• กรมการแพทย์แนะเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ห่างไกลเชื้อนิวโมคอคคัส |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 03 ก.ย. 63 เวลา 20:12:38 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กรมการแพทย์แนะเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ห่างไกลเชื้อนิวโมคอคคัส
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก แนะเตือนหากมีอาการ ไข้สูง ไอ หนาวสั่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์เสี่ยงติดเชื้อนิวโมคอคคัสซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคปอดบวมและโรคติดเชื้อ ในกระแสเลือด
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคนิวโมคอคคัส เป็นโรคติดเชื้อชนิดหนึ่งสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย เกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีหลายสายพันธุ์ เชื้อตัวนี้สามารถพบได้ในระบบทางเดินหายใจส่วนบนของคนตามช่องโพรงจมูกและลำคอ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคปอดบวมและ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด เชื้อจะสามารถแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นโดยการไอ หรือ จาม ทำให้มีละอองเสมหะแพร่กระจายออกไป สามารถเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน ซึ่งคล้ายกับการแพร่กระจายของโรคหวัด และไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนิวโมคอคคัสซ้ำซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ แนะให้ผู้มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ควรได้รับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคนิวโมคอคคัสเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากสงสัยว่ามีอาการ ไข้สูง ไอ หนาวสั่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก อาจมีอาการของไข้หวัดนำมาก่อนหรือไม่ก็ได้ ให้รีบ พบแพทย์ วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรคคือการมีสุขอนามัยที่ดีด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ ปิดปากหรือจมูกด้วยกระดาษทิชชูเมื่อไอหรือจาม ทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้แล้วลงในถังขยะทันทีที่ใช้เสร็จ จากนั้นล้างมือให้สะอาด ล้างมือเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการรับประทานอาหาร ก่อนและหลัง การประกอบอาหาร และหลังจากการไอ จาม หรือเข้าห้องน้ำ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือชุมชนแออัด ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อโรคต่างๆ ของร่างกายเสื่อมลง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อนิวโมคอคคัสง่ายกว่า เมื่อเทียบกับคนวัยหนุ่มสาว ดังนั้น การเสริมภูมิคุ้มกันตั้งแต่อายุ 50 ปี จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้กับร่างกาย
ขอบคุณข้อมูล : กรมการแพทย์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1234 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 03 ก.ย. 63
เวลา 20:12:38
|