ที่ศอฉ. เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 พ.ค. พ.ต.อ.ทรงพล วัฒนชัย รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) และรองโฆษก บชน. แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รอง ผบก.อก.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานของตำรวจภายหลังเข้าปฏิบัติการขอพื้นที่คืนบริเวณสวนลุมพินี ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายวันนี้ว่า หลังจากกลุ่มผู้ชุมุมและผู้ก่อความไม่สงบได้ล่าถอยไปตำรวจจึงเข้าเคลียร์พื้นที่-ตรวจค้นก็พบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนประกอบด้วยหัวกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงจำนวน 18 ลูก M79 18 นัด เครื่องกระสุนปืน M 16 250 นัด เครื่องกระสุนปืนที่ใช้ยิง HK47 2 นัด ซึ่งทั้งหมดนำส่งสน.ลุมพินีเพื่อดำเนินการต่อไป
อีกส่วนในท้องที่สน.ปทุมวันจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินฯที่ประกาศไว้จำนวน 9 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ เครื่องวิดีโอ สุรา วิทยุ และอุปกรณ์หลายอย่าง นอกจากนี้ยังได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่เกิดเหตุอีกหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำการลักทรัพย์เพชร-พลอยที่มีมีมูลค่าเท่าไรนั้นไม่สามารถระบุได้ นอกจากนี้ยังมีการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนก่อเหตุความวุ่นวายบริเวณโดยรอบได้อีก 24 ราย นำส่งสน.ปทุมวัน จึงขอให้เจ้าของทรัพย์สินกรุณามาดูของกลางว่าเป็นทรัพย์สินของท่านหรือไม่ที่สน.ปทุมวัน
ด้านพ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รองผบก.อก.ภ.1 กล่าวว่า ในเขตของภูธรภาค 1 หลังจากการชุมนุมในกทม.ได้ยุติลงพล.ต.ท.กฤษฎา พันธ์คงชื่น ผบช.ภ.1 ได้กำชับและสั่งการตำรวจในพื้นที่ทั้ง 9 จังหวัด โดยเฉพาะในเขตปริมณฑลให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจสกัด และออกไปตรวจตราดูแลประชาชนในพื้นที่ เพราะมีความห่วงใยว่าเหตุสงบแล้วจะมีเหตุเกิดขึ้นในปริมณฑลที่มีพื้นที่ต่อเนื่องจากกทม.
การปฏิบัติหน้าที่รอบวันที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติหลายคดี อาทิ ที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เวลาประมาณ 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจสกัดที่ถนนรัตนาธิเบศน์ฝั่งขาเข้าช่วงตำบลเสาธงหิน ซึ่งผู้ต้องหา3 คนโดยสารรถแท็กซี่เข้ามาที่ด่านมีพิรุธจึงได้ตรวจค้น พบวัตถุที่เป็นของกลางมีทั้งระเบิดรวม 19 ลูก ผ้าพันคอสีแดง ผ้าโพกศีรษะสีแดงข้อความ “รัฐบาลโจรอภิสิทธิ์ออกไป” ผ้าพันคอสีดำข้อความ “ นักรบ PUCHIDO การ์ดนปช.53 ” หน้าไม้ ลูกดอก มีดพับ กล้องส่องทางไกลและอื่นๆรวม 17 รายการ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในถุงผ้าที่ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังของรถฯ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสามคนได้สอบสวนขยายผลและแจ้งข้อหาให้ทราบทั้งหมด 3 ข้อหา คือ1.ฝ่าฝืนการออกนอกเคหะสถานตามประกาศเคอร์ฟืว 2.การใช้ยานพาหนะก่อให้เกิดความไม่สงบ 3.ทำ ซื้อหรือมี สั่งให้นำเข้าหรือค้าจำหน่ายซึ่งวัตถุระเบิด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในส่วนของการออกนอกเคหะสถานเท่านั้น ส่วนอีก 2 ข้อหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งภุธรภาค1อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลต่อไปว่าจะนำไปก่อเหตุที่ใด
พ.ต.อ.วิสูตร กล่าวอีกว่า ส่วนอีกคดีเวลาประมาณ 01.00 น. สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปรากร จัดตำรวจนอกเครื่องแบบออกตรวจนอกพื้นที่ เมื่อผ่านที่ด้านหน้าธนาคารกรุงเทพสาขาสำโรงเหนือพบกลุ่มวัยรุ่นใช้จักรยานยนต์ 4 คันปิดบังป้ายทะเบียน พร้อมใช้หน้ากากปิดหน้าปิดตา ขับมาด้านหน้าธนาคารแล้วใช้ระเบิดเพลิงขว้างเข้าไปที่ธนาคาร จึงสกัดจับได้ 1 ราย และให้การรับสารภาพและพาไปการตรวจค้นพร้อมยึดถังน้ำมัน เศษผ้า ขวดบรรจุน้ำมันต่างๆ จากการสอบสวนทราบว่าถ้าไม่สามารถจับกุมจะไปก่อเหตุอีกหลายจุด ส่วนคนหนีไปได้ภูธรจังหวัดฯจะเดินการสืบสวนหาผู่ที่กระทำความผิดต่อไป
“ตำรวจมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนช่วงนี้พยายามออกตรวจตั้งด่านเพื่อป้องกันเหตุอย่างสุดกำลังความสามารถของเรา”
พบปืนเอ็ม16ภายในวัดปทุมวนาราม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบวัตถุระเบิดที่ภายในวัดปทุมวนาราม ซึ่งได้ตรวจพบอาวุธปืนเอ็ม 16 หนึ่งกระบอก หนังสติ๊ก พร้อมหัวน็อตเหล็ก และลูกแก้วเป็นจำนวนมาก รวมถึงพลุ ตะไล ด้วย ขณะที่พระสงฆ์ เณรและแม่ชีภายในวัดได้ร่วมกันทำความสะอาดภายในวัดที่มีขยะกองอยู่จำนวนมากรวมทั้งชำระล้างคราบเลือดของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วยแอลกอฮอล์และน้ำ ขณะที่ทหารยังไม่ถอนกำลังออกจากวัดโดยตรึงกำลังให้ตำรวจสามารถเข้ไปตรวจสอบภายในให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
ข่าวจาก คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20100520/59840/ศอฉ.แถลงพบอาวุธปืนระเบิดพื้นที่ม็อบแดง.html