กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ภัยน้ำป่า - สภาพความเสียหายใน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง หลังจากระดับน้ำเริ่มลดมีชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนมาก ทางการยังสั่งเฝ้าระวังเหตุน้ำปาและน้ำท่วมฉับพลันต่อเนื่อง เพราะฝนอาจตกถล่มอีกระลอก เมื่อ 16 ส.ค.
|
น้ำท่วมแจ้ห่ม ลำปาง เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเร่งทำ ความสะอาดบ้านเรือน เทศ บาลนครลำปางเตือนชาวบ้าน ในตัวเมือง เฝ้าระวังน้ำป่า ตลอด 24 ชั่วโมง หากยังมีฝนตกลงมาอีกอย่างต่อเนื่อง ส่วนความเสียหาย 2 วันที่ผ่านมา แจ้ซ้อน 7 ตำบล กว่า 1,200 ครัวเรือน ชาวบ้านเดือดร้อน 5,600 คน อ.เมืองปาน ชาวบ้านเดือดร้อน 2,398 ครัวเรือน เกาะคา 1,800 ครัวเรือน อ.เมืองลำปาง 1,700 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่กรมอุตุฯเตือนเหนือ-อีสานตอนบนระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าทะลัก ด้านจ.น่านสั่งเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง หลังสะพานถูกน้ำป่าพัดขาด และ 6 เขื่อนใหญ่ในอีสานใต้ฝนตกเติมน้ำลงเขื่อนได้มาก
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจ.ลำปาง ว่า สถาน การณ์น้ำท่วมในพื้นที่อ.แจ้ห่ม ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมเร่งล้างทำความสะอาดบ้านเรือน ทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้านและนำมาตากแดดบนถนน ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกน้ำท่วมขังต้องใช้เครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออก คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติในประมาณ 2 วัน
อย่างไรก็ตามการระบายน้ำของเขื่อนกิ่วลมทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำวังเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทศบาลนครลำปางได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในตัวเมืองให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เนื่อง จากเกรงว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงและเข้าท่วมตัวเมืองได้ หากยังมีฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องลงมาอีก นอกจากนี้สะพานที่อยู่ในเขตเทศบาลนครลำปางทุกแห่ง มีการวัดระดับน้ำเตือนภัยทุกแห่ง เพื่อเฝ้าระวังตลอดเวลา
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.ลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขตอ.แจ้ห่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ก็ยังต้องคอยติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากลำปางเคยประสบอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่มาแล้วหลายครั้งในช่วงรอยต่อระหว่างเดือนก.ย.-ต.ค. ทำให้มีบ้านเรือนชาวบ้านถูกน้ำพัดไปหลายสิบหลังคาเรือน จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากจากลำน้ำแม่สอย เข้าท่วมในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม วันที่ 14-15 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่าได้รับความเสียหาย 7 ตำบล คือ แจ้ห่ม วิเชตนคร แม่สุก บ้านสา เมืองมาย ทุ่งผึ้ง และปงดอน มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 1,260 ครัวเรือน จำนวน 5,600 คน นาข้าวเสียหาย 2,000 ไร่ เครื่องสูบน้ำ 8 เครื่อง ฝาย 6 จุด ส่วนมูลค่าความเสียหายยังอยู่ระหว่างสำรวจ
นายกฤชเพชรกล่าวว่า ส่วนอ.เมืองปาน ได้รับผลกระทบ 1 ตำบล 13 หมู่บ้าน 2,398 ครัวเรือน, อ.เกาะคา 2 ตำบล คือ ต.ใหม่พัฒนา และไหล่หิน 10 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 1,814 ครัวเรือน ถนนเชื่อมคอสะพาน 1 สาย ท่อลอด 1 สาย ถนน 2 สาย พื้นที่การเกษตร 2,427 ไร่, อ.เมืองลำปาง ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล คือ บ้านแลง บ้านค่า บ้านเอื้อม และบ้านเสด็จ ชาวบ้านเดือดร้อน 1,700 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายบุตร เทพวงศ์ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านวังยวม ต.บ้านแลง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,200 ไร่ นา 700 ไร่ ฝาย 1 แห่ง, อ.วังเหนือ ได้รับผลกระทบที่ต.วังทอง 5 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อน 403 ครัวเรือน ถนนลูกรังเสียหาย 2 แห่ง ท่อระบายน้ำ 3 แห่ง สะพานไม้ 2 แห่ง และคอสะพาน 2 แห่ง
