กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ปลุกพลังชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้เพื่ออนาคตเด็กๆ
5 พ.ค. 2562
ตั้งแต่ปีพศ.2554 จนถึงปัจจุบันที่สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือสสส. ร่วมกับสถานศึกษาทั่วประเทศและภาคีเครือข่ายผู้ปกครอง องค์กรด้านการศึกษา สร้างความร่วมมือเพื่อปฏิรูปกระบวนการศึกษา เรียนรู้จนก่อเกิด"โรงเรียนสุขภาวะ"กว่า 3 พันแห่งนอกจากจะพัฒนาครู รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแล้ว ยังปลุกพลังชุมชน เครือข่ายผู้ปกครอง นำไปสู่การมีส่วนร่วมกันออกแบบ " โรงเรียนที่ชุมชนต้องการ" เพื่อวางรากฐาน อนาคตลูกหลานในชุมชน
ดร.กันตพงศ์ คงหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านสี่แยก นครศรีธรรมราช หนึ่งในโรงเรียนสุขภาวะ กล่าวว่า การทำงานร่วมกับ สสส. ทำให้โรงเรียนชุมชนบ้านสี่แยกเป็นอีกโรงเรียนสุขภาวะ ที่มีองค์ประกอบหลัก 5 ด้าน ทั้ง ผู้เรียน โรงเรียน สภาพแวดล้อม ครอบครัวและชุมชน ต่างล้วน "เป็นสุข" ผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์ นอกจาก 5 ด้าน ยังพบคุณภาพการศึกษา เด็กแต่ละกลุ่มวัย สูงกว่าค่าเฉลี่ยความสำเร็จที่เกิดขึ้น เพราะ มีการต่อยอด ขยายผลทำงานเป็นทีม เป็นเครือข่าย ทั้งสมาคมครู ,เขตพื้นที่การศึกษาและผู้ปกครอง เพราะลำพังโรงเรียน ทำงานอย่างอิสระเพื่อก้าวสู่เป้าหมาย คงเสียงไม่ดังพอ ที่จะกระตุ้น การดำเนินงานตามแนวทางที่กำหนดไว้ได้ประกอบกับโรงเรียน ได้เข้าร่วมโครงการ "โรงเรียนร่วมพัฒนา"หรือที่คณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการศึกษา เปิดทางเลือกในรูปแบบ Partnership School อาจจะมีคำถามตามมาว่า แผนงาน กิจกรรม โครงการต่างๆที่สถานศึกษา วางเป้าหมาย กำหนดทิศทางดำเนินการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา และมีความต่อเนื่อง อาจเป็นเพียงแค่ แนวคิดแต่ไม่มีการสานต่อ
2 (10)
โดยปัจจัยหลักๆคือวาระการทำงาน ของผู้บริหารโรงเรียน ที่มักจะมีการโยกย้าย เสมือนทำงานตามวาระ พอมีคนใหม่มาก็ปรับเปลี่ยนดังนั้น วิธีการที่จะให้เกิดความยั่งยืนคือ ต้องเริ่มจาก ผู้เรียน ผู้สนับสนับ ที่มีทั้งคุณครู ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย เขตพื้นที่การศึกษา ให้เด็ก เสนอความต้องการ เพื่อนำไปสู่กิจกรรมการเรียนรู้ มี เครือข่าย ครู ผู้ปกครอง เข้ามาร่วม สู่การออกแบบ กิจกรรม เพื่อการเรียนรู้ ที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง จะมีความยั่งยืนผลพลอยได้ นอกจากผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียน การสอน ครบถ้วน ในการพัฒนา สมอง สติปัญญา ร่างกาย และจิตใจแล้ว ผลอีกส่วนคือ การดึงเด็กออกจากเทคโนโลยี่จากสมาร์ทโฟน ,หน้าจอทีวี.,การเล่นเกมส์จากนั้นกิจกรรม การเรียนรู้ ที่เด็กกำหนดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ฐานเรียนรู้ ในการ ทัศนศึกษา ดูงาน ตามแหล่งต่างๆในชุมชนหรือสถานที่เหมาะสมกับการเรียนและเด็กๆต้องการ
3 (8)
รวมถึงกิจกรรมอื่นๆเพื่อเสรมสร้างการเรียนรู้ ทั้ง การเล่นดนตรี การเล่นกีฬา กิจกรรมฝึกฝน ทักษะ ประสบการณ์ชีวิตที่เด็กๆ สนใจ โดย โรงเรียน จัดการเรียน การสอน เปิดโอกาสให้ แสวงหาความรู้กันเต็มที่ตามศักยภาพ
ดร.กันตพงศ์ คงหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านสี่แยก นครศรีธรรมราช มองว่า ผลการเรียนเป็นเลิศ ไม่ใช่เป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จของโรงเรียน หรือกระบวนการเรียนการสอน หากแต่ การที่เด็ก มีความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้ จนนำไปสู่ ทักษะ ประสบการณ์ชีวิต ที่สามารถนำไปต่อยอด ขยายผลในชีวิตจริง ดำรงคงอยู่อยางปกติสุขในสังคม นั่นน่าจะเป็น ความสำเร็จที่แท้จริงของ กระบวนการเรียนรู้การปรับตัว ในการเรียน การสอน การเรียนรู้ นอกจากจะต้องเน้นการลงมือทำแล้ว ก็ต้องปรับให้ทันยุคทันสมัย
กระทรวงศึกษาธิการ ทุกยุคสมัย มีเจตจำนงค์ มุ่งพัฒนาคุณภาพและนวัตกรรมการจัดการศึกษาให้โรงเรียนสามารถยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้ผู้เรียนสำหรับโรงเรียนชุมชนบ้านสี่แยก ถือเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่มีความสำเร็จและความก้าวหน้าหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหลักสูตรที่มีความเชื่อมโยงกับบริบทเชิงพื้นที่โดยเน้นทั้งวิชาการและวิชาชีพ พร้อมมีแหล่งเรียนรู้ที่โดดเด่น การทำเกษตรกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสร้างแหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติในชุมชนได้อย่างน่าสนใจ
ปัจจุบันหลายๆภาคส่วน ได้ให้การสนับสนุนโครงการโรงเรียนต่างๆในชุมชน เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมด้านศีลธรรมจริยธรรม การพัฒนาตนเองและสภาพแวดล้อมอื่นๆ การดึงชุมชนมาร่วมทำงาน ร่วมคิด ร่วมวางแผนเพื่อกำหนดทิศทาง ช่วยกันสร้างภาพความสำเร็จให้เกิดขึ้นต่อ"ผู้เรียน" ทุกกลุ่มวัยตั้งแต่ปฐมวัย ไปจนถึง เยาวชนคนรุ่นใหม่ๆ เพื่อเป็นทรัพยากรบุคคลคุณภาพของครอบครัว ของชาติ บ้านเมืองต่อไป
#kidactiveplay #สสส #ออกมาเล่น #ออกกำลังกาย #ออกกำลังกาย #เด็ก #เยาวชน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|