• ผลสำรวจพบ8อาชีพเงินเดือนเกินแสน |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 20 พ.ย. 53 เวลา 09:29:44 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นายบุญเลิศ ธีระตระกูล ผู้อำนวยการกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่าจากการสำรวจข้อมูลอาชีพที่ทำรายได้สูงที่สุดปี 2552 พบว่าผู้บริหารในระดับผู้จัดการในธุรกิจต่างๆเป็นอาชีพเฉลี่ยต่อเดือนสูงติดลำดับต้นๆของประเทศ ขณะที่อาชีพที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะมีอาชีพนักบิน วิศวกร ผู้พิพากษา สถาปนิก นักคณิตศาสตร์และแพทย์ติดอันดับ 20 อาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดด้วย
สำหรับอาชีพที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาท/เดือนมี 8 อาชีพประกอบด้วย 1.อาชีพนักบิน 2.41 แสนบาท 2.วิศวกรเหมืองแร่และนักโลหะการ 2.35 แสนบาท 3.ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 1.53 แสนบาท 4.กรรมการและผู้บริหารระดับสูง 1.38 แสนบาท 5.ผู้พิพากษา 1.21 แสนบาท 6. อาชีพสถาปนิกรายได้ 1.17 แสนบาท 7.ผู้บริหารองค์การนายจ้าง-ลูกจ้าง 1.06 แสนบาท และ 8.วิศวกรเคมี 1.05 แสนบาท
เป็นที่น่าสังเกตว่าอาชีพผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์เป็นอาชีพที่มีรายได้สูงกว่ากรรมการและผู้บริหารระดับสูง และจำนวนก็มีน้อยกว่าคือผู้จัดการฝ่ายโฆษณามีประมาณ 3,700 คน ส่วนกรรมการและผู้บริหารระดับสูงมีถึง 1.6 หมื่นคน
สำหรับอาชีพที่มีรายได้ในช่วง 6 หมื่น-1 แสนบาทมี 12 อาชีพ ในจำนวนนี้อาชีพผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีระดับรายได้สูงที่สุดในบรรดาอาชีพระดับผู้จัดการด้วยกัน และพบว่าอาชีพนักคณิตศาสตร์มีรายได้สูงกว่าแพทย์
โดยผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจำหน่ายสินค้ามีรายได้ 8.5 หมื่นบาท นักคณิตศาสตร์ 7.3 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านการบริการทางธุรกิจ 7 หมื่นบาท แพทย์ 6.9 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายผลิตและปฏิบัติการด้านผลิต 6.7 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ 6.6 หมื่นบาท
ผู้จัดการทั่วไปด้านการผลิต 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา 6.4 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการเกษตร 6.3 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไปด้านการก่อสร้าง 6.2 หมื่นบาท ผู้จัดการทั่วไป 6.2 หมื่นบาท และข้าราชการอาวุโส 6.2 หมื่นบาท
กรรมกรฮึ่มขู่ยกบุกก.แรงงานกดดันบอร์ดค่าจ้าง
อย่างไรก็ตามวันนี้(19พฤศจิกายน) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย แถลงข่าวการเรียกร้องปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำว่า เครือข่ายลูกจ้างเตรียมยกขบวนผู้ใช้แรงงานประมาณ 5-6 พันคนไปที่กระทรวงแรงงานในวันที่คณะกรรมการค่าจ้างกลางจะประชุมพิจารณาตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อกดดันและแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ปรับเพิ่มตัวเลขเพิ่มเป็น 10 บาทในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากปัจจุบันที่คณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองค่าแรงขั้นต่ำเสนอตัวเลขปรับเพิ่มเพียงวันละ 5, 7 และ 10 บาท โดยมีเพียงจ.ภูเก็ตแห่งเดียวที่เสนอให้ปรับเพิ่มวันละ 10 บาท
“เราทำแบบสอบถามไปยังสหภาพแรงงานต่างๆประมาณ 1 พันชุด กว่า 80% ตอบกลับมาว่าพอใจที่ตัวเลข 421 และ 250 บาท แต่มองว่าคงเป็นไปได้ยากดังนั้นถ้าปรับขึ้น 10 บาทก็ถือว่าน่าพอใจ แต่จากการสอบถามตัวแทนลูกจ้างในคณะอนุกรรมการฯพบว่ามีการหารือว่าจะขยับขึ้นเป็น 8.5 บาท ซึ่งก็ยังเป็นตัวเลขที่รับไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นเราจะขอแรงจากสหภาพแรงงานแห่งละ 10-20 คนมารวมตัวกันกดดันคณะกรรมการค่าจ้างกลางในวันที่มีประชุม”นายมนัสกล่าว
นายมนัสกล่าวว่า ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้มีการแบ่งโซนค่าจ้าง โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน ภายในปี 2555 เนื่องจากปัจจุบันอัตราค่าจ้างในแต่ละจังหวัดต่างกันถึง 29 ระดับ ขณะที่อัตราค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นและมีราคาใกล้เคียงกันทั้งประเทศ แรงงานที่อยู่ต่างจังหวัดกลับได้ค่าแรงต่ำกว่าส่วนกลางซึ่งหากโรงงานไม่มีสวัสดิการสนับสนุนการดำรงชีวิต มีแต่ค่าแรงขั้นต่ำอย่างเดียวคนที่เป็นลูกจ้างจะอยู่ไม่ได้
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ภายในสิ้นเดือนนี้จะได้ความชัดเจนของตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศแน่นอน ส่วนอัตราที่อนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดเสนอมาในการขอปรับขึ้น 2 บาทนั้น มองว่าเป็นตัวเลขที่น้อยเกินไป แต่หากให้ปรับให้มีอัตราเดียวกันทั่วประเทศเป็นไปไม่ได้เพราะค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งการปรับค่างจ้างต้องเป็นตัวเลขที่ทุกฝ่ายรับได้ โดยควรเอาความจริงมาหารือกัน โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ใช้แรงงาน แต่ไม่อยากจะชี้ว่าตัวเลขค่าจ้างควรอยู่ที่เท่าใดเพราะไม่อยากเข้าไปแทรกแซงการทำงานของคระกรรมการค่าจ้าง
นายสมเกียรติ์ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างกลางกล่าวว่า เมื่อคณะกรรมการฯได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดศึกษาข้อมูลการปรับเพิ่มค่าจ้าง ดังนั้นจึงต้องฟังข้อมูลของแต่ละจังหวัดด้วย ส่วน ข้อเสนอของลูกจ้างกลุ่มที่ต้องการให้ปรับเพิ่มเท่ากันทุกจังหวัดวันละ 10 บาทนั้นก็รับไว้พิจารณาแต่จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง แต่คาดว่าน่าจะเป็นปลายสัปดาห์หน้า หรือไม่ก็เป็นอีกต้นสัปดาห์ถัดไป ซึ่งต้องดำเนินการให้เสร็จภายในต้นเดือนธันวาคม เพื่อแจ้งให้นายจ้างทราบล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการปรับอัตราใหม่ในเดือนมกราคมปี
ข่าวจาก คมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 4682 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 20 พ.ย. 53
เวลา 09:29:44
|