ภาระกิจแรก นายกฯ ลงพื้นที่น้ำท่วมสุโขทัย ชี้เงินช่วยเหลือ 600 บาทไม่พอ
วันที่ 13 ส.ค. ที่ จ.สุโขทัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐบาล
เดินทางมายังจังหวัดสุโขทัย โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์
เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม และดูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
โดยมีนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ
ที่บริเวณสนามบินได้มีกลุ่ม นปช.ได้เดินทาง มาต้อนรับ
ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณ
พร้อมได้เดินทางไปกราบพระแม่ย่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุโขทัย
และเดินทางพบกับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ต.ปากพระ อ.เมือง ที่วัดคงคามาลัย
โดยนายจักริน ผจว.สุโขทัย กล่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยให้ทราบ
พร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม
และครอบครัวที่ต้องที่สูญเสียญาติพี่น้องจากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย จำนวน 4 ราย
พร้อมทั้งให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย และกล่าวว่าจากการที่ได้รับรายงานทราบว่า
สถานการณ์น้ำครั้งนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนรุ่นแรงอย่างมาก
ทันที่ที่ตนและ ครม.ได้รับการแต่งตั้ง
และได้เฝ้าถวายสัตย์ฯต่อหน้าพระพักตร์ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สิ่งแรกที่ทำคือการเดินทางมาพบกับชาวบ้านทุกคนที่เดือดร้อน
เพื่อมาแสดงความเสียใจกับบรรดาญาติของผู้เสียชีวิต
และผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจากปัญหาอุทกภัย
และมาให้กำลังใจ ตนในฐานะรัฐบาลจะเข้ามามีส่วนในกลไกช่วยเหลือเร่งรัดภาคส่วนราชการ
ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา โดยแบ่งปัญหาออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
การดำเนินการในระยะกลางและระยะยาว
ส่วนค่าชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 600 บาท นั้น
ขณะนี้กำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสม
เพราะเข้าใจดีว่าความช่วยเหลือเพียง 600 บาทนั้นไม่เพียงพอ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ถวายเครื่องสังฆทานแด่พระภิกษุ 3 รูป ก่อน
ที่จะเดินทางพร้อมคณะ ไปลงเรือท้องแบนเพื่อพบปะและมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้าน
ที่ประสบอุทกภัยที่บ้านสามหมื่น ม.4 ต.ปากพระ
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลุยน้ำเข้าไปมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านพร้อมให้กำลังใจด้วยตนเอง
ส่วนความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
ตนฝากเรื่องให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องและขอรับทราบปัญหาและข้อเท็จจริงเบื้องต้น
ทั้งในส่วนของข้อดีและข้อห่วงใยของชาวบ้านในพื้นที่
เรื่องนี้ขอทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่และประชาชนและคงจะให้แนวทางการตัดสินใจอีกครั้ง
เนื่องจากเป็นปัญหาระยะยาวจึงต้องหาข้อสรุปก่อนว่า
ข้อดีข้อเสียของแนวทางต่างๆเป็นอย่างไร จากนั้นก็จะมาหารือกับชาวบ้าน รวมทั้งกลุ่มต่างๆว่า
มีความเห็นอย่างไร แต่เราต้องแก้ปัญหาเรื่องน้ำก่อนว่าระยะยาวเราจะทำอย่างไร
เพื่อเชื่อมลุ่มแม่น้ำเข้าด้วยกันทั้ง 25 ลุ่มน้ำ เรื่องนี้ต้องมาประยุกต์ใช้และศึกษาในภาพใหญ่ก่อน
ที่จะเข้าไปศึกษาในรายจังหวัด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชน
ผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.กงไกรลาศ โดยนั่งรถยนต์ เพื่อดูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมแก่ราษฎร หมู่ 9 ต.กง จำนวน 1,000 ชุด
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์นั่งเรือนำถุงยังชีพไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ที่พิการไม่สามารถเดินทางออกมารับได้ จำนวน 5 หลังคาเรือน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE16SXlOREkyT1E9PQ==§ionid=