กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ขอบคุณข้าราชการ ประชาชน ช่วยกันพาประเทศชาติพ้นวิกฤติ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยใช้ชื่อรายการว่า “รายงานสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อส่งมอบงานบริหารประเทศไทย”
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่มีการเปิดสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร และได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในเร็ววันนี้จะได้มีการประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อที่จะได้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีและมีการ บริหารราชการแผ่นดิน ในนามของรัฐบาลใหม่ต่อไปนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันได้พยายามอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
ขณะ เดียวกัน ในช่วงของระยะเวลาการเปลี่ยนผ่าน รัฐบาลชุดปัจจุบันได้มีการส่งมอบงานเพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่เข้าบริหารราชการ แผ่นดินอย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพี่น้องประชาชน ตั้งแต่การเตรียมการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี รัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมการและมีการเตรียมงานไว้ชุดหนึ่ง อันจะทำให้รัฐบาลชุดใหม่ได้สามารถเข้ามาสานต่อเพื่อจัดงานพระราชพิธีได้ อย่างสมพระเกียรติ
นอก จากนั้นในการส่งมอบการบริหารราชการแผ่นดินในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกล่าวว่า สถานะทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศขณะนี้ เอื้อต่อการที่จะให้รัฐบาลใหม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ซึ่งเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งพี่น้องประชาชนได้สะท้อนมาโดยตลอดถึงความห่วงใยในเรื่องปัญหาของแพง ค่าครองชีพ ประกอบกับการที่สถานการณ์เศรษฐกิจในโลกยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก รวมไปถึงความผันผวนของราคาน้ำมัน
พร้อม กันนี้ อยากให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ว่าขณะนี้ฐานะทางการเงิน การคลัง และฐานะของประเทศมีความมั่นคงอย่างมากทางด้านเศรษฐกิจ และจะทำให้รัฐบาลใหม่สามารถที่จะมีความยืนหยุ่น ในการที่จะปรับนโยบายทางด้านการเงินการคลังเพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ โดยฐานะของประเทศไทยในขณะนี้ มีเงินสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเพิ่มขึ้นถึง 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน โดยติดอันดับประเทศที่มีเงินสำรองสูงเป็นอันดับที่ 13 ของโลก ซึ่งหมายความว่าฐานะของประเทศไทยอยู่ในฐานะที่มีความเข้มแข็งอย่างยิ่ง อันเป็นผลมาจากการส่งออกก็ดี การท่องเที่ยว หรือการหารายได้เข้าประเทศก็ดี มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตามเช่นเดียว กันกับฐานะการคลังในประเทศ จากการที่ประเทศมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการกู้ยืมเงินแต่รัฐบาลก็ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะมีการนำงบประมาณกลับ เข้าสู่ความสมดุลได้ในระยะเวลา 4 ปีข้างหน้านั้น ก็ปรากฎว่าขณะนี้ หลังจากที่ปีงบประมาณปัจจุบันผ่านพ้นไปเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ไตรมาส รัฐบาลมีเงินที่จัดเก็บรายได้เพิ่มเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ในงบประมาณถึง เกือบ 200,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้ฐานะการคลังมีความมั่นคงและทำให้การจัดงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ ต่อ ๆ ไปทำได้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยน่าจะอยู่ในวิสัยที่ประเทศไทยสามารถกลับเข้าสู่ภาวะการสมดุลได้
นอก จากนี้ตัวเงินคงคลังเองในปัจจุบันนั้น ก็มีสูงถึง 300,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในวันที่นายอภิสิทธิ์เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งอยู่ที่ประมาณเพียง 50,000 ล้านบาท ดังนั้นจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พี่น้องประชาชนและรัฐบาลใหม่สามารถที่จะสบาย ใจได้ว่ามีความยืนหยุ่นในเรื่องของการที่จะบริหารงานทางด้านการเงินการคลัง
ส่วน ในภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นความมั่นคงนั้น หนี้สาธารณะของประเทศเมื่อคิดเป็นสัดส่วนกับรายได้ประชาชาติก็ลดลงอย่างต่อ เนื่องอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 หรือต่ำกว่า ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบเคียงกับประเทศต่าง ๆ ในโลก ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันเช่นเดียวกันว่า ประเทศไทยยังมีความยืนหยุ่นในการที่จะแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจได้เป็น อย่างดี
ขณะ ที่ภาวะเศรษฐกิจทางด้านอื่น ๆ ภาวะการจ้างงานอยู่ในฐานะที่เข้มแข็งเป็นพิเศษ โดยรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอัตราการว่างงานต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งมีเครื่องมือกลไกที่จะรองรับกับความผันผวนของเรื่องราคาน้ำมันและต้น ทุนต่าง ๆ โดยฐานะของกองทุนน้ำมันในปัจจุบัน หากยังมีการคงนโยบายการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร จะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันอย่างต่อเนื่อง และกองทุนน้ำมันนั้นก็จะอยู่ในภาวะซึ่งไม่ติดลบในระยะเวลาประมาณ 2 เดือนข้างหน้า
ทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันเพื่อให้เกิดความสบายใจว่า วันนี้รัฐบาลใหม่จะมีความยืดหยุ่น มีเครื่องมือ มีกลไกทั้งทางด้านการเงินการคลัง ที่สามารถที่จะเลือกในการที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
ด้านการช่วยเหลือ ดูแล และการวางระบบสวัสดิการ ซึ่งรัฐบาลเคยประกาศเอาไว้ว่า ภายในปี 2559 จะมีระบบสวัสดิการแบบถ้วนหน้า เป็นระบบซึ่งพี่น้องประชาชนจะมีทั้งส่วนร่วมและจะได้ประโยชน์กันอย่างทั่ว ถึงนั้น จะเห็นได้ว่านโยบายในเรื่องของการเรียนฟรี รักษาฟรี การดูแลคนกลุ่มต่าง ๆ เช่น คนพิการ ผู้สูงอายุ รัฐบาลก็ได้มีการดำเนินการเพื่อที่จะให้สิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ แก่พี่น้องประชาชนอย่างครบถ้วน ถ้วนหน้า ไปเรียบร้อยแล้ว
อย่าง ไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง ก็ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาต่อไป โดยรัฐบาลได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการปฏิรูป คณะกรรมการสมัชชาการปฏิรูป ซึ่งได้มีข้อเสนอไปแล้วมากมายและอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานราชการ ต่าง ๆ รวมไปจนถึงการมีกฎหมาย หรือมาตรการต่าง ๆ ซึ่งค้างอยู่ นายกรัฐมนตรีหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาพิจารณามาตรการ กฎหมาย และข้อเสนอแนะเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การมีสังคมที่มีความเป็นธรรมมากขึ้นต่อไป และมีสวัสดิการสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
งานด้านการ ต่างประเทศ และความมั่นคง ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนว่า สังคมโลกนั้นมีความมั่นใจในประเทศไทยมากขึ้น ไม่เพียงแต่การที่ประเทศไทยสามารถจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบ ร้อย นายกรัฐมนตรีก็หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่นั้นจะได้สานต่อ และสามารถทำให้ประเทศประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพของงานระดับโลกทั้ง เวทีเศรษฐกิจ และในเรื่องของการกีฬา
ด้านความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อน บ้านนั้น ก็เป็นไปด้วยความราบรื่น ยกเว้นในกรณีที่มีข้อพิพาทกับทางกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้พี่น้องประชาชนคนไทยก็คงเป็นหนึ่งเดียวในความจำเป็นที่จะต้อง รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพร้อมที่จะต้องปกป้องอธิปไตย และสิทธิของประเทศของเรา โดยเรื่องที่ยังคั่งค้างอยู่เป็นเรื่องที่ทางกัมพูชานั้นได้ดำเนินการฟ้อง ร้องต่อศาลโลก ในกรณีของการพิพาทสืบเนื่องมาจากการวินิจฉัยคดีของศาลโลก เมื่อปี 2505 บัดนี้รัฐบาล ซึ่งได้ไปต่อสู้ในเรื่องของการที่ทางกัมพูชาขอคำสั่งมาตรการชั่วคราวให้ ประเทศไทยถอนทหารเพียงฝ่ายเดียว ก็ได้มีการต่อสู้ไปจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และศาลโลกก็ได้มีคำสั่งชั่วคราวออกมาแล้ว ก็เป็นเรื่องที่จะต้องมีการสานต่อ เพื่อดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศต่อไป
ที่สำคัญที่สุดก็คือตัวคดี หลักในการที่กัมพูชาขอตีความคำวินิจฉัยของศาลโลกเมื่อปี 2505 ยังเป็นกระบวนการที่เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งตรงนี้รัฐบาลได้เตรียมข้อมูล ข้อกฎหมายเอาไว้ และก็หวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะได้ดำเนินการต่อสู้คดีให้สามารถที่จะปกป้อง พิทักษ์ รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์
นอก จากปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์ ความมั่นคงแล้ว ปัญหาภายในประเทศบางปัญหาที่กระทบกับความมั่นคงก็เช่นเดียวกัน และมีความจำเป็นที่จะต้องมีการสานต่อ เช่นปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ ได้ออกกฎหมายใหม่ที่ปรับโครงสร้างของ ศอ.บต. และแนวทางการแก้ปัญหาซึ่งเป็นที่ยอมรับไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ ในประเทศ แต่เป็นที่ยอมรับในระดับระหว่างประเทศด้วย แม้ความรุนแรงต่าง ๆ ยังคงมีอยู่ซึ่งก็เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลใหม่คงจะได้มีการสานต่อ และสามารถดำเนินทิศทางของนโยบายเพื่อนำไปสู่ความสงบสุขต่อไป
พร้อมกัน นี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลชุดใหม่จะได้สานต่อในแนวทางเพื่อนำไปสู่ความ จริง ความยุติธรรม นำเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองไปว่ากันในกระบวนการของรัฐสภา และยกสถาบันต่าง ๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่เหนือความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมไปจนถึงสถาบันอื่น ๆ ซึ่งมีภาระหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรต่าง ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากเราทำได้เช่นนี้ การเปลี่ยนผ่านไปสู่การบริหารงานของรัฐบาลใหม่ก็จะสามารถนำไปสู่การยุติความ ขัดแย้ง ซึ่งเป็นอุปสรรคปัญหาของการแก้ไขปัญหาของประเทศและเป็นความทุกข์ของพี่น้อง ประชาชนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
สุดท้ายนี้ ขอกล่าวขอบพระคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ และข้าราชการทุกท่าน ที่ได้ช่วยให้การบริหารราชการแผ่นดินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล นำพาประเทศชาติฟันฝ่าวิกฤติต่าง ๆ ซึ่งแม้ว่าจะมีบางปัญหายังไม่สามารถแก้ไขได้ หรือไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ทำไว้นั้นจะเป็นฐานสำคัญให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามาสานต่อเพื่อประโยชน์ สุขของพี่น้องประชาชนทุกคนต่อไป
Mthai news
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|