• ฟิล์มเอาอีกขู่แฉแอนนี่ |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 20 ต.ค. 53 เวลา 11:30:35 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ยังดิ้น - "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ต้อนรับบรรดาแฟนคลับที่มากรี๊ดให้กำลังใจ ระหว่างอัดรายการทีวี "ตีสิบ" เมื่อวันที่ 19 ต.ค. อ้างมีหลักฐานเด็ดในการแฉแอนนี่ บรู๊ค ขณะที่แม่ของฟิล์มก็ห้ามฝาย หญิงระบุฟิล์มเป็น พ่อเด็ก
|
'ฟิล์ม-รัฐภูมิ' นักร้องคนดังควงแม่ออกตีสิบ โต้ข่าวฉาวกรณีมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ 'แอนนี่ บรู๊ค' จนฝ่ายหญิงตั้งท้องและคลอดบุตรออกมา อ้างมีหลักฐานเด็ดอยู่ในมือพร้อมตอบโต้ฝ่ายหญิง ทั้งยังพูดเป็นนัยระบุว่าสิ่งที่ 'พจน์ อานนท์' แย้มเรื่องตนเห็นแอนนี่อยู่กับชายอื่นเป็นเรื่องจริง ยันไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่กินยาแก้เครียดมากเกินไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนหมดสติ โอดการยื่นมือช่วยเหลือแอนนี่ไม่ใช่หมายความว่าจะยอมรับเป็นพ่อเด็กที่เกิดมา มั่นใจ 'เฮียฮ้อ' รับมือได้ถ้าโดนฟ้อง แผนในอนาคตเตรียมไปบวชช่วงสิ้นเดือน พ.ย. จากนั้นจะบินไปเรียนภาษาเมืองผู้ดี ด้านแม่โคมมนต์จี้เอาชื่อฟิล์มออกจากใบแจ้งเกิดเพราะยังไม่ได้พิสูจน์ดีเอ็นเอว่าเป็นพ่อเด็กจริงๆ
-ฟิล์มเครียด-น.น.ลด10กิโลฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่สตูดิโอห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2 กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ฟิล์ม"รัฐภูมิ โตคง ทรัพย์ นักร้องและนักแสดงชื่อดังสังกัดบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) พร้อมนางโคมมนต์ ทองมั่ง มารดา เดินทางมาบันทึกเทปรายการ "ตีสิบ" ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เพื่อเปิดใจถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากตกเป็นข่าวว่ามีลูกกับดาราสาว แอนนี่ บรู๊ค โดยมีกลุ่มแฟนคลับจำนวนมากมารวมตัวกันที่บริเวณลานจอด รถเพื่อให้กำลังใจนักร้องหนุ่ม พร้อมชูป้ายเขียนข้อความว่า "เราสัญญาจะอยู่เคียงข้างฟิล์มตลอดไป" และ "1 นาทีเพื่อรัก ทั้งชีวิตเพื่อฟิล์ม"
เวลา 11.30 น. นายวิทวัส สุนทรวิเนตร์ ผู้ดำเนินรายการ พูดนำเข้าสู่การบันทึกเทปรายการ จากนั้นนายวิทวัสเริ่มทักทายว่า ได้ข่าวว่าน้ำหนักลดลงเยอะ ฟิล์ม กล่าวว่า ผอมลงน้ำหนักลดเกือบ 10 กิโลกรัม ยอมรับว่ากินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่สบายเรื้อรัง พักผ่อนน้อย เมื่อ 2-3 วันก่อนเพิ่งไปโรงพยาบาลกรุงเทพเพราะรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้หวัด 2009 ทั้งที่ก็ฉีดวัคซีนแล้ว จึงให้แพทย์ตรวจละเอียดอีกครั้ง ผลออกมาว่าไม่เป็น ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้กำลังใจจากทุกคน
-ปัดข่าวกินยาฆ่าตัวตาย
