• วีรกรรมแดง แรงเกินขีดจำกัด มองอดีตสู่ปัจจุบันสะเทือนยุติธรรม |
โพสต์โดย คำจ๋อย , วันที่ 24 ก.พ. 53 เวลา 18:30:08 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
วีรกรรมแดง แรงเกินขีดจำกัด มองอดีตสู่ปัจจุบันสะเทือนยุติธรรม
หาก ย้อนดูวีรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง พิเคราะห์ถึงพฤติกรรมที่นำไปสู่ความรุนแรง เทียบเป็นเปอร์เซนต์แล้วอยู่ในระดับมากกว่าความต้องการความสงบอย่างแท้จริง
อาจกล่าว ได้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองต้องติดตามวันต่อวัน เพราะไม่อาจล่วงรู้จะมีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น แต่ในระยะใกล้จะถึงนี้กับ “บิ๊กนิวส์” วันตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ
ใน วันที่ 26 ก.พ. พอจะเบาใจระดับหนึ่งว่าจะไม่ส่อไปสู่ความรุนแรง เพราะทั้งข้อมูลฝ่ายความมั่นคงสอดคล้องกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศจะไม่ชุมนุมใหญ่วันที่ 26 ก.พ. แต่หลังจากนั้นต้องติดตามตอนต่อไป
ถึงกระนั้น ไม่ใช่ว่าจะไว้วางใจได้เสียทีเดียว เนื่องจากสถานการณ์เข้าด้ายเข้าเข้มเช่นนี้
ย่อม มีแฟนคลับพ.ต.ท.ทักษิณ จำนวนหนึ่ง ต้องการไปสัมผัสบรรยากาศใกล้ชิด ร่วมลุ้นนั่งฟังผลการพิพากษาอยู่บริเวณรอบศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง
เหมือนอย่างที่ฝ่ายตำรวจสันติบาลประเมินว่าน่าจะมีมวลชนเสื้อแดงประมาณ 1000- 2,000 คน มาชุมนุมที่หน้าศาลฯ
ไม่ว่าจะจำนวนมากหรือจำนวนน้อย เมื่อผลการตัดสินออกมาทางใด
อาจ เร่งเร้าเผาอารมณ์ผู้คนให้แสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงไม่ประมาทด้วยการวางมาตรการรักษาความ ปลอดภัยเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง
หากย้อนดูวีรรมของกลุ่มคนเสื้อ แดง พิเคราะห์ถึงพฤติกรรมที่นำไปสู่ความรุนแรง เทียบเป็นเปอร์เซนต์แล้วอยู่ในระดับมากกว่าความต้องการความสงบอย่างแท้จริง
ไล่ เรียงจากความรุนแรงระดับติดดาว ตั้งแต่ปี 2549 ฮือปิดล้อมหอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ จ.อุดรธานี หมายเอาชีวิตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มาร่วมเสวนา ลุกลามต่อเนื่องเป็นการไล่ล่าเอาชีวิต ถึงขนาดเกิดเหตุการณ์สังหารแกนนำเสื้อเหลือง ที่จ.เชียงใหม่ จุดระเบิดอารมณ์กระเด็นออกมาด้วยการบุกไปทุบทำลายบ้านสี่เสาเทเวศน์ของพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สร้างความเสียหายให้กับชุมชนย่านสี่เสาเทเวศน์ ความรุนแรงไม่ได้ลดระดับลงแม้แต่น้อย ด้วยการบุกไปทุบทำลายโรงแรมที่จัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนซัมมิท พัทยา จ.ชลบุรี ทวีความร้อนแรงสู่เหตุการณ์เมษาเดือด ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย เลขาธิการนายกฯ หมายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย
นั่นเป็นอารมณ์เดือดที่ถูกระบายออกมาผ่าน การปลุกระดมจากแกนนำ โดยมีเป้าหมายที่บุคคลฝ่ายบริหาร บุคคลระดับองคมนตรีแต่ เมื่อโฟกัสไปถึงวีรกรรมความรุนแรงที่กระทำต่อกระบวนการยุติธรรม องค์กรศาล ที่เปรียบได้เป็นเสาหลักสำคัญของบ้านเมืองในการผดุงความยุติธรรม ที่ทุกฝ่ายควรให้ความเคารพ นับถือ และมิบังควรสร้างความรุนแรงกดดัน แต่ปรากฎว่า มวลชนเสื้อแดงสำแดงพลังต่อองค์กรเหล่านี้โดยมิได้ยำเกรง
แม้พ.ต.ท.ทักษิณจะอ้างเสมอมาว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างสันติ แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็ต้องเรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับคำกล่าวอ้าง
