• กพ.เสนอ ออก กฎฟันขรก.หัวงู-ลวนลามด้วยตาก็ผิด |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 31 ส.ค. 53 เวลา 13:11:39 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข่าว
ลุยปราบข้าราชการหัวงู ก.พ.เสนอครม.ตั้ง 5 กฎเหล็ก ทั้งห้ามใช้สายตาลวนลาม ห้ามส่งอีเมล์ลามก ห้ามจับต้องของสงวน ห้ามพูดจาแทะโลม และห้ามพฤติกรรมส่อทางเพศ เผยมีผลกับข้าราชการพลเรือน 19 กระทรวง ไม่นับรวมตำรวจ ทหาร ครู ผู้พิพากษา อัยการและข้าราชการการเมือง ระบุที่ผ่านมา ก.พ.รับการร้องเรียนจำนวนมากถึงเรื่องการล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่มีข้อกฎหมายรองรับ
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการ ก.พ. เปิดเผยว่า ในวันอังคารที่ 31 ส.ค.นี้ ก.พ.จะเสนอร่างกฎก.พ.ว่าด้วยการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ...ให้ครม.พิจารณา เพื่อแก้ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในวงราชการ เนื่องจากที่ผ่านมา ก.พ. รับการร้องเรียนจากข้าราชการจำนวนมากถึงเรื่องการล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะผู้เสียหายไม่กล้าระบุชื่อ ประกอบกับไม่มีข้อกฎหมายรองรับ แต่การที่มีกฎก.พ.ดังกล่าวจะช่วยให้ข้าราชการที่ถูกคุกคามทางเพศกล้ามาร้องเรียนมากขึ้น จะช่วยให้ข้าราชการตระหนักไม่กล้ากระทำผิด เพราะมีระเบียบรองรับอยู่
หลังจากที่ครม.เห็นชอบร่างกฎก.พ.ฉบับนี้แล้ว ก.พ.จะเร่งทำคู่มืออธิบายรายละเอียดลักษณะพฤติกรรมที่เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศให้แก่ข้าราชการทราบโดยเร็วที่สุด เพราะกฎก.พ. ฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับทันที เมื่อมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตามกฎก.พ. ฉบับนี้จะใช้บังคับเฉพาะกับข้าราชการพลเรือนสามัญ 19 กระทรวงเท่านั้น ไม่รวมถึงข้าราชการตำรวจ ทหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ พิพากษา อัยการ และข้าราชการการเมือง
นายพิรุณ เพียรล้ำเลิศ นิติกรผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานก.พ.กล่าวว่า กฎก.พ.ฉบับนี้จะเอาผิดข้าราชการที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศ แต่จะถือเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เว้นแต่การกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อต้นสังกัด ก็จะเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 85 ของพ.ร.บ.ระเบียบข้าราช การพลเรือน นอกจากนี้กฎก.พ.นี้มุ่งเอาผิดเฉพาะการปฏิบัติราชการ โดยเป็นกระทำระหว่างข้าราช การต่อข้าราชการ หรือข้าราชการต่อผู้ร่วมปฏิบัติราชการ เช่น ลูกจ้างโครงการของส่วนราชการ ซึ่งขณะก่อเหตุไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ราชการ จะเป็นสถานที่นอกราชการก็ได้ โดยจะดูจากเจตนาของทั้งสองฝ่าย หากเป็นการสมยอมกัน ก็ไม่เข้าข่ายกระทำผิด แต่หากฝ่ายผู้ถูกกระทำไม่ยินยอม ทำให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ ก็จะมีความผิดตามกฎก.พ.นี้
นายพิรุณ กล่าวว่า ลักษณะที่เข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎก.พ.นี้มี 5 ข้อได้แก่ 1.กระทำการด้วยการสัมผัสทางกายที่มีลักษณะส่อไปในทางเพศ เช่น การจูบ การโอบกอด การจับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะชายกับหญิงเท่านั้น จะเป็นเพศเดียวกันก็ได้ 2.กระทำการด้วยวาจาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น วิพากษ์วิจารณ์ร่างกาย พูดหยอกล้อ พูดหยาบคาย เช่น ฝ่ายชายพูดจาสองแง่ สามง่าม โดยผู้หญิงไม่อยากฟัง 3.กระทำการด้วยอากัปกิริยาที่ส่อไปในทางเพศ เช่น การใช้สายตาลวนลาม การทำสัญญาณหรือสัญลักษณ์เช่น ชายจ้องมองอวัยวะผู้หญิง โดยใช้สายตาลวนลาม แต่กรณีนี้ต้องมีพยานหลักฐานยืนยัน 4.การแสดงหรือสื่อสารด้วยวิธีการใดๆ ที่ส่อไปในทางเพศ เช่น แสดงรูปลามกอนาจาร ส่งจดหมาย ข้อความหรือการสื่อสารรูปแบบอื่น เช่น การเปิดเว็บลามกแล้วเรียกฝ่ายหญิงไปดู หรือส่งอีเมล์ลามกให้ฝ่ายหญิง โดยอีกฝ่ายไม่เต็มใจ 5.การแสดงพฤติกรรมอื่นใดที่ส่อไปในทางเพศ ซึ่งผู้ถูกกระทำไม่พึงประสงค์หรือเดือดร้อนรำคาญ
นายพิรุณ กล่าวว่า ส่วนผู้มีหน้าที่พิสูจน์พฤติกรรมกระทำผิดดังกล่าวคือ ผู้มีอำนาจสั่งแต่งตั้ง บรรจุข้าราชการตามลำดับชั้น โดยผู้ร้องต้องมีหนังสือร้องเรียน พยานหลักฐาน หากมีมูลผู้บังคับบัญชาก็จะสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเป็นกรณีๆไป หรือตั้งกรรมการสอบสวนข้อมูลในเบื้องต้น ส่วนผู้ร้องเรียนไม่จำเป็นต้องเป็นคู่กรณี เป็นบุคคลภายนอกก็ได้ หากพบเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม หลังจากกฎหมายผ่าน ครม.แล้ว จะนำคู่มือแจกจ่ายและจัดอบรมข้าราชการต่อไป ทั้งนี้ การตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาด้วย เพราะมีหลายครั้งเป็นการสมยอม แต่ต่อมากลับถูกนำมาแบล็กเมล์ภายหลัง
ที่มา ข่าวสด
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1569 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 31 ส.ค. 53
เวลา 13:11:39
|