• ทักษิณใกล้เจอมัจจุราช ยื้อชีวิตสู้โรคกรรมลงต่ำ |
โพสต์โดย เต๋า , วันที่ 01 ก.ค. 53 เวลา 11:35:57 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อไม่กี่วันก่อน มีข่าวเล็ก ๆ เกี่ยวกับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ยกฟ้องในคดีที่ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.หลายกระทรวงในระบอบทักษิณ เป็นโจทก์ฟ้อง ศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาหมิ่นประมาท
จากกรณีที่ ศิริโชค ออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในโครงการเช่าตึกในนครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อจัดตั้งไทยแลนด์พลาซ่าและไทยแลนด์มาร์เก็ตเพลส ด้วยวงเงินงบประมาณ 1,340 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้น พงษ์ศักดิ์ เป็น รมช.พาณิชย์
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจนทิ้งร่องรอยพิรุธให้คนจับได้ไล่ทันว่า น่าจะมีความพยายามแสวงหาประโยชน์จากส่วนต่างค่าเช่าที่สูงเกินจริง เป็นเพราะมีการย้ายอาคารเลขที่ 529 ซึ่งกำหนดราคาค่าเช่ากันเรียบร้อยว่า จะจ่ายปีละ 3.25 ล้านเหรียญสหรัฐไปเป็นอาคารเลขที่ 505 แทน
ร่องรอยความไม่โปร่งใสปรากฏขึ้นทันที เพราะมีรายใหม่ไปเช่าอาคาร 529 ด้วยเงื่อนไขเดียวกับรัฐบาลไทยในขณะนั้นเปี๊ยบคือระยะเวลาเช่า 10 ปี แต่บริษัทดังกล่าวเช่าได้ในราคาปีละ 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีเท่านั้น ทำให้เกิดส่วนต่างทันที 6 แสนเหรียญสหรัฐต่อปี
เมื่อคูณกับ 10 ปี ก็เท่ากับว่า รัฐบาลไทยยุคทักษิณจะเสียค่าโง่จ่ายแพงถึง 240 ล้านบาท
ซึ่งต่อมา ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ยกเลิกโครงการฉาวนี้ แถมยังบอกว่าจะตบรางวัลให้กับผู้ที่ออกมาคัดค้านโครงการนี้ด้วย
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ ศิริโชค มีความผิดฐานหมิ่นประมาทจริง แต่ลงโทษสถานเบาคือ ปรับ 3,000 บาท และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์ 6 ฉบับเป็นเวลา 15 วัน แต่ทั้งศิริโชค ในฐานะจำเลยและ พงษ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องคดี ยื่นอุทธรณ์
เมื่อศาลอุทธรณ์ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งหมด จึงได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยยกฟ้องคดีนี้ เนื่องจากเห็นว่าการให้ข้อมูลต่อสาธารณะของศิริโชคเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ
คดีนี้เป็นเพียงภาพสะท้อนบางส่วน ที่แสดงให้เห็นถึงกลไกของระบอบทักษิณที่มักใช้วิธีการฟ้องหมิ่นประมาทกับผู้คนที่มีความเห็นต่าง หรือออกมาเปิดโปงพฤติกรรมโสมมหวังปิดปากไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามออกเสียงที่จะเป็นผลลบกับตนเองและพรรคพวก
โดยในสมัยที่ ศิริโชค เป็นฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ของรัฐบาลให้กับบริษัทชินแซทเทิลไลท์ จนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องหมิ่นประมาทถึง 3 คดี เรียกค่าเสียหายกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทและใช้กลยุทธ์ยื้อเวลาโดยอ้างความไม่พร้อมต่าง ๆ นา ๆ ในการสืบพยาน ผ่านไปเกือบสี่ปี ที่สุดชินแซทฯก็ถอนฟ้องไปเองซะอย่างนั้น
สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ซึ้งถึงกลวิธีหวังใช้ศาลปิดปากฝ่ายตรงกันข้ามของทักษิณเป็นอย่างดี เพราะนับตั้งแต่จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จุดเทียนให้ปัญญากับคนในสังคม จนชะตาลิขิตให้มาเป็นแกนนำพันธมิตรฯ
