กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
30พรานรุมจับได้ที่ฟิลิปปินส์ สื่อฝรั่งตีข่าว-ใหญ่สุดในโลก คาดยังมีอีกตัว-ยักษ์ยิ่งกว่านี้
โคตรเข้ - ชาวฟิลิปปินส์มุงดูจระเข้ยักษ์น้ำเค็ม ความยาว 6.4 เมตร หนัก 1,075 กิโลกรัม ถูกจับเป็นที่เมืองบุนาวัน เกาะมินดาเนา อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นจระเข้ตัวใหญ่ที่สุดในโลกหรือไม่ เมื่อ 6 ก.ย.
|
ตะลึงโคตรไอ้เข้โผล่ที่ "ฟิลิปปินส์" จนท.และนายพรานกว่า 30 คน ใช้เนื้อหมู ไก่ และหมา เป็นเหยื่อล่ออยู่นานกว่า 3 สัปดาห์กว่าจะจับตัวได้ หลังบุกเข้าไปกินควายของชาวบ้านในเมืองบุนาวัน จังหวัดอากูซันเดซูร์ เกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ยังต้องสงสัยว่าเขมือบด.ญ.วัย 12 ปี ที่พบศพไร้ศีรษะเมื่อ 2 ปีก่อนด้วย ระบุยาวถึง 6.4 เมตร หนัก 1,075 ก.ก. คาดว่าตัวใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมทำเมืองที่พบเป็นแหล่งท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า ชาวฟิลิปปินส์ต่างฮือฮากับการจับจระเข้น้ำเค็ม ที่เชื่อว่าตัวใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่เคยจับได้แบบเป็นๆ ความยาว 6.4 เมตร หนัก 1,075 กิโล กรัม ในเขตหมู่บ้านคอนซูเอโล เมืองบุนาวัน จังหวัดอากูซันเดซูร์ เกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ โดยมีชาวบ้านแห่ไปดูจระเข้ตัวนี้ในสระที่มีกรงล้อมรอบ แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งว่า ชาวบ้านยังวางใจไม่ได้ เพราะเชื่อว่ายังมีจระเข้อีกตัวที่อาจตัวใหญ่กว่านี้ที่ล่าตัวอยู่
รอน ซูมิลิเยร์ เจ้าหน้าที่ทีมจับจระเข้ยักษ์ กล่าวว่า ทีมงานยังล่าจระเข้ตัวที่ 2 ซึ่งอาจมีขนาดใหญ่กว่าตัวนี้ และอาจเป็นตัวที่บุกรุกเข้ามาในชุมชน ถึงชาวบ้านจะสบายใจได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็แค่ร้อยละ 10 อีกร้อยละ 90 ยังต้องระวังตัว และว่า ต้องออกตามหาจระเข้ตัวที่ 2 ให้ได้ ซึ่งตัวที่ยังหาไม่พบเป็นตัวสร้างปัญหาที่แท้จริง
สำหรับจระเข้ยักษ์ที่จับมาได้นี้ ชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่า "โลลอง" เป็นตัวผู้ คาดว่าอายุ 50 ปีแล้ว และเชื่อว่าเป็นตัวที่กินวัวควายของชาวบ้านไปหลายตัว รวมถึงอาจกินชาวนาในพื้นที่ที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ และเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่มีผู้พบศพไร้ศีรษะเหมือนถูกจระเข้กัดเมื่อสองปีก่อน กระทั่งทีมเจ้าหน้าที่และพรานนำคนงานชาย 30 คนออกไปล่า ใช้เนื้อไก่ หมู และหมา เป็นเหยื่อล่อ ซุ่มรออยู่ 3 สัปดาห์ จึงได้ตัวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
นางเธเรซา มุนดิตา ลิม เจ้าหน้าที่สำนัก งานสัตว์ป่าและเขตคุ้มครองของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่พยายามจะหาวิธีตรวจสอบดูว่า จระเข้ตัวนี้ใหญ่ที่สุดในโลกหรือไม่ในบรรดาจระเข้ที่ถูกจับเป็น หลังจากเคยมีสถิติเดิมเป็นจระเข้ที่ถูกจับในออสเตรเลีย ตัวยาว 5.48 เมตร ขณะที่จระเข้น้ำเค็มในป่า อาจมีอายุยืนถึง 100 ปี และตัวยาวได้ถึง 7 เมตร
ด้านนายเอ๊ดวิน อีลอร์เด นายกเทศมนตรีเมืองบุนาวัน เตรียมการใช้จระเข้ยักษ์โลลองที่จับมาได้นี้ เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองเพื่อใช้โปรโมตการท่องเที่ยวให้กับเมือง โดยกล่าวว่า เมืองบุนาวันต้องอาศัยเรื่องราวของจระเข้ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อเพิ่มการจ้างงานและรายได้ให้กับชาวเมือง สำหรับชื่อ โลลอง มาจากชื่อนักล่าจระเข้ที่เสียชีวิตไปแล้วชื่อ เออร์เนสโต้ โลลอง โคเนต
