การ ชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงขณะนี้ หลายภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน ฯลฯ พยายามวิเคราะห์และพูดถึงการชุมนุมโดยสันติวิธี ปราศจากความรุนแรง และแนวทางการประนีประนอมเพื่อให้ความสมัครสมานสามัคคีเกิดขึ้นในชาติ แม้ในระดับแกนนำคนเสื้อแดงรวมทั้งรัฐบาลเองก็ตาม ที่มีประโยควนเวียนอยู่แค่ยุบหรือไม่ยุบสภา จะมีก็เพียงกลุ่มคนบางส่วนเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเสื้อแดงที่เป็น ระดับชาวบ้านตาดำๆ ธรรมดา การเปิดอกพูดคุยว่าพวกเขามาชุมนุมทำไม ลึกๆ แล้วพวกเขาคิดอย่างไร ต้องการอะไร ทำไมจึงต้องการเช่นนั้น คำถามเหล่านี้ดูเหมือนว่าถูกสังคมละเลย และถูกแทนที่ด้วยภาพการชุมนุมที่เลวร้าย หวั่นแต่จะเกิดความรุนแรง เป็นต้น
การ ชุมนุมต่างๆ ย่อมมีกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นและกลุ่มที่เข้าร่วมอย่างบริสุทธิ์ใจ ภายใต้พื้นฐานกรอบคิดและความเชื่อของแต่ละคน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการนำเสนอมุมนี้ไว้มากนัก สำนักข่าวประชาธรรมจึงขอนำเสนอมุมมองของผู้ชุมนุมที่ (เราเชื่อว่า)บริสุทธิ์ใจจะเข้าร่วม ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร อะไรเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการในการชุมนุมร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งในบทสัมภาษณ์นี้ หากพิจารณาระหว่างบรรทัดจะเป็นคำตอบให้แก่สังคมหรือรัฐบาล ในมุมหนึ่งว่าเบื้องหลังการชุมนุมเสื้อแดงไม่ได้เรียกร้องทางการเมืองเพียง อย่างเดียว แต่มีความคิดที่อยู่เบื้องหลังของการเข้าร่วมชุมนุมด้วย เพื่อจะเป็นแนวทางในการหาทางออกให้แก่สังคม
บทสัมภาษณ์ในตอนนี้เป็นการพูดคุยกันระหว่างผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวประชาธรรมและตัวแทนจากชุมชนในเขตเมือง 2 ท่าน คือ
Q : หมายความว่านอกจากจะสงสารแล้ว ยังชื่นชอบนโยบายของคุณทักษิณด้วย นโยบายอะไรที่พี่สองคนชื่นชอบ
พี่ไร : ท่านทักษิณมีนโยบายสวัสดิการให้เราทุกอย่าง ตั้งแต่นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค การศึกษาที่สนับสนุนให้เรียนฟรีก็มาจากเขา พอรัฐบาลใหม่มาทำไม่เหมือนท่านก็ทำให้ยุ่งเยิงไปหมด
พี่ดา : ชอบ โครงการบ้านมั่นคง โครงการนี้ก็เกิดในสมัยที่ท่านทักษิณเป็นนายก มันเป็นโครงการที่ดีมันทำให้ชาวบ้านอย่างหมู่เฮา รู้สึกว่าเราสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีได้ มีที่อยู่อาศัยโดยไม่ต้องหวาดระแหวงจะโดนไล่โดนยื้อเมื่อไหร่ เพราะชาวบ้านบางคนในชุมชนเมืองอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มั่นคง เป็นที่สาธารณะ ที่ราชพัสดุ ที่เทศบาลบ้าง โครงการนี้ทำให้เราตื่นตัว เอาเวลาไปคิดเรื่องทำมาหากินได้มากขึ้น มีเวลาในการคิดที่จะพัฒนาศักยภาพตัวเอง และในที่สุดก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องอยู่บ้านที่ทรุดโทรมตลอด ชีวิต
Q : ถ้าไม่มีคุณทักษิณคิดว่านโยบายเหล่านี้ก็จะไม่มีหรือ คนอื่นก็น่าจะทำได้ หรือพี่มีความคิดเห็นอย่างไร
พี่ไร : ใน ความคิดของพี่ พี่คิดว่าไม่มี เมื่อก่อนมีความแตกต่างกันระหว่างสวัสดิการข้าราชการกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ข้าราชการมีสิทธิพิเศษ แต่ชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา ไปรักษา ซึ่งเงินก็ไม่มีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องไปเสียค่ารักษาพยาบาล พอท่านทักษิณออกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคออกมา ชาวบ้านเหล่านี้ก็สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ด้วยเงินเพียง 30 บาท ท่านช่วยเหลือประชาชนภาคพื้นๆให้มีสิทธิในการรักษาที่เท่าเทียมกัน ชาวบ้านไม่มีจะกินอยู่แล้วสามารถรักษาโรคร้ายแรงที่ต้องใช้เงินเป็นหมื่น เป็นแสนในการรักษาได้เพียงเงิน 30 บาท คนอย่างพวกเราก็เลยสำนึกบุญคุณของท่าน อย่างโรคมะเร็งที่ต้องใช้เคมีบำบัด ราคาเข็มละเท่าไหร่ละ แต่ชาวบ้านก็สามารถรักษาได้ด้วยเงิน 30 บาท