ก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาทที่ทักษิณ และลูกสมุนฟ้องร้องแล้วหลายสิบคดี และมีบางคดีที่ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่คุณสนธิก็ไม่คิดหนียื่นอุทธรณ์สู้ เพราะเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย
“ผมน้อมรับคำพิพากษาก็แล้วกัน แต่ผมขอใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว ถ้าผมชนะอุทธรณ์ โจทก์เขาก็ต้องฎีกา ก็ไปตัดสินกันที่ศาลฎีกา ส่วนฎีกาจะตัดสินอย่างไรก็เป็นไปตามอย่างนั้น ถ้าศาลฎีกาบอกผมต้องติดคุกผมก็ติด ผมไม่ออกมาร้องแรกแหกกระเชอแล้วผมไม่หนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะผมเป็นคนเชื่อมั่นในระบบ”
คำกล่าวของ คุณสนธิ คงชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง ทักษิณ ที่หวังใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือกับคนที่มีความเคารพต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร เพราะคนที่เคารพต่อระบบจะยอมรับคำตัดสินแม้ว่าจะต้องติดคุก
ผิดกับคนที่มองกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำลายฝ่ายตรงกันข้าม จะหนีหางจุกตูดและกล่าวหาศาลว่าไม่เป็นธรรม เมื่อถูกตัดสินให้รับโทษทัณฑ์
แม้ว่า วันนี้กระบวนการยุติธรรมของไทยยังมิอาจลากคอ ทักษิณ มาลงโทษได้ แต่เวรกรรมก็กำลังไล่ล่า ทักษิณ อย่างกระชั้นชิดและใกล้จะถึงจุดแตกดับเต็มที
สังเกตได้จากที่ อยู่ ๆ ทักษิณก็ล่องหนหายแว็บไปจากการป่วนประเทศผ่านทวิตเตอร์เป็นระยะเวลาเกือบสองสัปดาห์แล้ว หลังจากที่ออกมากล่าวหารัฐบาลครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยในวันนั้นวันเดียวทวิตข้อความฟูมฟาย ให้ร้ายประเทศไทยอย่างต่อเนื่องถึง 10 ครั้ง และก่อนที่จะมีการทวิตป่วนเมืองก็หายเงียบไปจากวงการก่อการร้ายนานถึง 10 วัน
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถูก ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ทวิตเตอร์ตอบโต้ตีแสกหน้าให้ ทักษิณกลับมาสู้คดีในประเทศไทยพร้อมกับหยิบยกเหตุผลหลายประการมาหักกล้างความเท็จที่ ทักษิณ สร้างภาพมายาไว้ กลับไม่มีปฏิกริยาใด ๆ จากผู้ก่อการร้าย ในการตอบโต้ ดร.สมเกียรติ ซึ่งถือว่าผิดไปจากนิสัยถาวรของทักษิณเป็นอย่างมาก
สิ่งเดียวที่ทำให้ ทักษิณ สงบปากสงบคำคือกำลังอยู่ในห้วงเวลาแห่งการยื้อชีวิตกับมัจจุราช ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อถึงเวลาต้องเข้ารับการบำบัดรักษาโรคกรรรมลงต่ำจากปัญหามะเร็งต่อมลูกหมาก
ว่ากันว่า สถานที่ซวยสุด ๆ ที่อาจได้รองรับร่างไร้วิญญาณของ ทักษิณ คือ รัสเซีย โดยขณะนี้แพทย์กำลังทำการรักษาด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ด้วยความที่กฎแห่งกรรมมีจริงและกงล้อของกรรมก็ใกล้จะทับดาวมรณะเต็มแก่
จึงเกิดปรากฏการณ์แพ้เคมี เสี่ยงต่ออาการช็อคและเคยช็อคมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่กรรมที่ทำไว้มากจึงทำให้แม้แต่นรกยังลังเลที่จะรับตัวไป เพราะเกรงว่าจะทำนรกแตก
ในขณะที่ ทักษิณ กำลังต่อลมหายใจตัวเองด้วยการถ่ายเลือด ประเทศไทยที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสก็ต้องเร่งช่วยกันฟื้นฟูเพื่อให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม และเชื่อเถอะว่า แม้จะผ่านความยากลำบากมากแค่ไหน บ้านเมืองของเราจะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง แต่คนที่เนรคุณต่อแผ่นดินเกิดจะมีเพียงความทุกข์ทรมานไม่ว่าจะมีลมหายใจหรือไม่ก็ตาม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 7968 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย เต๋า
IP: Hide ip
, วันที่ 01 ก.ค. 53
เวลา 11:35:57
|