• เหนือแชมป์คดีฆ่าตัวตายสาเหตุซึมเศร้า |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 05 ก.ย. 53 เวลา 20:33:08 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เหนือครองแชมป์ฆ่าตัวตายเหมือน เดิมสถิติ 11 ปีย้อนหลังไม่เปลี่ยนแม้ล่าสุดเริ่มลดลงบ้าง ระยองมาแรงแซงระดับจังหวัด แนวโน้มปี 53 เหนือก็ยังแรงอยู่ทั้ง เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน และพะเยา
เมื่อวันที่ 3 ก.ย.53 นายแพทย์สุวัฒน์ มหัตนิรันดร์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า จากการเก็บข้อมูลของโครงการช่วยเหลือผู้ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในพื้นที่ 10 จังหวัดที่มีข้อมูลความเสี่ยงและอัตราการฆ่าตัวตายสูง พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายในปี 2552 พื้นที่จังหวัดระยอง มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดสูงที่สุด รองลงมาเป็นจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน จันทบุรี อุทัยธานี พะเยา และลำปาง โดยมีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จถึง 3,634 คน หรือคิดเป็น 5.72 ต่อแสนประชากร
นายแพทย์สุวัฒน์บอกว่า ทั้งนี้สถิติดังกล่าวลดลงจากปี 2551 ที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ 3,792 คน หรือคิดเป็น 5.96 ต่อแสนประชากร โดยพบว่า เพศชายจะฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าเพศหญิง ซึ่งพบสาเหตุสำคัญเกิดจากปัญหาภาวะซึมเศร้า อาการน้อยเนื้อต่ำใจ ความรัก หึงหวง เครียด ปัญหาเรื่องการเรียน ปัญหาส่วนตัว การงานและประชดชีวิต สำหรับข้อมูลพื้นที่ภาคเหนือย้อนหลัง อัตราการฆ่าตัวตายระหว่างปี 2541-2552 จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน และพะเยา ยังมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง แม้จะมีลดลงบ้างแต่ยงน้อย ซึ่งในครึ่งปี 2553 ก็ยังพบว่ามีสถิติที่สูงกว่าภาคอื่นๆ แม้จะมีอัตราที่ลดลงบ้างจากปีก่อน
อย่างไรก็ตามพบว่า อัตราการฆ่าตัวตายในประเทศไทยได้รับการควบคุมและป้องกันให้ลดน้อยลงตามลำดับ แต่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนนั้นยังมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในระดับประเทศอยู่ ดังนั้นจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดรณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตายขึ้นอย่างต่อเนื่อง และองค์การอนามัยโลกก็ได้กำหนดให้วันที่ 10 กันยายน เป็นวันรณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตายโลก ซึ่งในปีนี้จะมีการจัดกิจกรรมในวันที่ 7 กันยายน ที่โรงเรียนหางดงรัฐราษฎรอุปถัมภ์ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ลงในพื้นที่อำเภอรอบนอกเพื่อให้ข้อมูลได้ทั่วถึงจากปกติจะจัดกิจกรรมเฉพาะในเขตเมือง
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นนั้น มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อสร้างความตระหนักกับเยาวชนและประชาชนประเด็นความเข้าใจ เห็นใจยอมรับผู้ที่อยู่ในภาวะคิดฆ่าตัวตายและผู้ลงมือกระทำ เพื่อให้ความรู้โดยตรงกับกลุ่มเป้าหมายในเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการฆ่าตัวตาย เพื่อเป็นการส่งข่าวสารโดยตรงกับประชาชน สำหรับกลุ่มเสี่ยงจะมีทั้งผู้ป่วยทางจิต ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ผู้ติดสุรา ผู้ป่วยทางกายเรื้อรัง และโรคราย กลุ่มผู้มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมกันนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้สาธารณชนใส่ใจเกี่ยวกับการป้องกันการฆ่าตัวตายให้มากขึ้นด้วย.
ข่าวจาก ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1926 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 05 ก.ย. 53
เวลา 20:33:08
|