ทักษิณลั่นใครขวางปรองดองเห็นแก่ตัว

(6พ.ย.)นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะเดินทางไปพบกับพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่วัดแห่งหนึ่งในประเทศนอร์เวย์ในวันนี้ 6 พ.ย.เนื่องจากทั้ง 2 คนถูกเชิญให้ร่วมพิธีรับมอบพระไตรปิฎกโบราณที่เก่าแก่ที่สุด

"การพบกันครั้งนี้ คาดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะได้มีโอกาสหารือถึงแนวทางการฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไทย รวมถึงปัญหาของบ้านเมืองและเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรมให้กับสังคมไทยต่อไป ในฐานะที่ พล.ต.สนั่นเดินสายปรองดองในก่อนหน้านี้ แต่ไม่อยากคาดหวังสูงเกินไปกับการปรองดองแต่ขอเป็นกำลังใจให้ พล.ต.สนั่น ประสบความสำเร็จ" นายนพดล กล่า

เมื่อถามว่า การพบปะกันครั้งนี้ได้นัดหมายล่วงหน้ากันหรือไม่อย่างไร นายนพดล กล่าวว่า คงมีการติดต่อกันก่อน ไปพบกันและไปทำบุญด้วย ระหว่างที่พบคงมีโอกาสคุยกัน ส่วนการนัดหมายนั้น มีการประสานกันตามสมควร ไม่ใช่เหตุบังเอิญที่ไปพบปะกันในวัด คงมีการพูดคุยกันก่อนบ้าง แต่ข้อเท็จจริงคือพระเชิญพ.ต.ท.ทักษิณ ไปร่วมในงานรับมอบพระไตรปิฎกโบราณ ตนก็ไม่รู้โบราณขนาดไหนภาษาอะไร แต่รู้สึกพล.ต.สนั่นจะไปร่วมงานนั้นด้วย ก็คงได้ร่วมพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพบกันครั้งนี้จะมีแนวโน้มอย่างไร ที่ปรึกษากฎหมายของอดีตนายกฯ กล่าวว่า การพบปะกันแนวโน้มน่าจะดี แต่ถ้าจะมีมรรคมีผลงอกเงยเป็นรูปธรรมแค่ไหน คงไม่อยู่ที่สองคนนี้ แต่อยู่ที่รัฐบาล ฝ่ายที่คุมเกม ผมขอใช้คำว่า ฝ่ายที่มีอำนาจในประเทศไทยด้วยว่า ประสงค์จะให้ประเทศไทยเดินหน้าไปอย่างไร คือถ้าคนที่มีอำนาจในประเทศไทย ยังไม่สนับสนุนแผนปรองดอง ยังไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับประชาธิปไตยแท้จริง คิดว่าคงจะไม่เกิดผล ถ้าให้ตนประเมินความสำเร็จของพล.ต.สนั่นกับการปรองดอง ตน ไม่อยากตั้งความหวังไว้สูง แต่ก็เอาใจช่วยท่าน ที่พูดไม่อยากให้หมดกำลังใจ ท่านอายุ 70 กว่าแล้วก็คงมีกำลังใจแต่จะสำเร็จหรือไม่ คงไม่ทราบ

ส่วนกรณีที่การพบกันครั้งนี้ พล.ต.สนั่นจะเข้าข่ายผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายนพดล กล่าวว่า พล.ต.สนั่นคงไปชี้แจงเอง แต่คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะไม่ได้ให้ที่พักพิง อีกทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ถูกกล่าวหา ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ทนายความก็ไปพบพ.ต.ท.ทักษิณได้ แต่ถ้าพล.ต.สนั่น ไปเช่าโรงแรมให้พักก็ว่าไปอย่าง ตนว่าเป็นการมอง มองให้มีเรื่องหรือไม่มีเรื่อง เหมือนกรณีของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่เตรียมไปยื่นแถลงการณ์ ไม่ใช่ทำเพื่อทำลายประเทศไทย

เมื่อถามอีกว่า เคยมีการระบุก่อนหน้านี้ว่าจะไม่มีการพบแบบส่วนตัวกัน นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีตำแหน่งทางการอะไร การพบกันระหว่างสองคน ก็ต้องพบแบบส่วนตัว

นายนพดล กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ให้ข่าวว่า นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายของ พ.ต.ท . ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเคลื่อนไหวที่ประเทศแอฟริกาใต้ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 เพื่อทำลายประเทศไทยและสถาบันตุลาการนั้น มองว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังเบี่ยงเบนประเด็นเรื่องคลิปวีดีโอศาลรัฐธรรมนูญ และคำวิพากษ์วิจารณ์ฝีมือในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเพื่อเอา พ.ต.ท . ทักษิณมาเป็นแพะรับความล้มเหลวของตน ถือว่าเป็นการตีตนไปก่อนไข้ และใส่ร้ายป้ายสี เพราะสรุปไปก่อนแล้วทั้งๆ ที่เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น