วันเดียวกัน เวลา 04.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศทั่วประเทศ พร้อมทั้งเตือนว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านจ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย อุดรธานี นครพนม และสกลนคร ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย
นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าฯน่าน เปิดเผยว่า จากที่พายุโกยเซินพัดเข้าถล่ม จ.น่าน ทำให้สะพานปางสา ซึ่งข้ามระหว่างอบต.ผาตองกับอบต.ผาทอง ได้รับความเสียหาย โดยสะพานดังกล่าวเป็นของอบจ.น่าน ซึ่งใช้งบประมาณสำรองจ่ายมาซ่อมแซมสะพานไม้ชั่วคราวก่อน และทางอำเภอได้ของบกลางจากกระทรวงมหาดไทยเกือบ 3 ล้านบาท มาซ่อมแซมสะพานเป็นการด่วน
อย่างไรก็ตามขอเตือนประชาชนในพื้นที่จ.น่าน ให้ระวังพายุที่กำลังจะเข้ามาในช่วงตลอดเข้าพรรษา ขอให้ประชาชนติดตามเฝ้าระวังและสังเกตจุดวัดระดับน้ำว่า ถึงจุดวิกฤตหรือไม่ และทางจังหวัดจะประสานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้บริหารท้องถิ่นและจะแจ้งเตือนทุกระยะ เพื่อให้ประชาชนเตรียมการขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูง เพื่อจะได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า ขณะนี้มีเครื่องสูบน้ำของเทศบาลเมืองน่าน ที่ทางจ.น่านจัดซื้อมาให้ 4 เครื่อง เป็นเครื่องที่ใช้ท่อสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว กำลังแรงสามารถสูบน้ำภายใน 30 วินาที ได้ 12,000 ลิตร โดยทดสอบสูบน้ำจากบ่อบำบัดน้ำเสียใส่ในรถบรรทุกน้ำของเทศบาลที่มีความจุ 12,000 ลิตร เต็มภายใน 30 วินาที และของชลประทานน่านที่สนับสนุนเมื่อมีเหตุการณ์อีก 4 เครื่องด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆ ในภาคอีสานตอนล่าง นายทรรศนันทน์ เถาหมอ ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราช สีมา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ 4 จังหวัดคือ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์ และศรีสะเกษ ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำ 6 แห่ง เพิ่มสูงขึ้นจนพ้นวิกฤต คือ เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 91.30 ล้านลบ.ม. เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี จ.นครราช สีมา ปริมาณน้ำ 37.365 ล้านลบ.ม. เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำ 118.980 ล้านลบ.ม. เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำ 52.890 ล้านลบ.ม. เขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำ 47.440 ล้านลบ.ม. และเขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ ปริมาณน้ำ 45.767 ล้านลบ.ม. และคาดว่าน้ำจะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ที่ จ.ตราด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด จำลองสถานการณ์การฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 20 ส.ค. ใน 3 พื้นที่คือ 1.ศูนย์ราชการุณย์เขาล้าน อ.เมือง จ.ตราด จะเป็นศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ และศูนย์รองรับการอพยพ 2.หาดบานชื่น อ.คลองใหญ่ ฝึกซ้อมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำและกระแสน้ำดูดออก และ3.สนามบินตราด อ.เขาสมิง สถานที่ฝึกซ้อมช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยจากเครื่องบินเกิดเพลิงไหม้
ข่าวจาก ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|