ลิงก์ผู้สนับสนุน

ปรากฏการณ์โลกหมุนช้าลง จากแรงเสียดทานไทดัล (Tidal Friction) ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 จะมีหนึ่งวินาทีเพิ่มขึ้นมา ก่อนที่จะถึงเวลาเจ็ดโมงเช้า ตามเวลาประเทศไทย

อธิกวินาที เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการที่โลกของเราหมุนช้าลง การหมุนช้าลงของโลกมีมาจากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุด ก็คือแรงเสียดทานที่เกิดจากแรงไทดัล

แรงไทดัล หรือ แรงน้ำขึ้นน้ำลง เกิดจากการที่แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ ในส่วนที่ใกล้โลกแข็งแรงกว่าบริเวณกึ่งกลางโลก น้ำบริเวณที่ใกล้ดวงจันทร์จึงป่องเข้าหาดวงจันทร์ เกิดเป็นน้ำขึ้น ในขณะเดียวกันแรงโน้มถ่วงตรงส่วนตรงข้ามดวงจันทร์ มีน้อยกว่าบริเวณกึ่งกลางโลก น้ำบริเวณที่ไกลดวงจันทร์จึงป่องออกจากดวงจันทร์ เกิดเป็นน้ำขึ้นน้ำลงวันละสองครั้ง

แรงไทดัลมีผลกับโลกและดวงจันทร์มาตั้งแต่ครั้งโลกและดวงจันทร์ยังมีอายุน้อย สาเหตุหนึ่งที่ดวงจันทร์หันหน้าเดิมมาหาโลกเสมอ เกิดจากแรงเสียดทานไทดัลในสมัยที่ดวงจันทร์ยังหลอมละลาย จนมวลส่วนมากของดวงจันทร์หันมากองรวมกันอยู่ที่ด้านใกล้โลก คล้ายกับตุ๊กตาล้มลุกที่ชี้ส่วนที่หนักลงพื้นอยู่เสมอ

เนื่องจากการหมุนของโลก ทำให้ตำแหน่งน้ำขึ้นสูงสุด อยู่ห่างจากบริเวณที่ใกล้ดวงจันทร์ที่สุดไปบ้างเล็กน้อย เมื่อแรงดึงดูดของดวงจันทร์ กระทำกับบริเวณที่ป่องออกนี้ จึงเกิดแรงดึงคล้ายๆ กับแรงฉุดในทิศสวนทางกับการหมุนของโลก ทำให้โลกหมุนช้าลง เรียกว่า แรงเสียดทานไทดัล

การหมุนช้าลงของโลกนี้ ถูกจารึกเอาไว้ด้วยหลักฐานทางธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยา การศึกษาฟอสซิลของปะการังบริเวณเขตน้ำขึ้นน้ำลง ทำให้พบว่าเมื่อ 400 ล้านปีที่แล้วในยุค Devonian ในหนึ่งปีมีจำนวนวันถึง 400 กว่าวัน นั่นหมายความว่าในยุคนั้นหนึ่งวันจะกินเวลาเพียงแค่ 22 ชั่วโมง

ผลพลอยได้อย่างหนึ่งของการหมุนช้าลงของโลกที่ได้จากกฎอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงมุม ก็คือการถอยห่างออกไปของดวงจันทร์ ทุกวันนี้เราสามารถยืนยันได้ด้วยเลเซอร์ว่าดวงจันทร์ค่อยๆ ถอยห่างออกไป ประมาณปีละ 3.8 ซม. ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการหมุนช้าลงของโลก 0.002 วินาทีต่อศตวรรษ นั่นก็คือ ทุกๆ หนึ่งล้านปี หนึ่งวันบนโลกจะนานขึ้นประมาณ 20 วินาที

การหมุนช้าลงของโลกนี้ มีผลน้อยมากกับชีวิตของมนุษย์ เนื่องจากตลอดชั่วชีวิตมนุษย์ เวลาในหนึ่งวันมีการเปลี่ยนแปลงเพียงระดับ 0.001 วินาที อย่างไรก็ตาม การหมุนช้าลงนี้มีผลต่อการบอกตำแหน่งของดวงอาทิตย์ เนื่องจากเราใช้เวลามาตรฐานโดยอ้างอิงจากตำแหน่งดวงอาทิตย์ นั่นก็คือเรานิยามให้เที่ยงวันใกล้เคียงกับเวลาที่ดวงอาทิตย์ผ่านเส้นเมอริเดียน หรืออยู่สูงสุดบนท้องฟ้า แต่การหมุนช้าลงของโลกทำให้นาฬิกาของเราบอกปรากฏการณ์นี้คลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นเป็นเพราะในเวลาหนึ่งวันไม่กินเวลาเท่ากับ 24 ชั่วโมงพอดีอีกต่อไป

วิธีหนึ่งที่สามารถแก้ได้ ก็คือการเปลี่ยนอัตราการหมุนของนาฬิกาทุกเรือนบนโลก ให้หนึ่งวันมีเวลาเท่ากับ 24 ชั่วโมงเสมอ แต่แน่นอนว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำได้ยาก และปัจจุบันเรามีการอ้างอิงเวลาหนึ่งวินาทีมาตรฐานจากนาฬิกาอะตอมแทนที่ไปแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ ก็คือการชดเชยเวลาเพิ่มเติมให้กับนาฬิกา เพื่อให้ตำแหน่งดวงอาทิตย์กลับมาตรงกับเวลา 12:00 น. อีกครั้ง เราจึงได้มีการกำหนดให้คืนวันที่ 30 มิถุนายน มีอีกหนึ่งวินาทีหลังจาก 23:59:59 น. เป็นเวลา 23:59:60 น. ก่อนที่จะเป็นเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 00:00:00 น. UTC ซึ่งตรงกับเวลา 7:00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ขอบคุณภาพและข้อมูล เฟซบุ๊ค มติพล ตั้งมติธรรม,youtube : James Tyrwhitt-Drake
เรียบเรียงข้อมูลโดย Ch7 News Online

Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
		VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV