• ลุยค้นบ้าน-สั่งจับ เสธ.แดง พิสูจน์เอ็ม79ถล่มทบ. |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 22 ม.ค. 53 เวลา 09:03:16 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ยึดคลังแสงซุก"จ่า"ลูกน้อง เสธ.คนดังโต้-จีอนุพงษ์ออก เตือนรีบขนลูกเมียเข้ากรม
เพียบ - ตำรวจ-ทหารบุกเข้าค้นบ้านพักพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ภายใน "ม.พัน 4" ย่านเกียกกาย และแฟลตของจ.ส.อ. ณัฎฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช พลขับของเสธ.แดง พบอาวุธสงครามทั้งปืนและระเบิดจำนวนมาก เมื่อวันที่ 21 ม.ค.
|
ทหาร-ตำรวจบุกค้นบ้าน"เสธ.แดง"ในม. พัน4 หาหลักฐานยิงเอ็ม 79 ถล่มห้องทำงานผบ.ทบ. เจอระเบิดขว้างในรถกับลูก ปืน อีกชุดเข้าค้นแฟลตจ่าคนสนิท ผงะคลังแสงย่อมๆ ซุกเต็มห้องทั้งลูกเอ็ม 79 ระเบิดเคโม ซีโฟร์ ลูกปืนปตอ. อาก้า ล็อกตัวจ่า พลทหาร และเด็กเฝ้าบ้านไปดำเนินคดี ผบช.น.ลั่นออกหมายจับเสธ.คนดังได้เลย "อนุพงษ์"ปิดทบ.ถกเครียดเทือก บิ๊กทหารตำรวจ ประเมินสถานการณ์ งัดกฎหมายจัดการขั้นเด็ดขาด สั่งคุมเข้มสถานที่สำคัญ โฆษกทบ.แถลงยอมรับเหตุเอ็ม 79 ถล่มทบ.เกิดตอนเช้ามืด 15 ม.ค. "เสธ.แดง"โต้ลั่นไม่ได้ทำ เย้ยน่าอายที่สุดตั้งแต่ตั้งกองทัพ เตือนอนุพงษ์ย้ายเมียลูกจากบ้านพุทธมณฑลมาอยู่ในค่ายทหาร ชี้ศัตรูผบ.ทบ.มีเยอะ"สนธิลิ้ม"ก็เคยอาฆาต สวนกลับโดนค้นบ้านทำยิ่งกว่าผู้หญิง
-ทบ.รับยิงถล่มห้องอนุพงษ์
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 21 ม.ค.ที่บก.ทบ. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกทบ. ได้รับมอบหมายจากพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. แถลงกรณีมีข่าวคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาที่อาคาร 1 ชั้น 6 ห้องทำงานของผบ.ทบ.ว่า จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกองทัพบกได้ตรวจสอบกล้อง วงจรปิดตามวงรอบ ปรากฏพบร่องรอยบริเวณผนังของอาคารชั้น 6 มีร่องรอยเป็นรูและรอยปูนแตก แต่ไม่ได้สังหรณ์อะไร ขณะเดียวกันมีราย งานข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศชี้แจงว่า มีการพูดคุยจากโปรแกรมสนทนาทางกล้องวิดีโอ หรือแคมฟร็อกในลักษณะว่ามีการยิงกระสุนปืนเอ็ม 79 มาที่บก.ทบ.
พ.อ.สรรเสริญกล่าวอีกว่า เมื่อข่าวทั้งสองฝ่ายตรงกัน ผู้บังคับบัญชาจึงมอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบบริเวณที่พบร่องรอย เจ้าหน้าที่สรรพา วุธทหารบกรายงานว่า เป็นร่องรอยของการระเบิด ของวัตถุระเบิดชนิดใดชนิดหนึ่งจริง แต่ไม่สามารถ ยืนยันได้ว่าเป็นวัตถุระเบิดชนิดใด และไม่สามารถ ยืนยันเวลาได้ว่าเกิดเมื่อวันที่เท่าใด แต่สันนิษฐานน่าจะเป็นช่วงเวลากลางคืน ส่วนเจ้าหน้าที่เวรยามไม่มีใครได้ยินเสียงระเบิด จากการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเชื่อว่า จุดเกิดเหตุคือบริเวณผนังอาคารชั้น 6 ฝั่งด้านห้องออกกำลังกาย ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับห้องทำงานของผบ.ทบ. และห่างมากพอสมควร ดังนั้น น่าจะพยายามสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความสับสนขึ้นในสังคมของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ไม่น่าจะเป็นการปองร้ายผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพ
-แค่สร้างสถานการณ์-ไม่เพิ่มรปภ.
พ.อ.สรรเสริญกล่าวต่อว่า มาตรการรักษาความ ปลอดภัยภายในพื้นที่ทบ. ตามปกติถือเป็นมาตร การที่มีความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นด้านข่าวสาร หรือเจ้าหน้าที่เวรยามตลอดจนใช้ทีวีวงจรปิด แต่ต้องยอมรับความจริงว่าที่ตั้งของ ทบ.โดยรอบมีที่พักของประชาชน และเส้นทางคมนาคมต่างๆ ค่อนข้างมาก ดังนั้น หากถามว่า การดูแลรอบๆ ทบ.ทำได้หรือไม่ ต้องยอมรับว่าทำได้ แต่สถานการณ์บ้านเมืองในภาวะที่ใช้กฎหมายตามปกติคงทำไม่ได้ หากตั้งจุดตรวจโดยรอบ ทบ.จะทำให้เกิดความวุ่นวาย และประชาชนเดือดร้อน
"ส่วนข่าวว่าผบ.ทบ.เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในลักษณะอย่างนั้น การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่กอง ทัพบก และผู้บังคับบัญชาระดับสูงยังคงเหมือนเดิม และผบ.ทบ.ยังฝากถึงประชาชนทุกท่านว่า ปกติท่านไม่เคยมีปัญหากับใคร ท่านทำทุกอย่างตามหน้าที่และภารกิจที่เกี่ยวข้อง และยังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในกองทัพบกและผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม และท่านเน้นย้ำว่าน่าจะสร้างสถานการณ์" โฆษกกองทัพบกกล่าว
-ยังไม่ชัดเจนไม่พาดพิง"เสธ.แดง"
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังจากสั่งพักราชการพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. พ.อ.สรร เสริญกล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าหลายคนอาจมองอย่างนั้น แต่เมื่อทุกอย่างยังไม่ชัดเจนจะไปเหมารวมคงเป็นไปไม่ได้ และจะทำให้ผู้ที่ถูกพาดพิงถึงได้รับความเสียหาย ผบ.ทบ.ย้ำว่าต้องทำทุกอย่างตามขั้นตอน หน้าที่ ไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
เมื่อถามว่าจากเหตุระเบิดกองทัพรู้สึกเสียหน้าหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ตนถามคำถามนี้กับผบ.ทบ.ท่านบอกว่าไม่รู้สึกเสียหน้าเพราะถือ ว่ามาตรการป้องกันที่ทำอยู่ถือว่าดีที่สุด แต่ถือว่าหากใครทำเหตุการณ์อย่างนี้ต้องพิจารณาตนเองว่าทำอะไรอยู่ และทำสังคมเกิดความวิตกกังวลหรือไม่ แต่ ทบ.ไม่มีความรู้สึกเสียหน้า ยังคงยืนยันว่าต้องปฏิบัติภารกิจตามกฎระเบียบข้อบังคับเหมือนเดิม
-ไม่ได้ปิดข่าวแต่ไม่มีใครถาม
เมื่อถามว่าผบ.ทบ.วิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า จากที่คุยกับท่านท่านบอกว่าไม่เคยวิตกกังวลอะไรก็แล้วแต่ที่ทำตามระเบียบ เมื่อถามว่าเหตุใดจึงปิดข่าว พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ท่านไม่ได้ปิดข่าว แต่ไม่มีใครถาม เพราะปกติตามวิสัยของทหารอะไรก็แล้วแต่ที่ชี้แจงสังคมโดยที่สังคมยังไม่ได้ตั้งข้อสงสัย จะทำให้สังคมตื่นตระหนก ดังนั้นในความ รับผิดชอบของคนที่เป็นทหารอะไรที่เกิดขึ้นแล้วพิจารณาว่าจะทำให้สังคมตระหนกตกใจก็ไม่พูดเสียดีกว่า
ต่อข้อถามว่าขนาดผบ.ทบ.ยังโดนระเบิด แล้ว ความปลอดภัยประชาชนใครจะรับรองได้ พ.อ. สรรเสริญกล่าวว่า หลายคนตั้งข้อสงสัย แต่ต้องพิจารณาสถานการณ์บ้านเมืองว่า เหตุการณ์อย่างนี้ หรือความรู้สึกว่าความขัดแย้งทางความคิดหรือไม่ ไม่ได้เกิดกับประชาชนทุกคน แต่เกิดกับประชา ชนบางท่าน บางกลุ่มที่เข้าใจไปเอง ทั้งที่เจ้าหน้า ที่ฝ่ายรัฐและ ทบ.ยืนยันว่าเราทำทุกอย่างตามกฎระเบียบข้อบังคับ ไม่ได้รู้สึกส่วนตัวกับใคร เชื่อว่า เหตุการณ์อย่างนี้ไม่เกิดกับทุกคน อย่าวิตกกังวล
เมื่อถามว่าเหตุการณ์จะทำให้กำลังพลขาดความเชื่อมั่นในตัวผู้นำหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า การเชื่อมั่นในตัวผู้นำทางทหารเรามีระบบ และทุกคนสามารถชี้แจงได้ว่าท่านทำตามระเบียบข้อบังคับอะไร และจากเหตุการณ์ที่ผ่านมากำลังพลยังเชื่อมั่นในตัวผู้บังคับบัญชา แต่คงไม่ถึงกับเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมาในสมัยที่มีการปฏิรูปเคยเกิดระเบิดตู้โทรศัพท์ทางด้านหน้าทบ. ซึ่งประเด็นอยู่ที่เราพยายามชี้แจงว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามขั้นตอนทุกเรื่อง และมาตรการทุกอย่างถือเป็นมาตร การที่มีความเหมาะสม
