• ผัวโหดโทรไม่รับบุกบ้านพ่อตายิงรายคน |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 01 ก.พ. 54 เวลา 12:24:53 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 30 มกราคม ตำรวจ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน ภายในบ้านเลขที่ 140/1 หมู่ 13 ต.วังลึก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ฝาบ้านและหลังคามุงด้วยสังกะสี ตั้งอยู่ในทุ่งหญ้า อยู่ห่างถนนวังจิก-ทุ่งแฝก ราว 150 เมตร บริเวณโต๊ะไม้หน้าบ้านพบกองเลือดสาดกระจายนองพื้นหลายกอง มีขวดนมตกอยู่ 1 ขวด และพบหัวกระสุน .38 ตกอยู่ 1 หัว
ตรวจสอบภายในบ้านพบศพ ด.ช.ปภัณกร คุณเปล่ง หรือ น้องมอส อายุ 3 ขวบเศษ สวมเสื้อยืดแขนยาวลายพรางทหาร นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอก ถูกยิงเข้าเบ้าตาซ้าย 1 นัด เสียชีวิตอยู่ปลายเตียงนอน ขณะเดียวกันมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาล คือ นายคำ วงษ์ดี อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน มีศักดิ์เป็นตาของ ด.ช.ปภัณกร ถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะและลำตัวอาการสาหัส นางสำเนา แตงทอง อายุ 50 ปี ภรรยาของนายคำ ถูกยิงตามร่างกาย 6 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา และ น.ส.วรรณิสา ชูทอง อายุ 23 ปี ลูกสะใภ้ ถูกยิงเข้าลำตัวอาการสาหัส
หลังเกิดเหตุพยานแวดล้อมหลายปากให้การสอดคล้องกันว่า พบเห็นนายอิทธิพลขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บม 8533 สุพรรณบุรี เข้ามาจอดที่บริเวณใกล้บ้านหลังเกิดเหตุห่างกันประมาณ 200 เมตร ระหว่างที่เดินลงจากรถกระบะ มีพยานคือ "นาย ช" เห็นว่านายอิทธิพลชักปืนออกมาแล้วอยู่ในมือ เดินตรงไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ และพยายามเข้าไปพูดคุยกับนายคำ เพียงไม่นานก็ใช้ปืนที่ถืออยู่ยิงนายคำ ก่อนกลับมายิงนางสำเนา น.ส.วรรณิสา และ ด.ช.ปภัณกร ที่หลบอยู่ในบ้าน ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านหลบหนีไป เพราะอาจทำกุญแจรถกระบะหล่นหายไป
"ฉันเชื่อว่านายอิทธิพลมีเจตนา จะต้องการฆ่าทั้งครอบครัว โดยเฉพาะลูกชายวัย 3 ขวบเศษ ซึ่งเกิดจากสามีเก่า เพราะเขารู้ว่าฉันรักเด็กคนนี้มากที่สุด ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วยใจคอที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์แบบนี้" น.ส.สมใจ บอกเล่าความในใจทั้งน้ำตาต่อหน้า พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล ผกก.สภ.สามชุก พ.ต.ท.วีรเดช แสงสว่าง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เสรี ถีระรักษ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พร ศรีสวัสดิ์ สวป. และ พ.ต.ท.สามารถ ชาโรจน์ สว.สส. หลังจากนายอิทธิพลก่อเหตุฆาตกรรมแล้วพยายามฆ่า
น.ส.สมใจให้การต่อว่า ระหว่างที่อยู่กับนายอิทธิพล นายอิทธิพลชอบทุบตีทำร้ายร่างกาย จึงเลิกกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 แล้วกลับมาอยู่บ้านที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี แต่นายอิทธิพลยังตามมาทำร้ายร่างกาย พูดจาข่มขู่ พ่อจึงแนะนำว่าให้หนีไปอยู่ไกลๆ จึงไปสมัครทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทแห่งหนึ่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่นายอิทธิพลก็ยังโทรศัพท์มาหาและขอคืนดีด้วย โดยเฉพาะวันที่ 28-29 มกราคม ที่ผ่านมา นายอิทธิพลโทรศัพท์มาบ่อยมาก จึงปิดโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งตอนเช้าวันที่ 30 มกราคม ก็ยังโทรศัพท์มาอีกจนต้องตัดสายทิ้งแล้วปิดมือถือ พอเลิกงานจึงเปิดโทรศัพท์มีข้อความระบุว่าเป็นเบอร์มือถือของนายอิทธิพลเกือบ 30 ครั้ง
พ.ต.อ.สุทธิ เปิดเผยว่า ตอนนี้ชุดสืบสวนของจังหวัดและท้องที่เกิดเหตุ กำลังสนธิกำลังไล่ล่าติดตามนายอิทธิพล และจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายอิทธิพลเคยก่อเหตุยิงลูกน้องของ ส.ส.คนหนึ่งใน จ.ชัยนาท คดีที่ก่อขึ้นอยู่ระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาล และไม่นานมานี้นายอิทธิพลถูกจับในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ สภ.เดิมบางนางบวช เรื่องอยู่ในชั้นสอบสวน แล้วก็ยังมาก่อเหตุอีก
"การสืบสวนสอบสวนชัดเจนว่านายอิทธิพลเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ จากการสอบถามผู้ใกล้ชิดนายอิทธิพล ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายอิทธิพลพยายามใช้โทรศัพท์มือถือโทรหาอดีตภรรยาหลายครั้งแต่ไม่ติด จึงขว้างโทรศัพท์มือถือลงพื้นได้รับความเสียหาย สอดคล้องกับคำบอกเล่าของอดีตภรรยาว่า เสร็จงานแล้วเปิดโทรศัพท์มือถือพบว่ามีข้อความหมายเลขโทรศัพท์มือถือของนายอิทธิพลขึ้นมาว่าพยายามติดต่อเกือบ 30 ครั้ง หลังจากนั้นนายอิทธิพลก็รีบออกจากบ้านโดยขับรถกระบะออกมาจนกระทั่งมาก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดรวมถึงพฤติการณ์ที่ผ่านมา น่าจะเชื่อได้ว่านายอิทธิพลอาจจะมีพฤติการณ์เป็นมือปืน ดังนั้นการติดตามจับกุมนายอิทธิพลต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะหากต่อสู้ขัดขวางการจับกุม เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการตอบโต้ตามขอบเขตของกฎหมาย" พ.ต.อ.สุทธิ ระบุ
ข่าวจาก คมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1416 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 01 ก.พ. 54
เวลา 12:24:53
|