฝ่ายกังวล
รายงานแจ้งว่ากองบิน 4 ตาคลี ถือเป็นคลังอาวุธของกองทัพอากาศที่ดีที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากอยู่ในถ้ำที่อยู่ในหุบเขาอีกชั้น มีกำแพงคอนกรีตอย่างดีโดยรอบทั้ง 4 ด้าน มีลวดหนามขึงบนกำแพงอีก ชั้นหนึ่ง นอกจากนี้บริเวณโดยรอบมีทหารรักษาการณ์อย่างเข้มแข็ง อาวุธครบมือ มีรถตรวจการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ชาวบ้าน อ.ตาคลี ไม่วิตกกังวลแต่อย่างใด เพราะมั่นใจในการดูแลรักษาความปลอดภัย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน ว่า นายราดิลเบค อาดิโมลดา ประธานคณะกรรมการการบิน พลเรือนของคาซัคสถาน เปิดเผยว่า เครื่องบินขนส่งสินค้าแบบ อิลยูชิน-76 ซึ่งถูกยึดไว้ได้ที่สนามบินดอนเมืองเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา สงสัยว่าใช้ขนอาวุธจากเกาหลีเหนือนั้นเคยเป็นของสายการบินเอกชนของคาซัคสถาน ในชื่อ “อีสต์ วิง” ต่อมาขายต่อให้สายการบิน “ไบบารีส์” ของคาซัคสถาน แล้วขายต่ออีกทอดให้กับสายการบินของจอร์เจีย ชื่อ “แอร์ เวสต์ จอร์เจีย” เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น เครื่องบินลำนี้จึงเป็นเครื่องบินขนส่งที่ขึ้นทะเบียนในจอร์เจีย นอกจากนั้น นายราดิลเบคยืนยันว่า ลูกเรือ 4 คนของเครื่องบินลำนี้เป็นชาวคาซัคสถาน จริง และคาซัคสถานจะดำเนินการเพื่อปกป้องประชาชนของเราต่อไป.
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1176 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 15 ธ.ค. 52
เวลา 09:08:48
|