-พักราชการ"เสธ.แดง"ไม่ใช่ลงโทษ
ต่อข้อถามว่าพล.อ.อนุพงษ์เคยปรารภหรือไม่ว่าเป็นการกระทำของพล.ต.ขัตติยะ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ท่านไม่เคยพูดอย่างนั้น เมื่อถามว่ามี คนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการกระทำของพล.ต. ขัตติยะหลังถูกสั่งพักราชการ ดังนั้น การพิจารณาลงโทษครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ตนถามคำถามนี้กับผบ.ทบ.แล้ว และท่านบอกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบข้อบังคับได้ อะไรที่ต้องดำเนินการกับกำลังคนใดคนหนึ่ง และเป็นไปตามระเบียบก็ต้องดำเนินการ มิเช่นนั้นคนที่ทำหน้าที่ในเรื่องศาล ทนาย หรือเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ถ้ากระทำการไปตามข้อกฎ หมายข้อบังคับกับผู้ที่กระทำผิดทุกคนก็ต้องวิตกกังวลด้วย
จุดยิง - บริเวณดาดฟ้าชั้น 6 ตึกบัญชา การภายในกองทัพบก ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ โดยโฆษก ทบ.แถลงยอมรับว่าเกิดเหตุจริง แต่จุดดังกล่าวอยู่คนละฝั่งกับห้องทำงานพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
|
เมื่อถามว่าแสดงว่าการสั่งพักราชการพล.ต. ขัตติยะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า เท่าที่ได้ดูเนื้อหาสาระของเรื่อง มีระเบียบอ้างอิงที่ชัดเจน การพักราชการไม่ใช่การลงโทษ เพราะท่านมีคดีความมาก ดังนั้น โอกาสที่จะทำงานรับราชการค่อนข้างลำบาก ประกอบกับเคยมีคณะกรรมการสอบสวน และท่านรับกับคณะกรรม การว่าจะไม่ให้ข่าวในลักษณะที่ทำให้กองทัพ เสียหาย ไม่กระทบต่อความรู้สึกวิตกกังวลของประชาชนและกองทัพ เมื่อท่านให้ข่าวอีก แสดงว่าขัดคำสั่งจึงจำเป็นต้องพักราชการตามระเบียบ
เมื่อถามว่ากองทัพจะให้ตำรวจเข้ามาสอบสวนหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า น่าจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ไม่ได้ถามผบ.ทบ.ว่าจะแจ้งความหรือไม่ ซึ่งทุกเรื่องที่ก่อให้สังคมเกิดความวิตกกังวลต้องเป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจ
-กห.แถลงโต้โดนเอ็ม 79 ถล่ม
เมื่อถามว่าจะเปิดโอกาสให้สื่อเข้าไปดูที่เกิดเหตุหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ยังไม่ได้สอบ ถามผู้เกี่ยวข้อง แต่วันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมาประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนฯ ส่งหนังสือติดต่อมา ขณะนี้ได้ส่งไปยังฝ่ายเสนาธิการที่เกี่ยว ข้องเพื่อพิจารณาและนำเรียนผู้เกี่ยวข้องว่าจะเข้ามาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุได้หรือไม่อย่างไร
ด้านพ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงกรณีมีข่าวคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ตกลงบริเวณสนามหน้ากระทรวงกลาโหม เมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ทั้งด้านหน้า และด้านข้างของกระทรวงกลา โหม พร้อมทั้งสอบถามเวรยามที่อยู่ด้านข้างกรมพระธรรมนูญและศาลหลักเมือง โดยเฉพาะริมคลองหลอดและผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะเสียงระเบิดที่เกิดขึ้นได้รับการยืนยันว่าไม่มีอะไร รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในพื้นที่ของกระทรวงกลาโหมตามจุดล่อแหลมก็ไม่พบเหตุการณ์อะไร จึงขอยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว
