ด.ช.สุ ไฮมี ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ที่ยะลา ต้องการ เครื่องช่วยหายใจ เป็นของขวัญวันเด็ก เพื่อนำไปใช้ที่บ้านหลังนอนรักษาตัว อยู่ที่ รพ.ศูนย์ยะลาเกือบ 2 ปีเต็ม
ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เด็กชายสุไฮมี ดอเลาะ อายุ 11 ขวบ ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทางริมถนนภายในหมู่บ้าน ขณะเกิดเหตุ เด็กชายสุไฮมี นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านพักของตนเอง ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณท้ายทอยและหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ ม.1 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ. ยะลา เมื่อวันที่17 มี.ค. 2551 ทำให้เด็กชายสุไฮมี กลายเป็นเด็กพิการเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงมา ไม่สามารถหายใจเองได้ ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดโดยมีพ่อและแม่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นเวลา22 เดือนเต็ม
สำหรับ วันเด็กในปีนี้ สิ่งที่ เด็กชายสูไฮมี ต้องการได้มากที่สุดคือ เครื่องช่วยหายใจ เพื่อจะได้นำไปใช้ที่บ้านเนื่องจากต้องการกลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน อยู่กับญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตาม เครื่องช่วยหายใจมีราคาแพงมาก นายมะตอเฮร์ ดอเลาะ ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ขณะนี้อาการน้องสุไฮมีแย่ลงการกินอาหารลดน้อยลงเนื่องจากน้องสุไฮมีอยากกลับ บ้านแต่ไม่สามารถกลับได้ น้องสุไฮมี จะมีความสุขเมื่อได้เห็นพี่ๆ น้องๆมาอยู่รวมกันและได้เห็นหน้ากัน ส่วนเครื่องช่วยหายใจที่ได้รับมอบไปก่อนหน้านี้ ไม่สามารถใช้การได้เพราะนำไปทดลองใช้ที่โรงพยาบาลอำเภอบันนังสตาได้ประมาณ 2 เดือน เครื่องก็มีปัญหา ทราบว่าเป็นเครื่องมือสอง สิ่งที่ตนเองต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือ ขอให้ลูกหายป่วยและอยากจะให้ลูกๆ ได้อยู่รวมกัน ส่วนน้องสุไฮมี เมื่อมีใครถามว่าวันเด็กปีนี้ อยากได้อะไร จะบอกเพียงว่า ต้องการเครื่องช่วยหายใจเพราะน้องสุไฮมี ต้องการกลับไปพักฟื้นที่บ้าน จะได้อยู่รวมกันทั้งครอบครัวทั้งพ่อแม่พี่น้อง
ด้าน พญ.นันทกา เทพาอมรเดช แพทย์ผ่าตัดโรงพยาบาลศูนย์ยะลากล่าวว่า อาการของน้องสุไฮมีมีอาการเกี่ยวกับกระดูกไขสันหลังที่ถูกสะเก็ดระเบิด ทำให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ต้นคอลงมา หายใจเองไม่ได้ต้องใช้เครื่องหายใจตลอดชีวิต ขณะนี้ จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจากโรงพยาบาลไปก่อนเพราะเครื่องช่วยหายใจที่มี ผู้บริจาคให้เมื่อวันก่อนตอนนี้เครื่องมีปัญหาขัดข้องไม่สามารถ ใช้การได้ จึงต้องรอเครื่องช่วยหายใจเครื่องใหม่ที่จะมีผู้ใจบุญบริจาคให้ต่อไป
ขอบคุณเนื้อหาจาก ไทยรัฐ