พบช้างน้ำ!เจ้าอาวาสเผยมีพระธุดงค์ไปพบชาวกระเหรี่ยงในป่า เขตติดพม่าให้มา อ้างดักได้ในน้ำแต่ตายแล้วจึงย่างจนแห้ง มีงวง มีงา มีหางยาวและอวัยะเพศผู้ หูยังเขี่ยให้ขยับได้ทุกอย่าง......
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดโนนดุม ตั้งอยู่ ม.ที่ 2 ต.หัวถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เจ้าอาวาสชื่อพระครูสันติวชิรกิจ และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลหัวถนน มีช้างน้ำเก็บไว้ 1 ตัว ทั้งนี้จากการเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่วัดดังกล่าว พบว่า เป็นวัดขนาดใหญ่สวยงาม มีพระอุโบสถ 2 ชั้น กำแพงแก้วรอบโบสถ์ปั้นเป็นรูปช้างชูงวงชูเท้าหน้าจำนวน 209 เชือก
หลังจากที่ผู้สื่อข่าวขอดูช้างน้ำ พระครูสันติวชิรกิจ ได้นำช้างน้ำซึ่งใส่ไว้ในครอบแก้วตั้งไว้บนหิ้งภายในกุฏิมาให้ดู พบว่า ช้างน้ำตัวดังกล่าวอยู่ในท่ายืน มีรูปร่างเหมือนช้างทุกอย่าง มีงวง มีงา มีใบหูใหญ่ ขาทั้ง 4 ข้างมีขนาดใหญ่ใหญ่ เป็นช้างน้ำตัวผู้มีอวัยวะเพศและมีหางครบครัน ตัวยาว 5 เซ็นต์ครึ่ง สูง 5 เซ็นต์ ที่ใบหูยังสามารถเขี่ยให้ขยับได้ พระครูสันติวชิรกิจ กล่าวว่า ช้างน้ำตัวนี้ พระรังษี กันตะสีโร อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดนำมาถวาย
ทางด้าน พระรังสี เปิดเผยว่า ได้เดินธุดงค์ไปที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ข้ามไปฝั่งประเทศพม่า ไปอยู่ที่วัดเปาะปอ ได้รู้จักกับโยมอุปถากหลายคน ต่อมาประมาณเดือน เม.ย.2553 มีโยมพาชาวกระเหรี่ยงมาพบ บอกว่า มีของจะมาถวาย จากนั้นก็หยิบช้างน้ำตัวดังกล่าวในย่ามมาให้ดู ชายกระเหรี่ยงคนดังกล่าวเล่าว่า ไปล้อมอวนแล้วใช้โต่งดักจับปลาชายทะเลซึ่งกับป่าลึกในพม่า หลังจากกู้โต่งขึ้นมา ก็พบมีปลาและช้างน้ำติดขึ้นมาด้วย แต่ช้างน้ำตายแล้ว กระเหรี่ยงคนดังกล่าวเห็นว่าแปลกดีและกลัวจะเน่า จึงนำไปย่างไฟพร้อมกับปลาที่จับได้ เก็บรักษาไว้ดูเล่น
พระรังสี เปิดเผยอีกว่า ต่อมามีพระพม่ามาเห็น และบอกเป็นช้างน้ำ เป็นสัตว์หายาก คนที่ครอบครองได้ต้องเป็นคนที่มีบุญมาก หรือต้องเป็นสัมนะที่ถือเคร่งในวินัย จึงจะให้คุณ แต่ถ้าอยู่กับคนไม่ดีจะทำให้เกิดเหตุร้ายต่างๆนาๆ จึงเกิดความกลัว และหาทางมอบให้คนอื่น เคยมีนายทุนต่างชาติมาขอซื้อ ตนตั้งใจขาย แต่ปรากฏนายทุนเกิดแตกแยก จนมีเรื่องมีราวกัน ในที่สุดก็หายไป เคยนำไปถวายพระในประเทศพม่าก็ไม่มีพระกล้าเก็บไว้ จนมีคนไปบอกว่า มีพระไทยมาอยู่ที่วัดตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก กระเหรี่ยงคนดังกล่าวจึงเดินทางมาพบ และจะมอบช้างน้ำให้ แต่ยังไม่ได้มอบให้ในระหว่างนั้น จนตนย้ายมาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งที่ อ.ท่าสองย่าง กระเหรี่ยงคนดังกล่าวก็มาพบอีก และบอกขอดูก่อน 3 วัน ถ้าเห็นว่า เป็นพระที่เคร่งครัดในพระวินัยจริง ก็จะมอบให้ หลังจากผ่านไป 3 วัน กระเหรี่ยงคนดังกล่าวก็ยอมมอบช้างน้ำให้ จากนั้นก็ลากลับประเทศพม่าไป
พระรังสี เปิดเผยด้วยว่า หลังจากที่ได้ช้างน้ำตัวดังกล่าวมาแล้ว ก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นช้างน้ำจริง เนื่องจากเคยเห็นข่าวพบช้างน้ำตามสถานที่ต่างๆ จากการพิสูจน์โดยการเอกซเรย์พบว่า บางตัวไม่มีโครงกระดูก บางตัวเป็นโครงกระดูกหนูนำมาทำดัดแปลงเป็นช้าง ซึ่งมีการทำขึ้นมาหลอกลวงกันมากมายก็เคยเห็น ดังนั้นจึงนำช้างน้ำตัวนี้ไปเอกซเรย์ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และนำมาเอกซเรย์ที่ จ.กำแพงเพชร อีก 1 ครั้ง พบว่า โครงกระดูกเหมือนช้างเอเชียทุกอย่าง.
ข่าวจาก ไทยรัฐ