| • "ในหลวง"ทรงชี้แนะปลูกไม้ยืนต้นผสมกับไม้อายุ 10 ปี ป้องกันน้ำท่วม |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 25 ก.พ. 55 เวลา 09:09:57 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง นายกิจจา ผลภาษี นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นายวีระพงษ์ รามางกูร นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายรอยล จิตรดอน และนายอำพล กิติอำพน คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานเรื่องการวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผน เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) โดยทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า ภาคใต้มีต้นไม้โตเร็วและก็ทำลายเร็ว นอกจากนี้ภาคเหนือ มีการทลายของดิน ของภูเขา อันนี้อันตรายมาก จึงต้องหาวิธีแก้ไขเรื่องป่าไม้เป็นสำคัญ แต่ลำบากเพราะว่าความโลภของคน ต้นไม้ที่ชอบทำลายคือต้นไม้คุณภาพ ต้นไม้แข็ง เป็นต้นและไม้ที่ถูกทำลายแล้วขึ้นช้าและไม่รู้จะทำอย่างไร โดยเฉพาะดำริข้าราชการว่าเป็นอย่างนี้จะลำบาก ต้นไม้ช่วยโลกจะขึ้นช้า และหลักการปลูกป่าคือต้องปลูกต้นไม้ขึ้นเร็วผสมกับต้นไม้ขึ้นช้า เพื่อช่วยกันป้องกันน้ำท่วม ต้องปลูกต้นไม้เนื้อไม้แข็ง แต่ว่าเมื่อขึ้นช้า ก็ป้องกันยากไม่ให้ถูกทำลาย การปลูกแซมยาก จึงต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้มีการทำลาย แล้วให้มีการลงโทษหนัก เพื่อไม่ให้ถูกทำลาย
การปลูกต้นไม้ควรจะปลูกต้นไม้ที่ขึ้นช้า เป็นไม้แข็ง ไม้รากลึก เพราะหากไม่ป้องกันดินถล่มจะแก้ปัญหายากมาก วิธีทำจะต้องปลูกผสมกับต้นไม้ไม้อ่อนและขึ้นเร็วกับไม้แข็งที่ขึ้นช้า และหาวิธีป้องกันการทำลาย เพราะต้นไม้แข็ง เมื่อถูกทำลายแทนที่ได้กินเวลานาน อย่างที่กรุงเทพฯ ปลูกต้นไม้แข็ง เป็นไม้สัก และไม้ยาง ไม้สักกินเวลาหลายสิบปีกว่าจะโตและแข็ง ไม้ยางขึ้นเร็วกว่า แต่กินเวลานานเป็นสิบปีกว่าจะใช้ได้ เป็นงานหนักในการปลูกต้นไม้ที่จะช่วยในเรื่องของระบบปัญหาน้ำท่วม ดินถล่ม เพราะต้องใช้เวลาเป็นแรมปีถึงจะช่วยได้ พื้นที่ที่มีปัญหาต้องปลูกต้นไม้ที่ขึ้นเร็ว ที่ประมาณ10 ปีโตใช้การได้ และผสมกับต้นไม้ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะใช้งานได้ ใช้งานในฐานะเป็นไม้ และเป็นต้นไม้ที่จะป้องกันน้ำท่วม และปลูกต้นไม้ขายได้ สร้างรายได้ส่วนหนึ่งและไม้แข็งมีคุณภาพ ราคาแพง คนชอบไปตัด และไปขาย อันนั้นต้องพยายามทำป่าที่ปลูกต้นไม้หลายชนิด
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังนำคณะ กยน. และ กยอ. เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า รายละเอียดของการเข้าเฝ้าฯขอให้รอวันที่ 25 ก.พ. วันนี้จะพูดในเรื่องหลักในฟังว่าได้นำคณะไปกราบบังคมทูลถวายรายงานความคืบ หน้าหลังจากได้ลงไปดูภารกิจเรื่องน้ำช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พระองค์ท่าน ทรงห่วงใยเรืองการดูแลรักษาป่าต้นน้ำ ซึ่งวันนี้ปัญหาคือเรื่องของการตัดไม้ทำลายป่า และต้องเร่งรัดเรื่องการปลูกป่า ถึงแม้จะเป็นการปลูกป่าในระยะยาวก็ต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะต้นไม้เนื้อแข็ง ที่จะต้องเน้นในเรื่องการอุ้มน้ำและรักษาหน้าดิน รวมทั้งเรื่องการระบายน้ำ ซึ่งพระองค์ท่านทรงห่วงใย อยากให้มีการระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญการระบายน้ำในเขื่อนต้องระบายตามหลักของการรักษาความสมดุล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง และเกษตรกรรม ซึ่งทางคณะ กยน.ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสนำไปปรับปรุง การกราบบังคมทูลฯทำให้คณะที่เข้าเฝ้าฯมีความมั่นใจในเรืองทิศทางการทำงานมาก ขึ้น
ขณะที่ นายรอยล จิตรดอน ผอ.สำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ในฐานะคณะกรรมการ กยน. เปิดเผยหลังทูลเกล้าฯถวายรายงานแผนป้องกันอุทกภัย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า นายกฯ และกยน.ทุกคนมีความปลาบปลื้ม ที่พระองค์ทรงให้ความสนพระทัยต่อแผนรับมืออุทกภัย ทรงเป็นเสมือนครู เรียกนักเรียนมาตรวจข้อสอบและทรงซักถามตรวจสอบแผนอย่างละเอียด ทำให้ทุกคนมีกำลังใจ ที่ทรงแนะนำสิ่งที่เป็นปัญหาและข้อเท็จจริงบางอย่างที่ยังไม่ได้บรรจุในแผน โดยทรงนำปัญหาจากสภาพจริงมาให้คำแนะนำ และจะนำไปปรับปรุงให้แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะปัญหาที่ทรงห่วงใยคือการระบายน้ำออกจากเขื่อน ว่า จะต้องสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่รับสั่งคือการฟื้นฟูและรักษาป่า และต้องรู้ปริมาณน้ำอย่างแท้จริงว่า มีเท่าไหร่ จะสามารถจัดการน้ำได้อย่างไร
นายรอยล กล่าวต่อว่า ได้กราบบังคมทูลฯว่า จะเร่งรัดดำเนินการติดตั้งมาตรวัดปริมาณน้ำด้วยระบบเรดาร์ในทุกลำน้ำสำคัญ ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝน ประมาณ 140 เครื่อง ขณะเดียวกันนายกฯ ได้ก้มลงกราบพระบาท และน้อมรับดำเนินการตามตามรับสั่งทุกประการ เพราะถือว่าครั้งนี้รัฐบาลสอบผ่าน พระองค์ทรงมีอัจฉริยภาพและทรงมีทางออกแนะให้รัฐบาลทำได้ถูกต้อง
(เนื้อหานี้ จะลบตัวเองภายใน 24 ชม. หากใครต้องการอ่านเนื้อหาจะลิงค์ไปยังที่มาต้นฉบับ)
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 3444 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 25 ก.พ. 55
เวลา 09:09:57
|