นายวิทวัส ถามว่า จากเหตุการณ์ฟิล์มกินยาเกินขนาดจนหมดสติ เป็นการคิดฆ่าตัวตายหรือไม่ ฟิล์ม กล่าวว่า ไม่เคยคิดอย่างนั้น พื้นฐานครอบครัวสอนตลอดว่าให้มองว่าปัญหาเกิดขึ้นจากตัวเองหรือเปล่า เราเป็นลูกผู้ชายต้องยอมรับความจริง แต่ขณะนั้นปัญหาของตนมีผู้หลักผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้องทำให้เครียด และพอดีบ้านอยู่ใกล้บ้านพี่จิ๊ก (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) เลยชวนคุณแม่ขับรถไปหา พี่จิ๊กชวนปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิที่ห้องพระที่บ้าน ตนปรึกษาว่ามีปัญหานอนไม่หลับ พี่จิ๊กจึงแนะนำให้กินยาคลายเครียด
พิธีกรถามว่า ยาที่ฟิล์มกินจนเกินขนาดคือยาอะไร พิธีกรหยิบซองยาที่มีชื่อ "จิ๊ก-เนาวรัตน์" เป็นผู้รับยา เป็นตัวยาพรีนาร์พิล ขนาด 0.5 มิลลิ กรัม 1 แผง และยาโซแลม ขนาด 1 มิลลิกรัม อีก 1 แผง ซึ่งแพทย์สั่งให้รับประทานครั้งละครึ่งเม็ด วันละ 1 ครั้ง และยานี้อาจทำให้ง่วง ซึ่งฟิล์มเผยว่า ครั้งแรกกินไป 3 เม็ดยังไม่ง่วง เลยโทรศัพท์ไปถามพี่จิ๊กว่าเป็นยาอะไรทำไมไม่ง่วง พี่จิ๊กบอกเป็นยาคลายเครียดไม่ใช่ยานอนหลับ ตนเลยกินไปรวม 2 ชนิดก็ 7 เม็ด แต่ก็ยังไม่ง่วง เหตุการณ์นี้จึงเป็นอุทาหรณ์ว่าถ้าไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาก่อน ไม่ได้พบแพทย์ แต่กินยาเองจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
พัลวัน - "ฟิล์ม"รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พร้อมนางโคมมนต์ ทองมั่ง ออกรายการทีวี "ตีสิบ" อ้างมีหลักฐานเด็ดเพื่อแฉกลับดาราสาว "แอนนี่ บรู๊ค" ขณะที่แม่ของฟิล์มก็ห้ามระบุชื่อฟิล์มเป็นพ่อเด็ก ตามข่าว
|
นักร้องหนุ่มกล่าวถึงสาเหตุที่กินยาหลายเม็ดด้วยว่า จริงๆ วันนั้นต้องการแต่งเพลงเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง อยากให้ได้ความรู้สึก และอีกอย่างคือวันรุ่งขึ้นต้องตื่นเช้ามาแถลงข่าว กลัวหน้าจะโทรมจึงกินยา แพทย์บอกว่าตอนมาถึงหัวใจเต้น 40 หากมาช้ากว่านี้เพียงนิดเดียวอาจเสียชีวิต แต่ตนไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย แค่เกิดจากความประมาทรู้เท่าไม่ถึงการณ์
-โอดอยากแก้ไขอดีต
นายวิทวัส ถามต่อว่า ถ้ามองย้อนกลับไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีอะไรที่ทำไปแล้วและอยากแก้ไข รวมถึงสิ่งที่ยังไม่ได้ทำและอยากแก้ไข ฟิล์ม กล่าวว่า ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาคิดได้หลายอย่างว่าการใช้ชีวิตในสังคม การที่คนเราช่วยเหลือใครแต่ยังไม่มีความชัดเจน บางทีเป็นสิ่งที่ผิด นายวิทวัสพูดแทรกว่า การช่วยเหลือที่ว่าหมายถึงช่วยเหลือแอนนี่ทั้งที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กก็ยังช่วยใช่หรือไม่ และอะไรทำให้ฟิล์มช่วยเหลือ ฟิล์ม กล่าวว่า แม่บอกให้มองข้ามจุดนั้น ให้ช่วยเหลือเลย และการที่ช่วยเหลือไม่ได้แปลว่าตนยอมรับ แต่คนกลับมองว่าตนช่วยเพราะยอม รับ ซึ่งเรื่องนี้คนละประเด็นกัน ตนเต็มใจช่วย แต่กลับถูกสังคมมองแบบนั้น
