ผู้จัดการสาว โร่แจ้งตำรวจ เจ้าของหอพัก ในจ.อุดรธานี ติดกล้องแอบมองในห้องน้ำ และ ห้องนอน อ้าง ติดดูพฤติกรรมนักเรียนชายมั่วสุมเมื่อ 2 ปีก่อนลืมเอาออก ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ยึดกล้องไว้เป็นหลักฐานดำเนินการสืบสวนต่อไป...
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ก.พ. พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี สารวัตรเวร สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมคณะผู้สื่อข่าว เข้าตรวจสอบหอพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังได้รับแจ้งจาก น.ส.พรพัฒน์ กิมสี อายุ 24 ปี ราษฎร ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา น.ส.วาสนา สาบุตร อายุ 34 ปี ชาวตำบลบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ น.ส.ปิยะดา หาระกุณ อายุ 20 ปี ชาวตำบลบ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และ นายวีระยุทธ คานกลาง อายุ 24 ปี ราษฎร ต.ปากดง อ.ปากดง จ.นครราชสีมา ว่า หอพักดังกล่าว มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ขนาดเท่ารูเข็ม ไว้ในห้องนอน และห้องน้ำในห้องพักทุกห้อง
จากการตรวจสอบพบว่า หอพักมีทั้งหมด 5 ห้อง ทุกห้องจะมีกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นกล้องรูเข็ม ติดอยู่กับปลั๊กไฟ ติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดาน ในห้องน้ำ และห้องนอน ซึ่งกล้องทุกตัวจะมีสายต่อเชื่อมโยง มายังบ้านของเจ้าของ ที่อยู่ติดกันกับห้องเช่า และจากการตรวจสอบ บนฝ้าเพดานภายในบ้านของ นายวิญญู ยังพบสายเมล์ของกล้องวงจรปิด เดินสายพาดมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่วางอยู่บริเวณห้องโถง แต่สายเมล์ดังกล่าว มีร่องรอยถูกตัดขาดไปแล้ว ซึ่งเป็นรอยตัดใหม่ๆ ส่วนฮาร์ดิส ซึ่งเป็นกล่องเก็บข้อมูล ได้ถูกถอดออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์เช่นกัน
น.ส.พรพัฒน์ กล่าวว่า ตนเป็น ผจก.เชสเตอร์กริลล์ สาขาอุดรธานี และ เป็นพนักงานอยู่ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พวกตนมาเช่าอยู่ที่หอนี้ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.00 น. หลังจากเลิกงาน พวกตนได้กลับมาที่หอพัก และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ สังเกตเห็นรูเล็กๆ ที่ติดอยู่กับปลั๊กไฟบนฝ้าเพดาน จึงใช้เก้าอี้ปีนขึ้นไปส่องดู จนมั่นใจว่าเป็นกล้องแน่ เลยรื้อฝ้าเพดานออกดู พบสายเอวีต่อเชื่อมเข้ากับกล้อง และเดินสายพาดอยู่บนฝ้าออกไปจากห้อง ตนจึงไปบอกเพื่อนๆ ที่พักอยู่ห้องข้างๆ ให้ตรวจดูที่ห้องน้ำก พบกล้องวงจรปิดขนาดจิ๋ว ติดตั้งอยู่เช่นกัน จากนั้นจึงพากันไปสอบถามเจ้าของหอ ก็ปฏิเสธไม่รู้เรื่องกล้องวงจรปิด จนเช้าวันนี้จึงพากันมาแจ้งตำรวจ พร้อมกับร้องเรียนผู้สื่อข่าว ให้เดินทางไปตรวจสอบ
ด้านเจ้าของหอพัก ให้การว่า ตนยอมรับว่าได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดจริง เพื่อสอดส่องดูพฤติกรรมผู้มาเช่าพักอาศัย แต่ได้ตัดสายกล้องทิ้งไปแล้วเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา เพราะช่วงนั้นได้ให้เด็กนักเรียนชาย มาเช่าพัก แต่พากันส่งเสียงดัง ต่อมาจึงได้หยุดรับผู้ชาย และเปิดรับเฉพาะผู้หญิงมาเช่าอยู่แทน และลืมถอดกล้องวงจรปิดออก จึงเกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้น
พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี สารวัตรเวร กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจยึดกล้องวงจรปิด จำนวน 4 ตัว เอาไว้เป็นหลักฐาน และจะเชิญเจ้าของหอพัก ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมกับจะตรวจดูใบอนุญาตว่า หอพักได้ดำเนินการเปิด โดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่มีใบอนุญาต ก็จะแจ้งข้อหา ไม่มีใบอนุญาตประกอบการหอพักก่อน ส่วนข้อหาอนาจารหรือถ้ำมองนั้น จะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ข่าวจาก ไทยรัฐ