• จ.ลำพูน กำหนดเขต ห้ามปล่อยโคม ,ริมปิง-ประตูป่า ห้ามเด็ดขาด! ที่อื่น ต้องขออนุญาต นายอำเภอ! |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 12 พ.ย. 59 เวลา 12:12:03 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ทั้งนี้ในส่วนของประกาศที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดเชียงใหม่โดยตรง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมสำคัญที่ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน ก็คือประกาศจังหวัดเกี่ยวกับเรื่อง โคม โดยมีสาระพอสรุปได้ว่า การปล่อยโคมลอยหรือโคมควัน ให้ปล่อยได้ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือวันกระทงเล็ก โดยปล่อยได้ในระหว่างเวลา 10.00 น.ถึงเวลา 12.00 น. เพียงวันเดียวเท่านั้น ส่วนโคมอีกประเภทที่เรียกว่า โคมลอยหรือโคมไฟ คือโคมที่ต้องจุดไฟในโคมแล้วปล่อยลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ในประกาศอนุญาตให้ปล่อยได้ 3 วัน วันแรกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 หรือวันกระทงเล็ก วันที่ 2 วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 หรือวันกระทงใหญ่ และวันที่ 3 ที่อนุญาตให้ปล่อยคือ วันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี โดยทั้ง 3 วันที่อนุญาตให้ปล่อยโคมลอยหรือโคมไฟนี้ ปล่อยได้ระหว่างเวลา 19.00 น. ถึงเวลา 01.00 น.เท่านั้น
ส่วนโคมที่จะปล่อยได้นั้น โคมไฟ ต้องให้ได้มาตรฐาน มผช.808/2552 ตัวโคมต้องมีขนาดไม่เกิน 1 ลบ.ม. มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 ซม. สูงไม่เกิน 140 ซม. และทำจากวัสดุธรรมชาติ ในส่วนที่เป็นเชื้อเพลิงให้ทำจากกระดาษชุบเทียนขี้ผึ้งหรือพาราฟินน้ำหนักไม่เกิน 55 กรัม มีระยะเวลาในการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที ส่วนโคมควันที่จะปล่อยได้ต้องทำจากกระดาษว่าวขนาดไม่เกิน 72 แผ่นปากโคมมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 60 ซม. และให้หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษสีเดียวกับท้องฟ้า เช่น สีฟ้า สีขาว หรือสีเทา สำหรับประกาศฉบับที่เกี่ยวกับการจุดหรือปล่อยบั้งไฟ มีกำหนดให้ปล่อยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคมเท่านั้น แต่ละหมู่บ้านให้จุดและปล่อยได้แค่ 1 วันต่อปี โดยหมู่บ้านใดไม่เคยจัดให้มีการปล่อยบั้งไฟมาก่อนที่จะมีประกาศนี้ ห้ามจัดให้มีการปล่อยบั้งไฟเป็นอันขาด และกำหนดให้จุดและปล่อยได้ระหว่างเวลา 13.00 น.ถึงเวลา 17.00 น.เท่านั้น
ส่วนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางต้องไม่เกิน 3.5 นิ้ว ยาวไม่เกิน 280 ซม. ส่วนประกาศฉบับที่เกี่ยวกับการจุดและปล่อยพลุ อนุญาตให้จุดและปล่อยได้ในงานพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร วันลอยกระทง ทั้งวันขึ้น 15 ค่ำและวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 และวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปีโดยอนุญาตให้จุดและปล่อยได้ระหว่างเวลา 19.00 น. ถึงเวลา 01.00 น. นอกจากนี้ยังกำหนดให้จุดและปล่อยได้ในงานอวมงคล งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงาน งานแข่งขันกีฬา หรืองานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เคยมีประวัติ ในการจุดและปล่อยพลุมาก่อน พร้อมกับกำหนดขนาดของพลุไว้ที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อไม่เกิน 12 นิ้ว และจุดปล่อยได้ไม่เกิน 500 นัดต่อวัน ยกเว้นการจุดพลุในวันจุดเทียนชัยถวายพระพร
ส่วนประกาศฉบับที่เกี่ยวกับการจุดและปล่อยตะไล กำหนดให้จุดและปล่อยได้ในงานอวมงคลเท่านั้น โดยกำหนดขนาดกระบอกของตะไลไม่เกิน 1.5 นิ้ว และเส้นผ่านศูนย์กลางของตะไลไม่เกิน 12 นิ้ว ปล่อยได้ไม่เกิน 40 วงต่อ 1 ใบอนุญาต ส่วนวัสดุที่นำมาผลิตต้องเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา และไม่มีส่วนผสมของโลหะ ทั้งนี้การจะจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายกัน ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอในพื้นที่ก่อน จึงจะจุดหรือปล่อยได้ทั้งนี้คำสั่ง คสช.ที่ 27/2559 เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไลโคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ซึ่งรับผิดชอบในเขตพื้นที่ ที่จะจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใดนั้น
ส่วนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตของนายอำเภอท้องที่ และให้จังหวัดจัดทำประกาศจังหวัดโดยความเห็นชอบร่วมกันของคณะกรมการจังหวัดและสภาวัฒนธรรมจังหวัด เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศ ซึ่งขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้มีประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาและมีผลบังคับใช้แล้ว 4 ฉบับ ซึ่งการจัดกิจกรรมที่ต้องมีการจุดหรือปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอก่อน ไม่เว้นแม้กระทั่งการฌาปนกิจหรืองานศพ ซึ่งคำสั่ง คสช.ฉบับดังกล่าวได้กำหนดโทษไว้ว่า ผู้ใดฝ่าฝืน ไม่ขออนุญาตนายอำเภอก่อน หรือไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 4 ฉบับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 16558 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 พ.ย. 59
เวลา 12:12:03
|