ต่อมา นายวิทวัสเชิญนางโคมมนต์ มารดาของฟิล์ม มาร่วมสนทนา และถามว่าตั้งแต่ทราบข่าวเรื่องนี้วันเแรก ฟิล์มเล่าว่าอย่างไร นางโคมมนต์ เปิดเผยว่า ฟิล์มมาขอโทษว่าไปเป็นต้นเหตุเรื่องที่มีผู้หญิงโทร.บอกว่าตั้งครรภ์กับฟิล์ม ตนจึงถามและดุฟิล์มว่าเคยเตือนเรื่องการดูแลตัวเองว่าให้ระมัดระวังแล้ว พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงตกใจ แต่พอฟังรายละเอียดทั้งหมดก็ถามว่าผู้หญิงเขาเดือดร้อนไหม ตนอยากช่วยเหลือตามเหตุตามผลในฐานะหัวอกลูกผู้หญิงเหมือนกัน
เมื่อถามว่า ครั้งแรกที่เห็นหน้าน้องฑีฆายุคิดว่าหน้าเหมือนลูกชายหรือไม่ นางโคมมนต์ กล่าวว่า ดูไม่ออก แต่หน้าเหมือนแม่ ไม่มีเค้าเหมือนฟิล์ม แต่เด็กแรกเกิดหน้าดูไม่ค่อยออกหรอกว่าเหมือนใคร ส่วนเรื่องวันคลอดที่ตนมีส่วนช่วยกำหนดนั้น ตนอยากให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดจริงๆ สำหรับเด็กที่จะเกิดมา เพราะพอมีความรู้เรื่องดวงชะตาอยู่บ้าง และนางโคมมนต์ยังเผยอีกว่า ถึงตอนนั้นฟิล์มจะมีความเคลือบแคลงใจ แต่ตนไม่เข้าข้างลูก เพราะรู้ว่าฝ่ายหญิงมีความทุกข์ใจจึงอยากช่วยเหลือ
พิธีกรตีสิบกล่าวว่า จะฟ้องร้องแอนนี่หรือไม่ ฟิล์มตอบว่า ตอนนี้ตนกับครอบครัวไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่อนาคตไม่แน่ ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่
-หลบไปบวช-เรียนอังกฤษ
นายวิทวัส ถามว่า จะร้องต่อศาลให้ตรวจดีเอ็นเอเด็กหรือไม่ เพราะทางแอนนี่ยืนยันไม่ตรวจ ฟิล์ม กล่าวว่า ตนแคร์เรื่องนี้ พ่อแม่ตนอยากเลี้ยงหลานแต่ต้องให้มีความแน่ชัด ตอนนี้ถ้าต้องตรวจก็ไม่ปฏิเสธ ส่วนเรื่องที่จะร้องต่อศาลให้มีการตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ คงต้องขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน
เมื่อถามต่อว่า ทราบว่าฝั่งฟิล์มมีการรวบรวมหลักฐานอย่างไรบ้าง ฟิล์ม เผยว่า มีคนส่งหลักฐานมาให้จำนวนมากก็ต้องขอบคุณทุกคน ส่วนอนาคตหลังจากนี้งานชิ้นแรกที่จะกลับมาทำคงเป็นงานเพลง ตนคุยกับเฮียฮ้อแล้ว ซึ่งเฮียบอกว่างานไหนไม่ทันก็ตัดทิ้งไป เรื่องโปรเจ็กต์โกอินเตอร์เป็นเอเชียสตาร์จะกลับมาทำแน่นอน
นายวิทวัสถามถึงเรื่องขอขมาลาบวช ฟิล์ม กล่าวว่า วางแผนไว้ช่วงสิ้นเดือน พ.ย. ที่วัดในจ.สระบุรี และจะไปจำวัดที่ จ.เชียงราย ตั้งใจจะบวชประมาณ 20 วัน หลังบวชเตรียมไปศึกษาต่อโดยลงคอร์สเรียนภาษาเพิ่มเติมที่ประเทศอังกฤษในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.ปีหน้า เพื่อกลับมาทำเพลงที่ตนจะโกอินเตอร์ต่อ
-จี้เอาชื่อ'ฟิล์ม'ออกจากใบเกิด
ช่วงท้ายของรายการ พิธีกรตีสิบถามว่า อยากฝากอะไรถึงแอนนี่ ฟิล์ม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนพยายามติดต่อไป แต่เป็นทางมูลนิธิรับสายแทนตลอด ถึงวันนี้คงไม่ได้ทำอะไรแล้ว คงแล้วแต่แม่ อยากฝากทุกคนว่า เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง และจะทำให้ตนก้าวข้ามจุดนี้ไปได้