"พื้นที่ด้านหน้าของกระทรวงกลาโหมเป็นพื้น ที่เปิด มีเวรยามของสำนักพระราชวังที่เข้าเวรยามและทหารยามของกระทรวงกลาโหม รวมถึงผู้ที่สัญจรผ่านไปมา จึงคิดว่าอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ต่อประเด็นดังกล่าว สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยยังคงปฏิบัติเหมือนเดิม โดยเราได้จัดเวรยามในช่วงเช้าและช่วงบ่ายมีเจ้าหน้าที่โดยรอบ 4-5 จุดและมีเจ้าหน้าที่ สห.อยู่ด้านใน และในช่วงตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไปจนถึงเช้าเราจะเพิ่มเรื่องการเดินลาดตระเวนโดยรอบกระ ทรวงกลาโหม" โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
-"อนุพงษ์"ถกบิ๊กทหาร-ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พูดถึงเหตุการณ์นี้อย่างไร พ.อ.ธนา ธิปกล่าวว่า ท่านสั่งการตรวจพื้นที่อีกครั้งว่าเท็จจริงเพียงใด ซึ่งได้ตรวจสอบทุกพื้นที่และกราบเรียนท่านไปแล้วว่าเหตุการณ์ปกติไม่มีอะไร ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับพล.อ.ประวิตร เพราะมาตรการเข้มงวดอยู่แล้ว เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าเกี่ยวข้องกับการสั่งพักราชการพล.ต.ขัตติยะ เพราะตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ได้เกิดเหตุการณ์ น่าจะสร้างกระแสข่าวจากคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบการสั่งพักราชการพล.ต.ขัตติยะ ยืน ยันว่าเป็นธรรมและรอบคอบ เป็นไปตามที่ ทบ. ได้ส่งหนังสือขึ้นมา
"อยากฝากถึงประชาชนพบสิ่งผิดปกติหรือดูแล้วว่าจะเกิดความวุ่นวายก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความพร้อมเข้าไปดูแลและแก้ไข ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรกำชับให้ดูแลในพื้นที่ต่างๆที่รับผิดชอบอยู่ โดยเฉพาะการข่าว อยากให้แต่ละส่วนแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลและต้องการให้ป้องกันมากกว่าการแก้ไข ที่ผ่านมาท่านเคยสั่งการ หน่วยงานต่างๆ แล้วว่า เรื่องของอาวุธสงคราม ขอให้ตรวจสอบและเข้มงวด ส่วนเรื่องเหตุระเบิดที่กองทัพบกต้องให้กองทัพบกตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นการกระทำของคนกลุ่มไหน แต่เมื่อเกิดเหตุ การณ์ขึ้นตำรวจต้องเข้ามาดูในเรื่องของหลักฐานในพื้นที่ วัตถุระเบิด วัตถุกระสุน" โฆษกกระทรวง กลาโหมกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ. อนุพงษ์เรียกนายทหารระดับสูง และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ. ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. และผบช. สันติบาลเข้าหารือ และประชุมร่วมกันถึงเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามายังทบ.
-"เสธ.แดง"โยงอนุพงษ์-ธิลิ้ม
ด้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่เกี่ยวกับเหตุยิงระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะวันเกิดเหตุที่ข่าวระบุว่า เป็นวันที่ 14 ม.ค.นั้น ตนเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อปราศรัยขึ้นเวทีของกลุ่มเสื้อแดง ดังนั้น ไม่ควรนำตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการยิงครั้งนี้ ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่อาจจะเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัยที่ต้องการมาล้างแค้นพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ก็ได้ เพราะเมื่อครั้งที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ถูกลอบสังหารนั้น ลูกชายของนายสนธิเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่ม 3 ป. จนทำให้ช่วงนั้นตนต้องออกมา ปกป้องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม หรืออาจเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ไม่พอใจการกระทำของพล.อ.อนุพงษ์ก็ได้
-เป็นความอับอายที่สุดของทบ.
