ฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 40
ไทย 1 – สิงคโปร์ 0
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 40 ทีมชาติไทย ลงสนามนัดแรก พบ สิงคโปร์ สำหรับตัวผู้เล่นเกมนี้ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ใช้ ธีรเทพ วิโนทัย และกีรติ เขียวสมบัติ ลงยืนเป็นกองหน้าคู่ ขณะที่ ดัสกร ทองเหลา กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง
เริ่มเกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังคงดูเชิงกันอยู่ จนทำให้เกมไม่ค่อยมีเข้าทำมากนัก โดยส่วนใหญ่จะไปเสียในจังหวะสุดท้าย ทำให้จบ 45 นาทีแรก เกมยังไม่มีประตูเกิดขึ้น 0-0
มาต่อครึ่งหลัง รูปเกมทั้งสองทีมเริ่มดีขึ้น เกมเริ่มเปิดมากขึ้น แต่นาทีที่ 52 ไทยต้องมาเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่น หลังจาก “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย กระโดดขึ้นโหม่ง แต่แขนไปกางโดนหน้าของ เจี่ย ยี่ ซึ่งกรรมการมองว่า ลีซอ เล่นรุนแรง ก่อนจะชักใบเหลืองที่สองให้กับกองหน้าเบอร์ 14 ของไทยไล่ออกไป หลังจากโดนใบเหลืองแรกมาก่อนหน้านี้แล้ว
พอเหลือตัวน้อย ไทยที่เสียเปรียบตัวผู้เล่นพยายามฮึดขึ้นสู้ จนกระทั่งนาทีที่ 59 ผู้ตัดสินเป่าให้ ไทย ได้ลูกฟรีคิกหลังผู้เล่น สิงคโปร์ ทำฟาวล์ใส่ กีรติ เขียวสมบัติ บริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนจะเป็น สุธี สุขสมกิจ รับหน้าที่สังหารซัดด้วยซ้าย ส่งบอลไปที่เสาสอง เบียดเสาเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างสวยงาม 1-0
จากนั้น สิงคโปร์ พยายามเดินเกมบุกตอบโต้ แต่เกมนี้บอลโด่งของทีม ลอดช่อง ไม่ผ่านแนวรับทีมชาติไทย จนมาถึงนาทีที่ 80 ไทยน่าจะได้ประตูเพิ่มสุดๆ จากจังหวะที่ สุไลมาน เตะ กีรติ ล้มลงในเขตโทษ สุธี รับหน้าที่สังหารซัดด้วยซ้ายเท้าข้างถนัดไม่ผ่าน ฮัดซัน ผู้รักษาประตูของ สิงคโปร์ เทิดศักดิ์ ตามเข้ามาซ้ำอีกครั้ง ฮัดซัน ยังเซฟไว้ได้
ช่วงท้ายนาทีที่ 87 ทีมชาติไทยเสียเกือบเสียประตู จากจังหวะจุดโทษ 2 หลัง กวิน ครองบอลไว้นานเกิน ผู้ตัดสินมองว่า ทีมไทยเจตนาถ่วงเวลา สิงคโปร์ เขี่ยเปลี่ยนจุดซัดเล่นทาง แต่ ณัฐพร ถอยลงสกัดออกมาได้
โดยในเกมนี้ ทีมชาติไทยเหลือตัวผู้เล่นเพียง 10 คน ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าตัวเก่ง โดน 2 ใบเหลืองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามช่วงต้นครึ่งหลัง
รายชื่อผู้เล่นไทย : กวิน ธรรมสัจจานันท์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, สุทธินันท์ พุกหอม, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ดัสกร ทองเหลา (เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.61), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, สุธี สุขสมกิจ (สมปอง สอแหลบ น.84), อนาวิน จูจีน (ณรงค์ชัย วชิรบาล น.46), ธีรเทพ วิโนทัย, กีรติ เขียวสมบัติ
เดนมาร์ก 3 – โปแลนด์ 1