พี่ดา : อาจ จะมีแต่ทำได้ไม่เหมือนนโยบายท่านทักษิณ ดูอย่างรัฐบาลใหม่ต้องไปกูนี้ยืมสินมา นอกจากจะไม่ได้พัฒนาอะไรแล้วยังทำให้เราเป็นหนี้อีก ชาวบ้านเคยพูดกันเล่นๆว่าเรียนฟรี เรียนฟรี แต่ก็เป็นหนี้อยู่ดีแหละ
Q : ย้อนกลับมาดูตอนที่เข้าร่วมกลุ่ม ก่อนเข้าร่วมกลุ่มได้ฟังการนำเสนอของสื่อเสื้อแดงไหม
พี่ไร : ไม่ได้ฟังเลย เราเข้าร่วมเพราะเรามีความรู้สึกร่วมอยู่แล้วพอมีกลุ่มขึ้นมาเราก็เข้าร่วมเลย
พี่ดา : ไม่ได้ฟังเลย ทำมาหากินทุกวัน
Q : หลังจากที่เข้าร่วมแล้ว ได้ฟังสื่อของคนเสื้อแดงไหม
พี่ไร : ฟังวิทยุบ้างเป็นบ้างครั้งแต่อย่างที่บอก เราต้องทำมาหากิน จึงไม่ได้ฟังบ่อย ส่วนใหญ่จะฟังในช่วงที่มีการจัดชุมนุมเลย ไปฟังสดๆ
พี่ดา : ฟัง วิทยุเป็นบ้างครั้ง แต่ดูช่องเสื้อแดงที่บ้านเกือบทุกวัน แต่ฟรีทีวีจะไม่ดูเลยข่าวการเมืองเพราะดูแล้วรู้สึกเลยว่าไม่เป็นกลางเอน เอียงเกินไป ดูสีหน้าอากัปกริยาของผู้อ่านก็รู้แล้วว่าไม่เป็นกลาง ข่าวก็ไม่ค่อยชัดเจน
Q : พูดกันมาตั้งนาน สรุปแล้วพี่สองคนเข้าร่วมเมื่อไหร่ เข้าร่วมกลุ่มไหน
พี่ดา : เรา มีความรู้สึกอย่างที่ได้กล่าวมาอยู่แล้ว ก่อนที่จะมีเสื้อแดง ตนรู้สึกว่าสงสารท่านทักษิณอยู่แล้ว พอมีกลุ่มเสื้อแดงที่ทีจุดร่วมเดียวกัน ตนก็เลยร่วมกับกลุ่มเสื้อแดง แม้เสื้อแดงจะมีหลายกลุ่ม แต่ก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นเสื้อแดงกลุ่มไหน เป็นเสื้อแดงเรารักหมด
พี่ไร : เมื่อ เกิดเสื้อแดง ก็ไปเข้าร่วมเลย เพราะเรามีความรู้สึกอย่างที่ได้กล่าวไปอยู่แล้ว พอมีกลุ่มที่คิดแบบเดียวกันก็เข้าร่วมทันที เข้าร่วมกับกลุ่มรักษ์เชียงใหม่ 51 โดยที่ความในใจหรือเป้าหมายคืออยากได้ท่านทักษิณกลับมา
Q : คน เสื้อแดงบางกลุ่มบอกว่าการเรียกร้องของคนเสื้อแดงได้ก้าวข้ามผ่านคุณทักษิณ ไปแล้ว เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย เราเคยคิดไปถึงขั้นนั้นไหม หรือแค่อยากให้คุณทักษิณกลับมา
พี่ไร : ทั้งสองอย่าง อย่างแรกคืออยากให้ท่านทักษิณกลับมา เหตุผลก็อย่างที่ได้กล่าวแล้ว อย่างที่สองก็คืออยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย
พี่ดา : อยากกลับไปเหมือนก่อนรัฐประหาร ที่ทุกคนอยู่กันด้วยดีเหมือนเก่า เป็นประชาธิปไตยเหมือนเดิม
Q : ประชาธิปไตยในความหมายของพี่เป็นอย่างไร
พี่ไร : ประชาธิปไตย ในความคิดของพี่คืออยากให้ประเทศอยู่เย็นเป็นสุข กลุ่มหนึ่งขึ้นสู่อำนาจได้ อีกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็แย้ง อีกกลุ่มขึ้นสู่อำนาจได้ อีกกลุ่มก็แย้ง มันจะอยู่อย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น แล้วไม่นึกถึงถึงคนที่ทุกข์ยากจริงๆ มันยิ่งเป็นทุกข์ ยากจนลงเรื่อยๆ อยากจะให้ยอมรับหลักการของประชาธิปไตยส่วนใหญ่คือยุบสภา แล้วมาวัดกันที่การเลือกตั้งถ้าเสียงส่วนใหญ่ออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ แม้ว่าคนกลุ่มคนที่ชนะจะไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ตามแต่ถ้ามีการเลือกตั้งพี่ ก็พร้อมยอมรับเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขไม่ต้องมาต่อสู้กันอีก แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าประชาชนเลือกกลุ่มท่านทักษิณ คนกลุ่มอื่นๆก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่มาประท้วงไม่ให้เขาเป็นอีก แต่ที่ผ่านมามันไม่ใช่ประชาธิปไตยเพราะมันไม่มีความเป็นธรรมดังนั้นสิ่งที่ เรามองว่าจะสามารถคืนความเป็นธรรมได้คือการคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ว่าเราต้องการแบบไหน
