• สามแยกแม่โจ้ทล.ยังไม่สรุปทางลอดยกระดับหลังเปิดเวทีรับฟัง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 07 ส.ค. 54 เวลา 14:09:54 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กรมทางหลวงจัดประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการสำรวจ และออกแบบรายละเอียดทางแยกต่างระดับที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 (สามแยกแม่โจ้) ส่วนหนึ่งของ แผนพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด เป็นการเพิ่มศักยภาพในการรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ช่วยลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ยังไม่สรุปจะเป็นทางลอดหรือทางยกระดับ
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 เวลา 09.30 น. ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) โครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางแยกต่างระดับที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 (แยกแม่โจ้) ซึ่งกรมทางหลวงได้จัดขึ้น โดยมีผู้แทนส่วนราชการส่วนกลาง หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน ธุรกิจเอกชน สถาบันการศึกษา ผู้แทนภาคประชาชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอำเภอเมืองเชียงใหม่เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน
โดยนายสมบัติ เจริญพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงได้จัดทำแผนพัฒนาทางหลวง โดยกำหนดงานตามทิศทางของการพัฒนาระบบคมนาคาและขนส่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งงานที่ดำเนินการจะครอบคลุมถึงการก่อสร้างและบูรณะทางหลวงทั่วประเทศ อาทิ งานก่อสร้างเพิ่มมาตรฐานทางหลวงให้เป็น 4 ช่องทางจราจรหรือมากกว่า งานก่อสร้างเป็นทางลาดยางมาตรฐาน งานก่อสร้างทางแนวใหม่ งานก่อสร้างทางแยกต่างระดับและสะพานลอย ตลอดจนงานอำนวยความปลอดภัย อันเป็นภารกิจหลักที่กรมทางหลวงมุ่งที่จะพัฒนาให้สมบูรณ์
สำหรับบริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 (สามแยกแม่โจ้) เป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ และเชื่อมต่อไปยังอำเภอพร้าว ผ่านมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเชื่อมต่อการคมนาคมระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันบริเวณทางแยกแม่โจ้ประสบปัญหาการจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนที่ประชาชนต้องใช้เส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ และมีอุบัติเหตุบ่อยครั้งบริเวณทางแยก
ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง กล่าวว่า เพื่อให้โครงการเป็นไปตามแผน กรมทางหลวงจึงได้ดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางแยกต่างระดับที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 ส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาทางหลวงระยะ 10 ปี (พ.ศ. 2550-2559) และได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด และบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด เพื่อสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางแยกให้เป็นไปตามแผนงาน และทันกับงานโครงการก่อสร้างที่จะดำเนินการต่อเนื่องเมื่อแบบก่อสร้างของโครงการแล้วเสร็จ ซึ่งการดำเนินงานมีกำหนด 300 วันตั้งแต่ 4 มิถุนายน 2554 จะสิ้นสุดในวันที่ 29 มีนาคม 2555 นี้ การจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อแจ้งให้ประชาชนและหน่วยงานหรือกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูล ความเป็นมาของโครงการ ขอบเขตและแนวทางการดำเนินงาน พร้อมทั้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ เพื่อประโยชน์ในการนำไปปรับปรุงการออกแบบรายละเอียดโครงการต่อไป
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอแนวทางโดยการขยายสะพานฟ้าฮ่ามข้ามน้ำปิง ซึ่งมีเพียงสองช่องทางจราจร เมื่อรถที่มาจากทางหลวงหมายเลข 11 ทางหลวงหมายเลข 1001 และรถที่ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่เข้าสู่ถนนสาย 11 ที่บริเวณดังกล่าวจะมีจำนวนมาก ทำให้การจราจรเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 (สามแยกแม่โจ้) ควรสำรวจรูปแบบที่เหมาะสมก่อนการดำเนินการ อาทิ รูปแบบทางลอดอุโมงค์ หรือ ทางต่างระดับ และควรคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ที่อาศัยอยู่พื้นที่บริเวณก่อสร้างด้วย นอกจากนั้นเสนอให้มีการนำระบบขนส่งมวลชนมาใช้ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรคับคั่งในจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างมาก โดยกรมทางหลวงรับที่จะนำข้อมูลข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมไปประกอบการพิจารณาโครงการ ฯ พร้อมทั้งแจ้งว่าจะเปิด Web Site กรมทางหลวงเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนอีกทางหนึ่ง รวมทั้งกรณีของสะพานข้ามแม่น้ำปิงบริเวณฟ้าฮ่ามที่มีการเสนอว่า ควรขยายสะพานเพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจร เนื่องจากสะพานมีเส้นทางสัญจรเพียง 2 ช่องจราจร แต่ถนนสายเชียงใหม่-ลำปางมีพื้นที่มากกว่า ทำให้รถที่วิ่งมาตามเส้นทางติดขัดเป็นคอขวดบริเวณสะพาน ซึ่งกรมทางหลวงจะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้เอง โดยจะนำเรื่องไปพิจารณาดูความเป็นไปได้ก่อนจะตัดสินใจว่าควรดำเนินการอย่างไร.
http://www.thainews70.com/news/news-head/view.php?topic=2601
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 7854 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ส.ค. 54
เวลา 14:09:54
|