เริ่มเกมครึ่งเวลาทั้งสองฝ่ายไม่รอช้าผลัดกันเปิดเกมบุก ใส่กันอย่างสนุก แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมเท่าที่ควร ใน น.18 โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของโปแลนด์ เมื่อโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ยิงด้วยขวาระยะ 25 หลาแต่บอลเหินข้ามคานไป
นาทีที่ 21 เป็นเดนมาร์ก มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะการยิงด้วยขวาหน้าประตูโล่งๆ ของ โซเล็น ริคส์ หลังจากได้ประตูขึ้นนำ รูปเกมของเดนมาร์กเริ่มดีขึ้น แต่แล้ว 5 นาทีต่อมา แข้งโคนม มาพลาดโดนลูกยิงไกลระยะ 25 หลาของ สตาโวเมียร์ เพรสโก้ กองกลางโปแลนด์ เข้าประตูไปทำให้สกอร์ของทั้งคู่เสมอกัน 1-1
ผ่านครึ่งชั่วโมงทั้งสองทีมพยายามบุกใส่กันอย่างต่อเนื่อง และใน น.35 โปแลนด์พลาดโอกาสทองในการนำประตูขึ้นนำเมื่อมีจังหวะชุลมุนหน้าปากประตูของ เดนมาร์ก ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง มาเชจ เอียนสกี้ กัปตันทีม ซัดระยะ 6 หลาแต่ยิงติดเซฟนายทวารเดนมาร์กกระดอนไปชนคานออกหลังอย่างเหลือเชื่อ
จากนั้น โปแลนด์ น่าจะขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะทำเกมขึ้นมาได้สวย ก่อนที่จะจบด้วยการยิงของ มาเชจ ไรบัส สุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถพังประตูเพิ่มกันได้ จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง เริ่มเกมได้เพียง 2 นาที น.47 เดนมาร์กก็มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะการขึ้นเกมมาได้สวยทางฝั่งขวา ก่อนมาจบที่ มอร์เท็น ราสมูสเซ่น กองหน้าตัวเก่งไขว้ขายิง ผ่านตัวนายทวารโปแลนด์เข้าไปอย่างเหนือชั้น
จากนั้น เกมบุกของทีม “โคนม” ยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาได้ประตูหนีห่างไป 3-1 จากการโหม่งของ เจสเปอร์ เบ็ค ใน น.59 รูปเกมของทั้งคู่ยังเปิดเกมบุกใส่กันตลอดเวลา ผ่าน 1 ชั่วโมงสกอร์ยังคงนิ่งที่ 3-1
เข้าสู่ น.80 โปแลนด์ น่าจะได้ประตูตีตื้นจากจังหวะการยิงในกรอบเขตโทษของ ดาวิน โนวัค แต่ไม่ผ่านมือนายทวารเดนมาร์ก สุดท้ายจบเกม 90 นาที เดนมาร์ก เอาชนะ โปแลนด์ไป 3 -1 เก็บชัยชนะในนัดแรกประเดิมศึก คิงส์คัพ ได้ตามคาด ส่วนนัดที่สองของทีมเดนมาร์ก พบกับ สิงคโปร์ (16.00 น.) และไทย พบกับ โปแลนด์ (18.30 น.) ในวันพุธที่ 20 ม.ค.
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เดนมาร์ก : คิม คริสเตียนเซ่น (ผู้รักษาประตู), จอห์น อับซาล่อนเซ่น, เจสเปอร์ เบ็ค, แอนเดรส คริสเตียนเซ่น (กัปตันทีม), มิเชล จาคอบเซ่น, จิม ลาร์เซ่น, ปีเตอร์ นีมาน, จาคอบ พอลเซ่น, มอร์เท็น ราสมูสเซ่น, โซเล็น ริคส์ และมาร์ติน ออนคอฟ
โปแลนด์ : มาร์อุส พาวีเทค (ผู้รักษาประตู), ลูคัส เมียร์เชียจิวสกี้, มาเชจ ซาดล็อค, มาเชจ เอียนสกี้ (กัปตันทีม), ไพล็อต โบเช็ค, มาเชจ ไรบัส, โรเบิร์ต ลีวอนโดสกี้, จาคับ โตซิค, สตาโวเมียร์ เพรสโก้, โทมัส บันโดวสกี้, โทมัส ไบซีสกี้
ที่มา mthai.com