• มติสภาสหรัฐ411-4ดันโรดแม็พ'มาร์ค' |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 02 ก.ค. 53 เวลา 12:24:06 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
(2ก.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ลงมติท่วมท้นเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น สนับสนุนร่างมติซึ่งเป็นการลงมติเชิงสัญญลักษณ์ (symbolic resolution ) เรียกร้องให้วิกฤตการเมืองของไทย ได้รับการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีและผ่านทาง กระบวนการประชาธิปไตย
สภาผู้แทนราฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนน 411-4 สนับสนุนมาตรการดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในไทยทำงานอย่างแข็งขันเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆโดยยึดหลักแผนการสมานฉันท์หรือ โรดแมป 5 ข้อที่นายกรัฐมนตรีอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นผู้ร่างขึ้น
รายงานข่าวระบุด้วยว่า การชุมนุมประท้วงนานสองเดือนของคน"เสื้อแดง"ในกรุงเทพฯได้จุดชนวนความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปรวม 90 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและมีผู้บาดเจ็บเกือบ 1,900 คนและยุติลงด้วยการปราบปรามนองเลือดของกองทัพเมื่อ 19 พฤษภาคม
ด้านนสพ.ดิเอเชี่ยน วอลล์สตรีท เจอร์นัล ฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม ลงบทวิเคราะห์การอายัดธุรกรรมทางการเงิน 83 รายในเครือข่ายคนเสื้อแดง พาดหัวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวให้หัวข่าวอย่างหวือหวาว่า "ไทยมุ่งจัดการน้ำเลี้ยงเสื้อแดง" โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลังการชุมนุมของคนเสื้อแดงยุติลงเมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลไทยและผู้นำกองทัพก็มุ่งจัดการกับนักธุรกิจที่ให้ทุนสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นปัญหาท้าทายร้ายแรงที่สุดต่อพันธมิตรของสหรัฐชาตินี้ นับตั้งแต่การก่อตั้งรัฐไทยสมัยใหม่เกือบ 80 ปีก่อน
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ซึ่งเทียบได้กับสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐ(เอฟบีไอ) กำลังสอบสวนและอายัดธุรกรรมบุคคลและนิติบุคคล 83 รายที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกแจ้งข้อหาก่อการร้ายจากการปลุกระดมมวลชนขณะลี้ภัยในต่างแดน แถบคาบสมุทรบอลข่าน หลังทางการไทยระบุว่าอาจมีการใช้เงินไปแล้ว 4,720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.5 แสนล้านบาท) เพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนคนเสื้อแดง
นักวิเคราะห์ กล่าวอีกว่า แม้ผู้ชุมนุมจำนวนมากเป็นคนยากจนจากชนบท ทว่าผู้หนุนหลังจำนวนมากเป็นนักธุรกิจและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กำลังท้าทายผู้กุมอำนาจในระบบราชการ และกองทัพแบบเก่าๆเพราะต้องการมีปากมีเสียงมากขึ้นต่อทิศทางประเทศในอนาคต ขณะที่รัฐบาลไทยที่มีกองทัพหนุนหลังกำลังพยายามจะกวาดล้างผู้หนุนหลังเหล่านั้น และป้องกันเหตุรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำรอย
พ.ต.ท.ทักษิณ นับเป็นคนแรกในกลุ่มนักเคลื่อนไหวเลือดใหม่ ซึ่งเกิดและเติบโตที่ จ.เชียงใหม่ เป็นอดีตตำรวจ และนักธุรกิจในวงการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนถล่มทลายในชนบท ส่งผลให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีพลเรือนที่ทรงอำนาจที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นนายกฯ ไทยคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งอีกสมัย ก่อนถูกกองทัพยึดอำนาจเมื่อ 4 ปีก่อน และเมื่อต้นปี 2553 ก็เพิ่งถูกศาลไทยตัดสินอายัดทรัพย์สิน 1,400 ล้านดอลลาร์(ราว 4 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากออกนโยบายโดยมิชอบเอื้อธุรกิจของตนเอง
ทั้งนี้ในบรรดานักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ที่ร่ำรวยยังรวมถึง นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เจ้าของธุรกิจของเล่น และห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิล์ด ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกอายัดการทำธุรกรรมด้วย เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยในฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้ประท้วงเสื้อแดงเช่าสถานที่ในห้างอิมพีเรียล(ลาดพร้าว) ทำห้องส่งทีวี และสำนักงานหนังสือพิมพ์ของคนเสื้อแดง
รายงานข่าวยังอ้างมุมมองของนักวิเคราะห์ที่มองว่า ปฏิบัติการกวาดล้างท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดงของรัฐบาลไทย เป็นยุทธศาสตร์ที่เสี่ยง เพราะการมุ่งจัดการนักธุรกิจสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเช่นนายสงคราม ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการปฏิบัติต่อผู้ประท้วงต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้แกนนำต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นอิสระ ทั้งที่ปิดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 2 ปีก่อน
ความแตกต่างดังกล่าวตอกย้ำการกล่าวอ้างของเสื้อแดงที่ว่า พวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในแง่ของกฎหมาย
ทั้งยังกระทบต่อความพยายามประสานความแตกแยกภายในชาติของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และดูเหมือนว่ามีนักเคลื่อนไหวส่วนหนึ่งกำลังตอบโต้ด้วยการวางระเบิดพุ่งเป้าที่ทำการที่เกี่ยวกับรัฐบาล อย่างการวางระเบิดที่พรรคภูมิใจไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
บทวิเคราะห์ยังอ้างคำกล่าวของ นายฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการสถาบันความมั่งคง และระหว่างประเทศศึกษา ซึ่งมองว่า การตัดท่อน้ำเลี้ยงของคนเสื้อแดงทำให้ภาพของคนเสื้อแดงกลายเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่มีเงินเป็นตัวกระตุ้น มากกว่าเกิดจากความเดือดร้อนจริงๆ เพราะรัฐบาลไทยย้ำหลายครั้งว่า การประท้วงอาจไม่ยืดเยื้อหรือลุกลามบานปลายถึงเพียงนี้ หากไม่มีการสนับสนุนทางการเงินมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มทุนที่เป็นพันธมิตรทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังกล่าวอ้างคำพูดของคนเสื้อแดงที่มาร่วมงานศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" รายหนึ่งว่า สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องคือประชาธิปไตย ไม่ได้ทำเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯ และยังอ้างคำพูดของผู้ใกล้ชิดแกนนำนปช.คนหนึ่งที่มองว่า หากแกนนำพ้นโทษและกลับมาลงเลือกตั้ง พวกเขาจะต่อสู้โดยไม่รับเงินสนับสนุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะอาจทำให้ได้รับการสนับสนุนมากขึ้น
ข่าวจาก คมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1236 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 02 ก.ค. 53
เวลา 12:24:06
|