ปชป. เฮ ... เลือกส.ข.ได้มากกว่าเดิม 100% เดือนหน้าเลือกสก.50 เขต มันหยด ส่วน เพื่อไทย รับ ผิดคาด แพ้ยับเตรียมประเมินหาเหตุ เชื่อเสื้อแดงชุมนุมส่งผลไม่น้อย หวังไม่กระเทือนถึงสนามใหญ่
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธานส.ส.กทม. ผู้อำนวยการเลือกตั้งส.ก. ส.ข. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคฯ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่กรุณาช่วยเลือกผู้สมัครส.ข.จากพรรคประชาธิปัตย์ อย่างท่วมท้น มากกว่าเมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้วกว่า 100% เมื่อ 4 ปีที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์มี ส.ข. เพียง 4 เขต จำนวน 27 คน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เมื่อนับเพียงบางเขตปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ แล้ว 8 เขต คือเขต ลาดพร้าว วังทองหลาง หลักสี่ สายไหม คลองสามวา บึงกุ่ม บางกะปิ สะพานสูง รวมจำนวนส.ข.ที่ชนะแล้วขณะนี้ 59 คน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ยังรอลุ้นอีก 2 เขต ที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จคือเขตบางเขน มีนบุรี และจตุจักร
นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้ง ส.ข. 10 เขตนี้พรรคฯ ได้รับเลือกน้อยมากมาโดยตลอด แต่คราวนี้ได้มากกว่าเดิมเท่าตัว ซึ่งส่วนหนึ่งของการได้รับเลือกครั้งนี้เพราะในช่วงที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ ในหลาย ๆ เขต พรรคฯ พยายามทำงานหนักเพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นผลงานและช่วยสนับสนุนผู้สมัครของ พรรคฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนในอีกบางเขตที่พรรคฯ ยังไม่ได้รับเลือกตั้งนั้นเราก็จะพยายามทำงานหนักต่อไป เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนโดยรวม
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส. กทม เขตจตุจักร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเหมือนทุกครั้งที่ประชาชนมาใช้สิทธิ์ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นค่อนข้างน้อย เพราะส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในการเลือกตั้งระดับชาติมากกว่า แต่ เนื่องการแข่งขันที่ผ่านมา เป็นไปอย่างดุเดือดมาก โดยมีการใช้กลยุทธทำลายแผ่นป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ จากฝ่ายตรงข้ามจนแทบจะไม่เหลือตามท้องถนน ซึ่งตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า ในช่วง โค้งสุดท้ายของการหาเสียงมีการถอนป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ทิ้งจน เกือบหมด ทำให้ประชาชนจำหมายเลขผู้สมัครของพรรคไม่ค่อยได้ และ ในบัตรเลือกตั้งก็ไม่มีการระบุว่าผู้สมัครแต่ละคนสังกัดพรรคไหน ทำให้มีการเสียเปรียบเกิดขึ้น ดังนั้น ตนอยากเรียกร้องไปยังกทม.ว่าควรจะเข้ามาดูแลอย่างเข้มงวดมากขึ้น และหากเป็นไปได้ควรจะมีการให้ข้อมูลรายละเอียดกับประชาชน ด้วยการติดประกาศรายละเอียดผู้สมัครทุกคนว่าสังกัดพรรคไหน เบอร์อะไร
“แค่การเลือกตั้งสข.14 เขต เท่านั้นยังมีการแข่งขันกันสูงขนาดนี้ ในเดือนหน้าจะมีการเลือกตั้ง ทั้ง สก. 50 เขต และ สข.ในส่วนที่เหลือ เชื่อว่าจะมีการแข่งขันที่สูงกว่านี้หลายเท่า ประกอบกับบางพื้นที่มีกระแสกลุ่มเสื้อแดงค่อนขางสูง ผมเกรงว่าจะมีการกลั่นแกล้งกันมากขึ้น ดังนั้นทางกทม .ควรจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้”นายบุญยอดกล่าว
ขณะที่นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. และส.ส.พรรค เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากผลเลือกตั้งเบื้องต้นออกมาคงต้องมาพิจารณาเป็นรายเขต รายกลุ่ม ต้องนำมาวิเคราะห์กันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคนที่ออกมาใช้สิทธิ์คราวนี้ไม่ได้สูงอย่างที่คาด แต่ปัจจัยที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องคือรัฐบาลใช้สื่อได้ดีกว่าเราจากเหตุผล ความเชื่อจากการสลายการชุมนุม ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เราก็มีอธิบายไม่มาก ประชาชนอาจมองวิเคราะห์อะไรไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลเขาใช้สื่อได้ดีกว่าเรา แต่ไม่ว่าอย่างไรผลคะแนนออกมาเราก็เคารพในฉันทานุมัติจากประชาชน นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากคนที่จะลงไปใช้สิทธิ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงสถานที่หรือหน่วยลงคะแนน โดยที่เขาไม่ทราบว่าก่อน ทั้งที่คนเหล่านั้นตั้งใจจะไปลงคะแนนให้เรา ตนไม่บอกว่าเขาจะอะไรอย่างไร แต่เรื่องนี้กทม.จัดการไม่ดี
ถามว่าผลที่ออกมาผิดคาดจากที่พรรคประเมินหรือไม่ นายวิชาญกล่าวว่า ผิดคาดพอสมควร เพราะของเก่าเรามี 10 เขต คราวนี้เหลือ 3 เขต
ซักว่าคิดว่าเป็นผลจากการชุมนุมที่ผ่านมาหรือไม่ เขาตอบว่า คงต้องนำมาวิเคราะห์กัน ไม่รู้ว่ามีผลมากน้อยเพียงใด
ถามอีกว่าผลเลือกตั้งสข.ที่ออกมาเกรงว่าจะส่งผลถึงสนามใหญ่หรือไม่ นายวิชาญกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ตอนนี้ เพราะเป็นการทำงานคนละระดับ เลือกตั้งสข.เป็น การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่คนในท้องถิ่นเลือกกันเองให้ไปทำงานในพื้นที่ แต่เลือกตั้งใหญ่ เป็นการเลือกระดับชาติเพื่อให้เราเข้าไปทำงาน ซึ่งตอนนี้ยังบอกไม่ได้
http://www.thaipost.net/print/23120