พี่ดา : ถ้า เป็นไปได้ไม่อยากให้มีฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านมักทำหน้าที่ค้านในทางการเมืองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าฝ่ายค้านทำหน้าที่ค้านการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาปากท้องของ ชาวบ้านก็จะดีมาก ไม่ใช้มาค้านว่า มีหนี้สินมากน้อยเท่าไหร่ จ้องทำลายเขา อย่างสมัยนายกสมัคร มีแต่เรื่อง กูว่ามึง มึงว่ากู สาวไส้ให้พวกเราดู มันก็ดี แต่ปัญหาจริงๆของคนจน มันไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งอย่างนี้รับไม่ได้ ประชาธิปไตยที่ได้อำนาจจากประชาชนก็ควรจะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ ไม่ใช่ชิงดีชิงเด่นกันสู่อำนาจ ใครได้รับคะแนนจากการเลือกตั้งนั้นก็หมายความว่าประชาชนได้มอบความไว้วางใจ ให้แล้วจึงควรตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาประเทศไป ไม่ใช่จ้องทำลายกันแบบนี้ ใครดีไม่ดีประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง พี่ต้องการประชาธิปไตยที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ไม่ใช่ชิงดีชิงเด่นกัน ที่ผ่านมามีการทำให้เรารู้สึกว่าเราถูกแย่งอำนาจที่เราเลือกไป เราก็อยากจะพิสูจน์อีกครั้งว่าถ้าเลือกตั้งใหม่ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็จะยอมรับในจุดนั้นและทุกคนก็ควรจะยอมรับ
Q : ในส่วนของรัฐธรรมนูญ พี่ต้องการให้มีการร่างหรือแก้รัฐธรรมนูญใหม่ไหม
พี่ไร : เรายังไม่คิดถึงขั้นนั้นเพียงแต่เรียกร้องให้ยุบสภาก่อนแล้วค่อยว่ากัน เอาตรงนี้ให้มันจบๆก่อน
พี่ดา : อยากให้เป้าหมายคือยุบสภาผ่านไปก่อนแล้วค่อยคิดต่อ
Q : แล้วพี่คิดอย่างไรที่คนกรุงเทพหรือคนกลุ่มอื่นๆที่มองพวกเราว่า "โง่" ถูกคุณทักษิณหรือนักการเมืองหลอกหรือจูงจมูกได้ง่าย
พี่ดา : มัน แรงนะ มันเป็นสิ่งที่เราแค่มีความคิดเห็นต่างกัน กลับกลุ่มคนอื่น เราเป็นคนเหนือที่คนมักจะพูดกันว่าเป็นคนที่อ่อนไหวก็จริง แต่ก็มั่นคงต่อสิ่งที่คิดว่ามันดี ถึงใครจะว่าก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็มีสิทธิที่จะคิดและเห็นต่างจากคนอื่น เรามองออกว่าสิ่งไหนที่มันไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับความเป็นธรรมเราก็ต้องออกมาเรียกร้อง เราเรียกร้องในสิ่งที่เราเห็น อีกอย่างเราก็ไม่ได้ถูกชักจูงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีใครมาจ้างหรือเอาเงินมาทุบหัวไปทั้งนั้น เราเข้าร่วมด้วยความคิดของเราเอง
พี่ไร : คน เชียงใหม่ไม่ใช่วัวไม่ใช่ควายที่จะให้ใครมาจูงจมูกได้ง่ายๆ คือใจเรารักเราไม่ต้องให้ใครมาจูงว่าจะไปทางซ้ายหรือไปทางขวา เราเห็นว่าท่านทักษิณเป็นที่พึ่งของเราได้ เราก็สนับสนุนท่าน เรามองเห็นว่าอะไรที่มันจะดีกับเรา เราก็เดินไปตามเส้นนั้นไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกเราได้หรอก สิ่งที่ทำให้เรามีคุณภาพชีวิต เราก็เลือกสิ่งนั้น
Q : ในอนาคตถ้าไม่ได้สิ่งที่เรียกร้อง พี่จะทำอย่างไรต่อไป
พี่ไร : เราก็จะก็จะรวมกลุ่มกับคนเสื้อแดงต่อไป เป็นแดงที่เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป โดยไม่ย่อท้อ
พี่ดา : ก็จะเป็นแดงต่อไปเพราะมันอยู่ในสายเลือด.