นางโคมมนต์ เสริมว่า อยากได้รับความกระ จ่างและโปร่งใส อยากได้ความชัดเจนไม่ใช่แค่เงา ฟิล์มมีข่าวฉาวขนาดนี้ถ้าถูกกดทับไว้คงไม่ได้ช่วยอะไรกับการพัฒนาสังคม ปัญหานี้ถ้าได้รับการแก้ไขคงดีกับฟิล์มและสังคมด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่เกิดจากคน 2 คนที่ทำตามใจตัวเองและมาบานปลายต่อสังคม นอกจากนั้น นางโคมมนต์ยังฝากข้อความสำคัญถึงแอนนี่ว่า ตนทราบว่าแอนนี่ใช้ชื่อฟิล์มเป็นพ่อของเด็กในใบแจ้งเกิด ตนอยากให้มีความโปร่งใสก่อน และตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนก็ยังไม่น่าใส่ชื่อฟิล์มเป็นพ่อ ถ้าเป็นจริงตามที่ตนทราบมาก็อยากวอนให้เอาชื่อฟิล์มออก และขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ความจริงก่อน
ด้านฟิล์มกล่าวปิดท้ายว่า ปัญหาทุกอย่างเกิดจากตนเอง ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าคงไม่มีใครทำร้ายได้เพราะตนเด่นดัง แต่ตอนนี้คิดได้ว่าทุกอย่างเกิดจากตัวเองทั้งนั้น ที่ทำให้ทุกคนเสียใจ และตนก็ได้มีเวลากลับมามองตัวเองแล้วว่าได้ทำอะไรที่ประมาทลงไป
-อ้างมีหลักฐานเด็ดโต้'แอนนี่'
หลังบันทึกเทปเสร็จ นักร้องหนุ่มและมารดาเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติม โดยฟิล์มระบุว่า หลังจากนี้งานแรกที่จะกลับมาทำคืออัลบั้มเพลงชุดฟิล์มไคลแมกซ์ที่ทำค้างไว้ พอเสร็จจากตรงนี้คงต้องบวช
ผู้สื่อข่าวถามว่า เตรียมตัวกับการกลับมาครั้งนี้อย่างไรบ้าง ฟิล์ม กล่าวว่า คิดว่าต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ในส่วนตัวคงทำงานเต็มที่เพื่อทุกคนเหมือนเดิม แต่ถ้ากลับมาแล้วทุกอย่างไม่เหมือนเดิม คงต้องยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผชิญหน้ากับความจริงและผ่านมันไปให้ได้ สิ่งที่ตนทำนั้นทำจากใจทั้งหมด เพราะผู้ชายไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรมากอยู่แล้ว สิ่งที่พูดเพียงน้อยนิดแต่เชื่อว่าคนที่เห็นและรับฟังจะเข้าใจ
ต่อข้อถามว่า วันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค. ฝ่ายแอนนี่จะฟ้องนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ เฮียฮ้อ ผู้บริหารอาร์เอส และพจน์ อานนท์ ได้ให้กำลังใจทั้งสองคนอย่างไร ฟิล์ม กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่คิดว่าผู้ใหญ่มีวิธีที่รอไว้อยู่แล้ว จริงๆ ทุกคนไม่อยากจะมีเรื่องราวของคดีให้วุ่นวายนัก อะไรที่เคลียร์กันได้จบได้ง่ายๆ ดีที่สุด
"ผมต้องขอบคุณทุกคนทุกหลักฐานที่ส่งมาให้ผมและต้นสังกัดมีเยอะมากๆ ผมว่าหลักฐานตอนนี้พอก่อนก็ได้เพราะมันก็เท่านั้น จริงๆ ผม พยายามพูดตลอดว่าอย่าหนีความจริง ถามว่ามั่นใจ ในหลักฐานที่มีอยู่ในมือมั้ย ผมค่อนข้างมั่นใจ เพราะ มันทำให้ผมและครอบครัวสบายใจขึ้นเยอะ"
-ซัดเห็น'แอนนี่'อยู่กับชายอื่น
