หลังจากมีกระแสข่าวว่า "ดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ตัดสินใจลาออกจากค่ายเพลงแกรมมี่ เนื่องจากความไม่พอใจในนโยบายของบริษัทที่มีการลดเงินเดือนพนักงานในส่วนของธุรกิจเพลง และผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ล่าสุดนักแต่งเพลงชื่อดังออกมาเปิดใจประเด็นดังกล่าว หลังจากบันทึกรายการ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ที่สตูดิโอ 2 อสมท เมื่อวันที่ 27 มกราคม ว่าได้มีการพูดคุยถึงข้อตกลงทุกอย่างกับผู้บริหารคือ นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เรียบร้อยแล้ว และตัดสินใจลาออกจากค่ายแกรมมี่ อีกทั้งทุกอย่างจบด้วยดี โดยเป็นการเออร์ลี่รีไทร์ ซึ่งแกรมมี่จ่ายเงินชดเชยให้เป็นจำนวนเงิน 10 เดือน 

 "ณ วันนี้ผมได้เปลี่ยนสถานะภาพมาเป็นอิสระแล้ว ไม่อยากจะใช้คำว่าลาออก เพราะงานบางอย่างยังสามารถทำด้วยกันได้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม สามารถที่จะแต่งเพลงให้แกรมมี่เหมือนปกติ เพียงแต่ว่าผมอยากจะทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม และเป็นความคิดที่มีมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้เป็นความคิดที่หุนหันพลันแล่น หรือโกรธเคืองไม่กัน โดยวันที่ 26 มกราคม ผมได้เดินเข้าไปพูดเรื่องนี้กับคุณไพบูลย์ และพี่เล็ก บุษบา ซึ่งทั้งสองคนก็เข้าใจตรงนี้ดี คุณไพบูลย์เหมือนพอจะรู้ด้วยซ้ำ เพราะอยู่ด้วยกันมานาน ผมอยู่กับแกรมมี่มาเกือบ 30 ปี บางทีแค่มองตาก็รู้ใจกันอยู่แล้ว และไม่ได้มีการยื้อให้อยู่ต่อ เพราะผมก็พูดทุกอย่างให้เข้าใจ" นายนิติพงษ์กล่าว 

 ส่วนเหตุผลหลักในการลาออกนั้น นักแต่งเพลงชื่อดังกล่าว ว่าไม่ใช่ปัญหาเรื่องโดนลดเงินเดือนพนักงานแล้ว เพราะได้มีการพูดคุย และแกรมมี่ยินดีพร้อมจ่ายให้เท่าเดิม และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องต่อรอง เพราะถ้าเป็นการต่อรองกันจริง ทางแกรมมี่คงยอมหมดทุกอย่าง แต่เลือกที่จะตัดสินใจเดินออกมา เพราะอยากทำงานมากกว่านี้

 "เมื่อก่อน ผมดูแลบริษัทแกรมมี่แกรนด์ ก่อนที่จะยุบตัวลง ผมอยู่ในฐานะคนแต่งเพลง ไม่ชอบงานด้านบริหาร แต่พอแกรมมี่แกรนด์ยุบลง เมื่องานน้อยลง แค่แต่งเพลง แต่เงินเดือนที่ได้รับสูงกว่า เลยรู้สึกว่าตัวเองทำงานไม่คุ้มกับเงินเดือน พอนานเข้าก็คันไม้คันมือ อยากจะทำงานให้มากกว่านั้น ประจวบกับว่าได้ไปทำงาน ไปคอนเสิร์ตต่างๆ และได้เจอกับน้องๆ ที่อยู่ค่ายอื่น ซึ่งทุกคนก็จะบอกว่าอยากจะให้ผมแต่งเพลงให้ ทำให้เกิดความคิดที่อยากทำงานให้แพร่หลายมากขึ้น เพราะตัวผมมีความฝันว่าอยากรวมศิลปินที่เก่งๆ ที่มีความสามารถมาทำเพลงด้วยกัน"
  
 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากับข่าวจะไปร่วมเปิดค่ายเพลงกับ "ป้อม" อัสนี และโอม ชาตรี นายนิติพงษ์เผยว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ในอนาคตอาจเป็นไปได้ ในตอนนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีค่ายอื่นทาบทามมา หรือแม้แต่ "เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอาร์เอส อยากร่วมงานด้วย เป็นเรื่องที่ตอบยาก เหมือนตนเป็นนก และเพิ่งออกจากกรง จึงยังไม่อยากเข้ากรงไหนอีก แต่ต่อไปในอนาคตก็ไม่แน่ ถ้ามีข้อเสนอดีๆ เข้ามา ก็อาจจะรับ เพราะคนเราซื้อก็ขายได้ อีกทั้งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน คงไม่ดีนักถ้าจะมาเอ่ยปากให้ไปอยู่ด้วยกันตอนนี้ เป็นการเสียมารยาท

 "ส่วนเรื่องการตกลงเรื่องสัดส่วนลิขสิทธิ์เพลงที่แต่งให้แกรมมี่นั้น ก็คุยกันว่าถ้าเป็นเพลงเก่า มีสัญญากันไว้อยู่แล้ว ว่าเราใช้ลิขสิทธิ์ร่วมกัน มีข้อตกลงแบ่งสัดส่วนที่แน่นอน ซึ่งผมจำไม่ได้ว่าใครได้เท่าไหร่ เพราะเพลงที่ผมแต่งให้แกรมมี่มีกว่า 400 เพลง แต่เรื่องนั้นมันไม่ได้มีปัญหา แต่ถ้าเพลงใหม่ ซึ่งจะให้ผมแต่งตอนที่เป็นอิสระก็คงต้องมาตกลงกันอีกทีหนึ่ง ส่วนเรื่องหุ้นที่มีอยู่กับแกรมมี่ ก็มีบางส่วนที่ขายไปบ้างแล้ว แต่ถามว่าเหลือเท่าไหร่ ผมไม่รู้ เพราะชื่อหุ้นเป็นชื่อของภรรยา เลยไม่ทราบรายละเอียดอะไรมาก การเป็นอิสระของผมก็ยังทำงานกับแกรมมี่ได้ เพราะตอนนี้จริงๆ แล้วยังมีงานที่ค้างอยู่ทั้งคอนเสิร์ต 30 ปี นิติพงษ์ ห่อนาค หรือละครเวที รักเธอเสมอ เดอะมิวสิคัล"