พล.ต.ขัตติยะกล่าวอีกว่า การที่ ทบ.ถูกยิงด้วยลูกระเบิดเอ็ม 79 นั้น ถือว่าเป็นความอับอายที่สุดของทบ. เพราะตั้งแต่ตั้ง ทบ.มาในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งมาถึง 122 ปี ไม่เคยถูกใครยิงมาก่อน การโดนยิงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งพล.อ.ประวิตร รมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ. ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และขณะนี้ ทบ.ไม่ใช่ของประชาชนอีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้มีประชาชนที่ไม่พอใจพล.อ.อนุพงษ์จนถึงเอาพวงหรีดไปวางหน้าทบ. ซึ่งในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีมาก่อน
-เตือนย้ายลูกเมียเข้าค่ายทหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกหรือไม่ พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตนเชื่อว่ามีแน่นอน เพราะเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของพล.อ.อนุพงษ์ แม้ตนจะถูกพักราชการโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ตนก็ยังไม่ลืมความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้พล.อ.อนุพงษ์จะลืมไปแล้วก็ตาม ตน ขอเตือนว่าขอให้นำภรรยาและลูกย้ายออกมาจากบ้านพักใน ซ.พุทธมณฑล 68 มาพักที่บ้านพักใน ร.1 รอ. เสียก่อน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
"การที่พล.อ.อนุพงษ์ใช้กำลังสารวัตรทหารบก 30 กว่าคนไปช่วยรักษาความปลอดภัยบ้านตัวเองที่ย่านพุทธมณฑลนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะนำกำลังพลที่ไว้ใช้สำหรับงานหลวงไปใช้งานส่วนตัว ตอนนี้พล.อ.อนุพงษ์ต้องลาออกจากตำแหน่งสถานเดียว เพราะผมเชื่อว่าทางกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอาจจะยิงถล่มจนกว่าพล.อ.อนุพงษ์จะลาออก หากไม่ลาออกก็จะทำ ให้พล.อ.อนุพงษ์เหมือนตายทั้งเป็น ดังนั้น ขอเตือนและแนะนำว่าให้รีบนำตาข่ายมาห่อตัวตึกกอง บัญชาการกองทัพบกไว้ เพื่อป้องกันลูกระเบิดเอ็ม 79 ที่จะถูกยิงเข้ามา" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
-"มาร์ค"สั่งสอบสวนขยายผล
ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สอบถาม ทบ.แล้ว เหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเหตุในลักษณะสร้างข่าวมากกว่า หลังจากพิจารณาจากเวลา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มุ่งเรื่องทำร้ายหรือเอาชีวิตพล.อ.อนุพงษ์ หรือใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ตอนที่เหตุเกิดไม่มีใครรู้เรื่อง มาพบและรู้กันภายหลังก็ต้องแจ้งความและดำเนินคดีกันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการใช้อาวุธสงครามยิงตึกบก.ทบ.ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ สะท้อนว่าจะเกิดเหตุรุนแรงอะไรขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นความพยายามจะสร้างข่าวให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้นด้วย การตรวจสอบเบื้องต้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้า ที่ต้องดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่าการทำเช่นนี้เหมือนหยามหน่วยงานด้านความมั่นคง นายกฯ กล่าวว่า ความจริงตอนที่เกิดเหตุไม่มีใครรู้เลย เป็นช่วงกลางคืนไม่มีใครอยู่ เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับคนมีสีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะสอบต่อไป คิดว่ากรณีที่เกิดขึ้นวิเคราะห์ได้ว่าสถานที่ยิงน่าจะมาจากที่ไหนอย่างไร ยอมรับว่ามีผลต่อทางจิตวิทยา ซึ่งต้องพยายามป้องกันแต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงที่ไม่มีใครอยู่ แต่เขาพอรู้สถานที่ และที่สำคัญการที่ไปเผยแพร่ข้อมูลและมีบางคนพูดว่าจะเกิดเหตุก็ต้องไปสอบเพื่อขยายผล
-เพิ่มมาตรการดูแลสถานที่สำคัญ
เมื่อถามว่าจะเพิ่มมาตรการการป้องกันความปลอดภัยมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทบ.ต้องดำเนินการ ส่วนทำเนียบรัฐบาลและสถานที่ราชการอื่นก็เช่นกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกฝ่ายต้องตื่นตัว อีกทั้งตนเคยบอกแล้วว่าช่วงนี้มีความพยายามเคลื่อนไหวถี่ขึ้นให้เป็นประ เด็นมากขึ้น เมื่อถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวโยงกับการชุมนุมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ความจริงเหตุที่เกิดแบบนี้บางคนพูดว่าอยากจะทำ ฉะนั้นจะต้องมีการสอบ" เมื่อถามว่าสงสัยใครเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะมีข่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีคำสั่งพักราชการเสธ.แดง นายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวน ยืนยันในเรื่องดูแลรักษาความปลอด ภัย สำหรับคนที่ก่อเหตุครั้งนี้ก็ไม่ได้มุ่งทำร้าย แต่ เราไม่ประมาท