ถ้า จำกันได้ ในครั้งคดีซุกหุ้น 1 เหตุคุกรุ่นเริ่มมีมาตั้งแต่การพิจารณาคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) มวลชนเสื้อแดงกดดันข่มขู่ จนกระทั่งคุณหญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ต้องประกาศลาออก เมื่อ
ถึง วันตัดสิน ออกมาว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ซุกหุ้น ต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สร้างความไม่พอใจให้มวลชนรักทักษิณซึ่งแปรสภาพเป็นมวลชนเสื้อแดงในเวลาต่อ มา ปิดล้อมทางออกสำนักงานป.ป.ช. ครั้งนั้นมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญยังหละหลวม
ส่งผลให้ รถยนต์ ปปช.ทุกทุบทำลายจากน้ำมือมวลชนเสื้อแดง เรียกว่า กว่า
คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะหลุดออกไปจากสำนักงานได้เกือบเอาชีวิตไม่รอด
ครั้น คดีซุกหุ้น1 เข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามคาด มวลชนคนรักทักษิณ เดินทางไปกดดันศาล แต่ผลพลิกผันทักษิณรอดคดี มวลชนพอใจ ไม่มีเหตุร้าย แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้ามไม่รู้ว่าสภาพศาลรรัฐธรรมนูญจะเป็นเช่นเดียวกับ ป.ป.ช.หรือไม่ทิ้ง ระยะมาถึงการตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย มีการเคลื่อนไหวของมวลชนเสื้อแดงเดินทางไปลุ้นผลการตัดสินเช่นกัน แต่การอ่านคำพิพากษาลากยาวถึงค่ำ ทำให้มวลชนเสื้อแดงอ่อนแรง รอดนาทีวิกฤติไปได้แต่แล้วในการพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน คราวนั้น มวลชนเสื้อแดงรวมตัวหนาแน่นขึ้น เป็นผลจากการโหมของแกนนำในพื้นที่ต่างจังหวัด ถึงขั้นต้องการล้มกระบวนการพิจารณา มีการระดมพลเพื่อไปปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ ส่งสัญญาณว่าสถานการณ์จะบานปลาย และมีแนวโน้มจะไม่ได้ตัดสินคดีวันนั้น
ทำให้ฝ่ายรัฐ ทหาร และองค์กรศาล ต้องใช้ปฏิบัติการลับ ลวง พราง ใช้แผนปิดลับอารักขาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการจัดหน่วยคอมมานโด อาวุธครบมือ สะพายปืนเอ็มสิบหก พกระเบิดมือ เคลื่อนที่เร็วพาตุลาการทั้งหมดไปอ่านคำพิพากษาที่สำนักงานศาลปกครอง แจ้งวัฒนะ กว่ามวลชนเสื้อแดงไหวตัวทัน ปรากฎว่า ตุลาการทั้งหมดถูกพาตัวขึ้นไปนั่งบัลลังก์ที่ศาลปกครองเรียบร้อยแล้ว แต่มวลชนเสื้อแดงไม่ละพยายาม นำกำลังไปล้อมอาคารศาลปกครองอีก จนครั้งนั้นส่อความรุนแรงถึงขั้นจะทุบกระจกบุกเข้าไปภายใน ต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารคุ้มกันเข้ม ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องอ่านคำพิพากษาด้วยความรวดเร็วเพราะส่วนหนึ่ง ถูกดดันจากมวลชนที่อยู่ด้านล่าง เมื่ออ่านคำพิพากษาเสร็จถูกอารักขาพาตัวออกจากสำนักงานศาลปกครองราวกับนินจา หายตัว
และอีกไม่ช้านี้ การอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์จะเกิดขึ้น ถึงแม้ท่าทีศาลฏีกาฯยืนยันออกมาแล้วว่าจะไม่ย้ายหนีไปไหน จะปักหลักอ่านคำพิพากษาที่นี่เท่านั้น ว่ากันว่าหลักมั่นของศาลถูกถ่ายทอดกันมา ในเมื่อศาลเป็นองค์กรพึ่งหวังของประชาชน เป็นเสาหลักค้ำของบ้านเมืองที่ผดุงความเป็นธรรม จึงต้องมีหลักมั่นในการทำงาน ถ้าหนีเท่ากับต้องหนีตลอดไป หนีตลอดชีวิต นั่นเป็นแง่คิดมีนัยยะสำคัญที่ส่งผ่านมาจากตุลาการชั้นผู้ใหญ่
ใน จังหวะที่มองกันว่าการอ่านคำพิพากษาวันที่ 26 ก.พ. ไร้เหตุร้าย แต่จากวีรกรรมการสะสมไมล์ความรุนแรงของชาวเสื้อแดงที่มีต่อกระบวนการ ยุติธรรม เป็นบทเรียนเตือนปัจจุบัน มิควรประมาทได้เลย ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะแม้แต่กระบวนการยุติธรรม ก็ยังไม่เว้น
http://www.posttoday.com
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1905 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คำจ๋อย
IP: Hide ip
, วันที่ 24 ก.พ. 53
เวลา 18:30:08
|