 ดี้ นิติพงษ์ กล่าวอีกว่า การจากกันในครั้งนี้ เป็นการจากกันด้วยดี ดีมากๆ ด้วยซ้ำ เป็นการที่เป็นอิสระอย่างอบอุ่น ทางนายไพบูลย์ก็แสดงความเป็นห่วง และน่ารักกับตนมาก เพราะถามว่าจะไปทำอะไรต่อไป ถ้ามีอะไรที่ให้ช่วยให้บอกได้เลย พร้อมที่จะสนับสนุนทุกอย่าง ทั้งที่ออกหน้า หรือไม่ออกหน้า แถมการลาออกนี้ เป็นการเออร์ลี่รีไทร์ โดยแกรมมี่ได้จ่ายเงินชดเชยให้ 10 เดือน ทั้งที่ในความเป็นจริง ไม่ต้องก็ได้ ตอนนี้ไม่อยากที่จะผูกติดกับใคร เป็นมิตรกับทุกคน ขอเลือกที่จะเป็นนักรับจ้างทำเพลงทั่วราชอาณาจักร ส่วนเรื่องเซ็นใบลาออกนั้น ยังไม่มีการเซ็น เมื่อวันที่ 26 เป็นการพูดปากเปล่า แต่ก็ตกลงกันได้เรียบร้อย เรื่องการเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรนั้น เมื่อไหร่ที่มีการยื่นมา ก็พร้อมที่จะเซ็น แต่มีผลบังคับใช้จะมีผลสิ้นเดือนนี้

 ส่วนที่มีการลาออก ทำให้มีการดึงศิลปินออกมาด้วยนั้น  นายนิติพงษ์กล่าว ว่าในกรณี "ป้อม" อัสนี "โต๊ะ" วสันต์ โชติกุล ศิลปินทั้งสองได้ไปตามทาง  ตามวาระ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตน ส่วนศิลปินคนอื่น ก็ยังทำงานกับแกรมมี่  ขณะที่ "เบิร์ด" ธงไชย แมคอินไตย์ ทราบเรื่องได้แค่บอกว่าทำตามใจตัวเองก็พอ ส่วนตนจะทำอะไรต่อไปนั้น ตอนนี้ขอว่างงาน 1-2 เดือน แล้วค่อยว่ากันใหม่

ด้านนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท  จีเอ็มเอ็ม  แกรมมี่  จำกัด (มหาชน)  ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะมีปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจจะมีการสื่อสารกันน้อยไป จึงทำให้เกิดความรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยครั้งล่าสุด นายนิติพงษ์บอกว่าที่คิดลาออกเพราะต้องการเปลี่ยนบรรยากาศไปทำงานอิสระแบบไม่มีสังกัดดูบ้าง

 นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า แกรมมี่ยังอยากให้นายนิติพงษ์ร่วมทำงานด้วยกันต่อ แต่ก็เคารพในการตัดสินใจ อีกทั้งยังบอกว่าแม้จะออกไปแล้วก็ยังจะทำงานให้แกรมมี่แต่อาจทำในรูปบริษัทส่วนตัวที่ตั้งขึ้น ซึ่งตนยังบอกว่าหากต้องการให้แกรมมี่เข้าร่วมหุ้นด้วยก็ยินดี

 "ฝ่ายบริหารแกรมมี่ทุกคนยืนยันว่าอยากทำงามร่วมกับดี้ต่อไป ซึ่งดี้บอกว่าฟังแล้วรู้สึกดีใจมาก เขาบอกว่าเขากลุ้มใจมาหลายวัน วันนี้ได้มาเจอได้มาพูดทำความเข้าใจกันก็โล่งอก หายปวดหัว แล้วก็มีความสุข"  นายไพบูลย์กล่าว

 นายไพบูลย์ ยืนยันว่า การปรับโครงสร้างองค์กรถือเป็นเรื่องปกติของแกรมมี่ที่ดำเนินการทุกปี ซึ่งแต่ละปีบริษัทจะประเมินผล ลดค่าใช้จ่ายส่วนเกิน จัดโครงการเกษียณก่อนกำหนด และปรับเปลี่ยนธุรกิจ เพราะฉะนั้นจะต้องปรับเรื่องบุคลากร เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต ปีที่แล้วมีการปรับพนักงานออกกว่า 100 คน จ่ายชดเชยกว่า 40 ล้านบาท และปีนี้บริษัทจะรับพนักงานใหม่กว่า 200 ตำแหน่ง

 "หน่วยงานที่ยุบเลิกหลักๆ ได้แก่ โรงงานผลิตซีดี ซึ่งบริษัทขายให้แก่พันธมิตร และหน่วยธุรกิจจีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ ที่รับจัดงานคอนเสิร์ต ส่วนหนึ่งของพนักงานในหน่วยงานเหล่านี้ยังรับงานจากแกรมมี่เช่นเดิม แต่เปลี่ยนสถานะเป็นผู้รับจ้างอิสระ" นายไพบูลย์ กล่าว

ข่าวจาก คมชัดลึก