-"เทือก"คุยทุกอย่างอยู่ในสายตา
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า พฤติกรรมที่ทำออกมานั้นมีบางคนพยายามแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะทำในลักษณะที่เป็นการใช้อำนาจนอกระบบ แต่ตนมั่นใจในตัวผบ.ทบ.และกำลังพลของกองทัพ ภายใต้การนำของผบ.ทบ.คนนี้ กองทัพมีเอกภาพไม่มีใครจะมาโยกคลอน หรือแสดงอำนาจ อิทธิพล อภินิหารเหนือ ทบ.ได้แน่ นอน ใครที่ทำไปอย่างนั้นคิดผิด เพ้อเจ้อ ฝันไป ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้ตามจินตนาการที่ตัวเองและพรรคพวกร่วมกันคิด ทุกอย่างอยู่ในสาย ตา ตนพยายามจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ติดตามตรวจสอบ และเชื่อว่าไม่มีใครเหนือกฎหมาย
-กมธ.ขอเข้าตรวจสอบจุดถล่ม
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราช สีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนฯ แถลงว่า กรรมาธิการทหารจะทำหนังสือถึงรมว.กลาโหมและผบ.ทบ.เพื่อขอเข้าไปตรวจสอบเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ในบริเวณสนามหญ้าของกระทรวงกลา โหม และห้องทำงานของพล.อ.อนุพงษ์ ในบก.ทบ. อยากตั้งข้อสังเกตว่า การยิงเอ็ม 79 เข้าไปในห้องทำงานของพล.อ.อนุพงษ์น่าจะมาจากฝีมือคนใน เนื่องจากวิถีกระสุนจากภายนอกไม่สามารถยิงเข้าไปถึงห้องดังกล่าวได้ อาจมีคนในกองทัพไม่พอใจแล้วยิงกันเอง เนื่องจากคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งตนได้ยินมาว่าเป็นวันที่ 18 ม.ค. ไม่ใช่วันที่ 14 ม.ค. ตรงกับวันกองทัพไทย ทำให้ทหารส่วนใหญ่ไปรวมอยู่ที่อนุสรณ์สถาน การรักษาความปลอดภัยจึงหละหลวม
ต่อมา เวลา 15.30 น. คณะกรรมาธิการการทหารประชุมที่รัฐสภา พ.ต.ท.สมชายทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยเชิญตัวแทนทบ.เข้า ชี้แจง พล.ต.จิรเดช สิทธิประณีต เลขานุการทบ. ชี้แจงว่า ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบรอยร้าวบนผนังอาคารด้านทิศตะวันออกของชั้น 6 ของตึกบัญชาการ ซึ่งเป็นบริเวณห้องทำงานของพล.อ. อนุพงษ์ แต่ยังระบุไม่ได้ว่ารอยร้าวเกิดจากวัตถุระเบิดหรืออาวุธชนิดใด จึงประสานตำรวจและผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภายในทบ.รักษาความปลอดภัยในระดับสูง โอกาสจะยิงอย่างถูกต้องแม่นยำ จากถนนราชดำเนิน หรือขนอาวุธเข้าไปบริเวณใกล้เคียงเป็นเรื่องยาก ขอตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นเชื้อแก่การปฏิวัติที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่แน่ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกกับองค์กรอิสระ ศาล หรือบ้านบุคคลสำคัญ จึงควรให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบข้อเท็จจริงดีกว่าโทษฝ่ายตรงข้าม หรือควรกลับไปดูพวกตัวเองว่าใครเป็นคนทำ
-ตร.ย้ำทุกสน.ใช้แผนธันวา 52
ด้านพล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รองผบช.น. ฝ่ายป้องกันปราบปราม เปิดเผยว่า สั่งการทุกพื้น ที่ ที่มีบ้านบุคคลสำคัญ รวมทั้งสถานที่ราชการต่างๆ ดูแลอย่างเข้มงวด จัดสายตรวจดูแลตลอด 24 ช.ม. ตั้งจุดตรวจต่างๆ พร้อมกำชับทุกสน. ปฏิบัติตามแผนธันวา 52 อย่างเข้มงวด หากพบว่าพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย จะดำเนินการกับผู้บังคับบัญชา ส่วนกระแสข่าวยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในบก.ทบ. ใกล้กับห้องทำงานพล.อ.อนุพงษ์ นั้น ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นเรื่องจริงหรือข่าวลือ จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ของทหาร ตำรวจดูแลรอบนอก และประสานข้อมูลกันเพื่อรักษาความปลอดภัย และขณะนี้หน่วยข่าวยังไม่พบรายงานการปั่นป่วน หรือ กลุ่มที่สร้างความวุ่นวาย เข้ามาก่อเหตุ
