สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เตือนประชาชนดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคไข้เลือดออก
นายแพทย์วิทยา หลิวเสรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค หลังจากถูกยุงที่มีเชื้อกัด 5-8 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการไข้สูงลอยประมาณ 2-7 วัน บางรายมีจุดเลือดสีแดงตามลำตัว แขน ขา อาจมีเลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟันและอาจเกิดอาการช็อกได้ สำหรับรายที่ช็อกผู้ป่วยมักมีอาการหลังจากไข้สูง โดยผู้ป่วยจะมีอาการซึมลง ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว หมดสติ หากรักษาไม่ทันก็อาจเสียชีวิตได้ ข้อมูลจากกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สคร.1 เชียงใหม่ พบว่าตั้งแต่ ปี พ.ศ.2549-2558 เขตสุขภาพที่ 1 พบว่าอัตราป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราป่วยตายมีแนวโน้มลดลง สถานการณ์โรคไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2559 พบผู้ป่วยจำนวน 435 ราย ไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบสูงสุด คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน อัตราป่วยเท่ากับ 15.36 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือจังหวัดลำพูน เชียงใหม่และลำปาง อัตราป่วยเท่ากับ 14.55, 8.43 และ 8.22 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับ
นายแพทย์วิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือสามารถป้องกันตัวเองจากโรคไข้เลือดออกได้ โดยประชาชนทุกคนต้องให้ความร่วมมือในการกำจัดลูกน้ำยุงลายบริเวณบ้านเรือนของตนเอง ใช้มาตรการ 3 ได้แก่ เก็บที่หนึ่ง เก็บบ้านให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก เก็บที่สอง เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายและเก็บที่สาม เก็บน้ำ ปิดให้มิดชิดหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำ และ 5 ส ได้แก่ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย ด้วยการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากมีไข้สูง ติดต่อกันตั้งแต่ 2 วันขึ้น ควรรีบไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที ไม่ควรปล่อยให้หายเอง เพราะอาจจะทำให้เสียชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนต้องระวังตนเองไม่ให้ยุงกัด เช่น การนอนในมุ้ง ใช้ยาทากันยุง ใช้ไม้ตียุงทำลายยุงตัวแก่ และให้ความร่วมมือกับ อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เข้าไปสุ่มสำรวจความชุกลูกน้ำยุงลายในบ้านทุกครั้ง หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php…