เท่าที่ทราบในวันนั้นจะเป็นการประชุมของพรรคการเมืองฝ่ายเสรีประชาธิปไตยจากทั่วโลก เป็นการประชุมแบบเปิดและพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกเองว่า นายโรเบิร์ต จะไปยื่นเพียงแถลงการณ์ ถึงความไม่เป็นประชาธิปไตยและความอยุติธรรมในประเทศไทย ซึ่งถ้านายโรเบิร์ตไปแสดงความเห็นที่งี่เง่าและไร้สาระ ที่ประชุมก็จะปฏิเสธและหัวเราะเยาะเอา เพราะผู้เข้าร่วมประชุมมีวิจารณญาณที่จะชั่งน้ำหนักว่าข้อมูลที่เสนอนั้นเป็นจริงหรือเป็นเท็จได้อยู่แล้ว

นอกจากนั้น ทุกคนก็ทราบและติดตามเหตุการณ์ในประเทศไทยว่ามีความวุ่นวายและตกต่ำตั้งแต่มีการยึดอำนาจเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งพรรคการเมืองฝ่ายเสรีประชาธิปไตยรังเกียจและปฏิเสธการยึดอำนาจยกเว้นพรรคการเมืองในบางประเทศที่ได้ประโยชน์จากการยึดอำนาจ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นจะต้องไปวิตกจริตจนเกินเหตุเพราะทางพรรคเองก็ได้ส่งตัวแทนไปชี้แจงอยู่แล้ว ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันที่จะเสนอข้อมูลและให้สังคมโลกตัดสิน

“รัฐบาลอาจจะปิดข้อมูลในประเทศได้ เช่น ปิดวิทยุชุมชน และเฟซบุ๊คส่วนตัวของผม แต่ท่านไม่อาจปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือและปิดกั้นการไหลเวียนข้อมูลของโลกได้ พ.ต.ท . ทักษิณ ไม่เคยที่จะใช้โลกล้อมประเทศไทย และไม่คิดที่จะทำร้ายประเทศไทย พรรค ประชาธิปัตย์อย่าสำคัญผิดว่าตนเองและรัฐบาลเป็นประเทศไทยเพราะประชาชนเกินกึ่งหนึ่งไม่ได้เลือกพวกท่านเข้ามาเป็นรัฐบาล และการดำเนินการของนายโรเบิร์ตในที่ประชุมพรรคการเมืองฝ่ายเสรีประชาธิปไตยดังกล่าว เป็นการกระทำโดยเปิดเผยตรงไปตรงมา และผมว่าดีกว่าการพบปะกันลับๆ เพื่อพูดคุยถึงคดีที่ยังค้างอยู่ในศาลซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างมาก คำถามก็คือ ใครคือผู้ที่แทรกแซงและทำลายกระบวนการยุติธรรม ” นายนพดล กล่าว

ทักษิณลั่นใครขวางปรองดองเห็นแก่ตัว

ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีการจัดคอนเสิร์ต “วันฟ้าใสหัวใจตรงกัน” ของกลุ่มคนเสื้อแดง มีแกนนำกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน เวลา 20.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีประมาณ 20 นาที โดยระบุว่า “เสธ.หนั่น ก็เอาจริงเอาจังมากพยายามเดินให้ปรองดองให้ได้ วันนี้ใครบังอาจขัดขวางปรองดองแสดงว่าคนนั้นเห็นแก่ตัวอย่างบัดซบ”

ปชป.งัดนโยบายพรรคสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม

เมื่อเวลา 10.50 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลทำงานมาเกือบครบรอบ 2 ปี และทางกกต.ได้จัดงบประมาณสนับสนุนให้พรรคการเมืองแถลงแนวนโยบายเพื่อออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในวันที่ 22 ธ.ค.นั้น พรรคได้เตรียมจัดทำเป็นวิดีทัศน์เพื่อแถลง 2 กลุ่มแนวนโยบายของพรรคภายใต้กรอบการขับเคลื่อนวาระประชาชนและสัญญาที่ให้ไว้ โดยนโยบายกลุ่มแรกเป็นการยืนยันตามนโยบายหลักขยายสู่วาระประชาชน คือ นโยบายเรียนฟรี 15 ปี สู่การเพิ่มทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย การจัดตั้งมหาวิทยาลัยทุกจังหวัด เบี้ยผู้สูงอายุ ที่จะนำสู่การจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ หากสำเร็จะทำให้ผู้สูงอายุได้เบี้ยยังชีพเพิ่มถึง 1,500 บาทต่อเดือน และโครงการประกันรายได้เกษตรกร รวมถึงการลดค่าครองชีพเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นต้น

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พรรคจะประกาศแนวนโยบายใหม่ 4 ด้าน คือ 1. การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบครบวงจร 2. การประกาศสงครามกับผู้ค้ายาเสพติด 3. การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และ 4. การสร้างสังคมสวัสดิการ ซึ่งนโยบายเหล่านี้พรรคจะนำไปรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.หลายเขต หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ 6 ส.ส.พ้นสมาชิกภาพ เนื่องจากถือหุ้นขัดรัฐธรรมนูญ

ข่าวจาก คมชัดลึก

ลิงก์ผู้สนับสนุน

ปิดโฆษณานี้X

ปิดโฆษณานี้X

หน้าแรก \| ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด \| ตลาดออนไลน์ \| อัตราค่าลงโฆษณา