-อนุพงษ์-เทือก-บิ๊กมั่นคงถกเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 14.30 น. ที่บก.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ร่วมประชุมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.สันติบาล พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยก่อนหน้านั้น พล.อ.อนุพงษ์ประชุมเครียดกับนายทหารระดับ 5 เสือทบ. คือ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.พิรุณ พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ ผู้ช่วยผบ.ทบ.(1) และพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ.(2)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสรุปถึงอาวุธสงครามที่ใช้ยิง โดยคาดว่าเป็นลูกระเบิดเอ็ม 79 ประเมินว่ายิงมาจาก 3 สถานที่ คือ สะพานพระราม 8 ตึกสวัสดิการของทบ. ที่อยู่ด้านหลังของบก.ทบ. และบริเวณแฟลตทหาร ที่อยู่ด้านข้างตึกบก.ทบ. ทั้งนี้ นายสุเทพประเมินว่าน่าจะเป็นฝีมือของเสธ.คนดังที่มีปัญหากับกองทัพ พล.อ.อนุพงษ์จึงให้ตำรวจดูข้อกฎหมาย และหาหลักฐานเพื่อเอาผิดกับเสธ.คนดังกล่าว รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะการข่าวกองทัพมีแนวโน้มว่า เสธ.คนดังกล่าวอาจมีแผนปฏิบัติการสร้างสถานการณ์อีก
-ค้นบ้านเสธ.แดงในค่ายทหาร
จากนั้นเวลา 17.00 น. พล.อ.อนุพงษ์สั่งการ พ.อ.ฐิติศักดิ์ สมทัศน์ ผบ.พัน.สห.11 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ทั้งที่ ม.พัน.4 รอ. และม.พัน.3 รอ. ย่านเกียกกาย โดยประสานขอกำลังตำรวจร่วมตรวจค้น โดยพล.อ. อนุพงษ์ คาดว่าน่าจะอาศัยบ้านพักในหน่วยทหารเป็นที่ซุกซ่อนอาวุธ และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุยิงลูกระเบิดครั้งนี้ด้วย
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกทบ. ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.อนุพงษ์สั่งการพ.อ.สุรพล ตาปนานนท์ ผอ.ส่วนสนับสนุนบก.ทบ. ผู้รับผิดชอบ พื้นที่แจ้งความตำรวจแล้ว และตำรวจมาตรวจพื้น ที่เกิดเหตุแล้ว
-เจ้าของบ้านเย้ยเจอแต่ลูกกรด
ขณะที่พล.ต.ขัตติยะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ตนอยู่ จ.สงขลา แต่ทราบเบื้องต้นว่ามีทหาร ตำรวจมาล้อมบ้าน เพียงแต่ไม่ได้นำอาวุธมา การมาครั้งนี้ของตำรวจน่าจะมาเพื่อค้นบ้าน เนื่องจากคิดว่าตนเป็นคนยิงห้องผบ.ทบ. แต่ค้นไปก็เท่านั้นเพราะบ้านตนไม่มีอาวุธสงคราม อาจมีแค่ปืนลูกกรดและพวกของที่ระลึก เนื่องจากตนเป็นทหาร มีของที่ระลึกจากการไปฝึกอบรมทางทหาร แต่พวกเอ็ม 79 เอ็ม 16 จรวดอะไร ไม่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ทำอะไรต้องดูก่อนว่าจะทำอะไรตนบ้าง เพราะตนไม่ได้ผิดอะไร จะมาโทษแต่ไม่มีหลักฐานทำไม่ได้ ทำเหมือนผู้หญิงมาค้นบ้านตน การมาค้นบ้านทหารด้วยกันไม่อายหรือ จับอะไรก็ไม่ได้ บ้านมีแค่ตนและลูกสาวอยู่กันเพียงเท่านี้ และมีพลทหารคอยเฝ้าบ้าน พล.อ.อนุพงษ์ก็มีลูกสาว ทำอย่างนี้ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ
"คนที่ทำอาจจะเป็นพวกที่ไม่ชอบพล.อ.อนุพงษ์ หรืออาจเป็นพวกมือที่ 3 ที่คอยป่วนเมืองหรือไม่ แล้วมาโทษผม ซึ่งไม่มีเหตุและหากจะมาจับผมก็ทำได้แค่ออกหมายเรียกเท่านั้น แต่จะมาออกหมายจับไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด พล.อ.อนุพงษ์ไม่มีหลักฐานอะไรจะมาจับผม แล้ว การทำแบบนี้ถือว่าไม่มีศักดิ์ศรีมาค้นบ้านทหารด้วยกัน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องเป็นเสธ.แดงอาจจะเป็นคนอื่นทำ ถ้าเสธ.แดงทำจริงเอาชีวิตเลยไม่ดีกว่าหรือ แต่เราเป็นเพื่อนกัน ผมจะทำไปทำไม อย่างผมทำได้แค่พูดตามสโลแกนเสธ.แดงคิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้" เสธ.แดงกล่าว
-เจอระเบิดในรถ-ล็อกคนเฝ้าบ้าน
สำหรับการตรวจค้นบ้านพล.ต.ขัตติยะ หรือเสธ.แดงครั้งนี้ พ.ต.ประเสริฐ พิศมัย นายทหารพระธรรมนูญ นำกำลังสารวัตรทหาร ม.พัน 3 และ ม.พัน 4 รอ. ประสานพล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิ์วิชัย ผบช.สันติบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน นำกำลังตำรวจนครบาล กองปราบปราม พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน เข้าตรวจค้นบ้านพักพล.ต.ขัตติยะภายในชุมชนยานเกราะ ซึ่งเป็นพื้นที่บ้านพักนายทหาร เลขที่ 1156/27 ม.พัน 4 รอ. พบว่าเป็นบ้านไม้สูง 2 ชั้น เนื้อที่ 50 ตร.ว. อยู่ตรงข้ามโรงเรียนโยธินบูรณะ สี่แยกเกียกกาย ถนนสามเสน แขวงถนนนคร ไชยศรี เขตดุสิต กทม.