นายอีลอร์เด ยังระบุเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา ชาวเมืองบุนาวันกว่า 37,000 คน อยู่ในสภาพที่เงียบเหงามาตลอด ข่าวของจระเข้ยักษ์ครั้งนี้อาจช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเจ้าเมืองบุนาวันยังกล่าวด้วยว่า จระเข้ขนาดใหญ่แบบโลลอง ยังมีอีกนับพันตัวในพื้นที่ส่วนนี้ของประเทศฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินไควเรอร์ รายงานว่านายอีลอร์เด เตรียมติดต่อทางกินเนสส์บุ๊กให้บรรจุจระเข้ยักษ์โลลอง ไว้ในหมวดของจระเข้ธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มนุษย์จับได้
ด้านมาริโอ อีลูโด เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ป่าในคารากา กล่าวว่า การเปลี่ยนพื้นที่เมืองบุนาวันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศสำหรับศึกษาชีวิตจระเข้น้ำเค็มฟิลิปปินส์นั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรต่อสภาพแวดล้อมและตัวจระเข้
สำหรับจระเข้น้ำเค็ม หรือไอ้เคี่ยม ตามภาษาเรียกของไทย เป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ในอันดับจระเข้ชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylus porosus ในวงศ์ Crocodylidae มีลักษณะทั่วไปคล้ายจระเข้น้ำจืด จุดที่แตกต่างกัน คือ ขาคู่หลังมีลักษณะแข็งแรงกว่าขาคู่หน้า และไม่มีเกล็ด 4 เกล็ดที่ท้ายทอย ปากยาวกว่าจระเข้น้ำจืดอย่างเห็นได้ชัด สีลำตัวออกเหลืองอ่อนหรือสีขาว และมีการเรียงตัวที่ส่วนหาง ดูคล้ายตาหมากรุก
ตัวผู้มีความยาวหางยาวกว่าตัวเมีย แต่ลำตัวของตัวผู้ผอมเพรียวกว่า แต่โดยรวมแล้วขนาดลำตัวของตัวเมียจะเล็กกว่าเมื่อเทียบกันตัวต่อตัว และระยะห่างของโหนกหลังตาจะกว้างกว่าหัวของตัวผู้ดูป้อมสั้น ตัวเมียจะดูหัวยาวเรียว
จระเข้น้ำเค็มจัดว่าเป็นสายพันธุ์จระเข้ที่มีความใหญ่ที่สุดในโลก เพราะโตเต็มที่ได้ถึง 4-5 เมตร และที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมาคือ 9 เมตร หนักได้ถึง 1,000 กิโลกรัม (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ภูมิภาคเอเชียใต้จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศออสเตรเลียทางตอนเหนือ มักอาศัยอยู่ในป่าโกงกางหรือป่าชายเลนในที่ที่เป็นน้ำกร่อยหรือน้ำเค็ม ตัวผู้จะถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 16 ปี ตัวเมียอายุ 10 ปี มีการผสมพันธุ์ในฤดูร้อนและวางไข่ในฤดูฝน ครั้งละ 25-90 ฟอง ใช้ระยะเวลาในการฟักไข่ประมาณ 80 วัน
จระเข้น้ำเค็มมีอุปนิสัยดุร้ายมาก สามารถโจมตีสัตว์ที่โดยปกติไม่ใช่อาหารได้ เช่น มนุษย์ เป็นต้น อีกทั้งมีการกัดของกรามได้อย่างรุนแรงมากที่สุดในโลก และสามารถกระโดดงับเหยื่อได้ ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ในสัตว์เลื้อยคลายขนาดใหญ่เช่นนี้ ซึ่งในสวนสัตว์บางแห่งได้ใช้ความสามารถพิเศษอันนี้หลอกล่อให้จระเข้กระโดดงับเหยื่อที่แขวนล่อไว้เพื่อแสดงแก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREEzTURrMU5BPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdPUzB3Tnc9PQ==
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|