ต่อข้อถามว่า หลักฐานที่มีอยู่เป็นเอกสาร บุคคล หรือคลิปวิดีโอ นักร้องคนดังกล่าวว่า คงพูดอะไรมากไม่ได้ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนที่พจน์ อานนท์ ออกมาพูดเป็นความจริงทั้งหมดหรือไม่ อย่างเช่น เรื่องที่ฟิล์มไปเจอฝ่ายหญิงอยู่กับคนอื่น ฟิล์ม กล่าวว่า ตนว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดมาทั้งหมดน่าจะเชื่อถือได้
เมื่อถามว่า อีกฝ่ายกลัวว่าการตรวจดีเอ็นเอผลอาจจะถูกเปลี่ยนแปลงได้ ฟิล์มตอบว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนได้ มันไม่ใช่ละคร ด้านนางโคมมนต์เสริมว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความไม่แน่ นอนในการตรวจสอบ เพราะทันสมัยออกอย่างนี้ อีกอย่างต้องให้เกียรติคุณหมอทุกท่านด้วย
"ถ้าผลตรวจออกมาแล้วเป็นลูกของฟิล์มจริงแม่ก็ดีใจ เพราะเด็กที่เกิดมาดูโลกคนหนึ่งถือว่าเป็นโชคดี แล้วคิดว่าฟิล์มคงจะภูมิใจในฐานะของความเป็นพ่อ จะได้มีโอกาสวางแผนชีวิตของตัวเองและเด็กคนหนึ่งต่อไป แต่ถ้าไม่ใช่ลูกฟิล์มก็คงเป็นเรื่องของคุณแม่ของเด็ก อยู่ที่การตัดสินใจของเขา แม่คงไปเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้" นางโคมมนต์ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนจะไปสู่ขั้นตอนการฟ้องร้องอยากให้มีการพูดคุยกันก่อนหรือไม่ นางโคมมนต์ กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่แน่ใจว่าจะมีการพูดคุยระหว่างสองฝ่ายนี้ได้แล้ว คงต้องมีคนกลาง เพราะเรื่องบานปลายใหญ่โตมาก
ต่อข้อถามว่า ติดต่อไปทางแอนนี่ล่าสุดเมื่อไหร่ ฟิล์ม กล่าวว่า ตั้งแต่มีข่าวหนักๆ น่าจะช่วงออกรายการตีสิบ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ไม่ได้ผลอะไรเลย ตนเครียดอยู่แค่เรื่องเดียวว่าทำไมผู้ชายพูดอะไรไม่ได้เลย
-ลั่นให้เวลาพิสูจน์ความจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยใจสังคมไหม ฟิล์ม กล่าวว่า "ไม่เป็นไรครับ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์" ด้านนางโคมมนต์ ระบุว่า สิ่งนี้ผ่านไปแล้ว เอาปัจจุบันและข้างหน้าดีกว่า สิ่งที่อยากให้ฟิล์มทำคือยืนอยู่บนพื้นฐานของความดี ไม่อยากให้ท้อถอย สร้างความดีต่อไป และการดำรงชีวิต ตนอยากให้ฟิล์มและคนที่เป็นลูกทุกคนคิดว่าจะทำอะไรให้นึกถึงหัวอกพ่อแม่ด้วย
ต่อข้อถามว่า ได้อะไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง ฟิล์ม กล่าวว่า "เยอะเลยครับ มันเหมือนมรสุมที่มาเร็วและใหญ่มาก พัดซะจนบ้านผมอยู่ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้กลัวหรือท้อแท้ ยังเชื่อเสมอว่าแม้จะพูดอะไรไม่ได้ในฐานะที่เป็นผู้ชาย แต่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องไปแล้ว ผมไม่เคยหนี ออกมายอมรับความจริง และยังกล้าที่จะออกมาทำประโยชน์เพื่อสังคม อยากให้ทุกคนคอยดูในเรื่องของเวลาต่อไป"
ข่าวจาก คมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3224 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 20 ต.ค. 53
เวลา 11:30:35
|