จากการตรวจค้นภายในรถเบนซ์แวน สีดำ ทะเบียน ศข-112 กทม. ที่จอดอยู่ในบ้าน พบระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 26 อาวุธปืนพกสั้น .38 พร้อมกระสุน แม็กกาซีนขนาด .32 บรรจุกระสุนเต็มแม็กฯ จำนวน 2 แม็กฯ คอมพิวเตอร์ 1 ชุด สมุดบัญชีธนาคารหลายธนาคาร และแผ่นซีดีอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 7 ต.โพนทราย อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด และพลทหารมนัสชัย คำพร สังกัดกองพันบริการ ศูนย์ กลางทหารม้า คนเฝ้าบ้านเสธ.แดง พร้อมของกลางไปสอบสวน
-แฟลตจ่าลูกน้องซุกคลังแสง
จากนั้นเวลา 18.00 น.กำลังทหารและตำรวจเข้าตรวจค้นห้องเลขที่ 1161 ชั้น 1 ชุมชนแฟลตทหาร ภายใน ม.พัน 3 รอ. พบจ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช ผบ.หมู่ยานเกราะ ม.พัน 3 รอ. ทหาร คนสนิทที่ขับรถให้กับพล.ต.ขัตติยะมาตั้งแต่ปี 2516 ตรวจค้นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ถข-1161 กทม. พบลูกกระสุนเอ็ม 79 หัวสีทอง จำนวน 24 นัด กระสุนเอ็ม 79 หัวสีดำ จำนวน 8 นัด ปลอกกระสุนเอ็ม 79 ที่ใช้แล้ว 2 ปลอก กระสุนปืนอาก้าประมาณ 300 นัด ระเบิดทีเอ็นที หนัก 1 ปอนด์ 6 แท่ง ระเบิดทีเอ็นทีหนักครึ่งปอนด์ 3 แท่ง ระเบิดทีเอ็นทีหลายขนาดอีก 4 แท่ง ระเบิดเคโม 3 แท่ง และฝักแค 2 ม้วน ลูกระเบิดเอ็ม 79 รวม 10 ลูก กระสุนปืนใหญ่ปตอ. 17 ลูก ระเบิดควัน 2 ลูก ปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนเอ็ม 65 จำนวน 5 ลูก ระเบิดสังหารแบบเหยียบ 1 ชุด เสื้อเกราะ 2 ตัว
-ผบช.น.ลั่นจับ"เสธ.แดง"ได้เลย
พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า การตรวจค้นทั้ง 2 จุดพบอาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมาก หลักฐานทั้งหมดจะส่งกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมทั้งตรวจสอบเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเสธ.แดง โดยของกลางที่พบทั้งหมดเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญๆ หลายคดี ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกเสธ.แดง แต่จะออกหมายจับเลย ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตรวจค้นทั้ง 2 จุดพนักงานสอบสวนบันทึกการตรวจค้นและยึดของกลาง แล้วควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ พลทหาร มนัสชัย คนเฝ้าบ้าน และจ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ ทหาร คนสนิทเสธ.แดงไปสอบสวนที่กก.1 บก.ป. เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหามีและครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
-จ่าแจงแยกตัวจากเสธ.นานแล้ว
ส่วนพล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ต้องสอบปากคำพยานที่เป็นทหารก่อนว่าจะเชื่อมโยงไปถึงพล.ต. ขัตติยะได้หรือไม่ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวพันกับบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางทั้งหมดที่ยึดมาได้ เบื้องต้นจะเก็บไว้ที่กองปราบฯ จากนั้นจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาที่มาต่อไป
ขณะที่จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ ให้การว่า เคยเป็นลูกน้องเสธ.แดงเมื่อหลายปีก่อน สมัยติดตามนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ต่อมาแยกตัวออกมาและไม่ได้ใกล้ชิดกับเสธ.แดงมานานแล้ว
-เสธ.หลบ"กูจะไปให้จับทำไม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำมีสื่อมวลชนจำนวนมากไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อดักรอพล.ต.ขัตติยะเดินทางจากหาดใหญ่ จ.สงขลากลับกทม. ด้วยเที่ยวบิน ทีจี 238 ในเวลาประมาณ 21.30 น. แต่เมื่อเครื่องบินเที่ยวดังกล่าวมาถึงไม่พบพล.ต.ขัตติยะเดินทางมาแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวจึงโทรศัพท์ติดต่อเสธ.คนดังได้รับคำตอบว่า "ไม่มาหรอก ติดธุระอยู่ กูจะไปให้ถูกจับทำไม แต่ไม่บอกว่าอยู่ไหน"
ข่าวจาก ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1347 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 22 ม.ค. 53
เวลา 09:03:16
|