กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กำหนดเกณฑ์อาการ “โควิด” สีเหลือง และสีแดงรองรับสิทธิ UCEP Plus ที่จะเริ่มวันที่ 16 มีนาคมนี้ พร้อมทำความเข้าใจโรงพยาบาลเอกชนแล้ว ย้ำกลุ่มสีเขียวยังรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิ ส่วนสีเหลืองและสีแดงที่เข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน รักษาฟรีได้ทุกโรงพยาบาลเตรียมหารือปรับจำนวนวันรักษาในโรงพยาบาลจาก 10 วัน เป็น 7+3
วันที่ 15 มีนาคม 2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า แนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่จะเริ่มวันที่ 16 มีนาคม 2565 นี้ ผู้ป่วยยังได้รับการรักษาฟรีทุกราย โดยกลุ่มอาการสีเขียว คือ ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย รักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายที่มีสิทธิการรักษาอยู่ เหมือนกับการรักษาโรคอื่น ๆ และใช้ระบบรักษาที่บ้าน/ชุมชน (HI/CI) หรือฮอสปิเทลได้เช่นเดิม รวมถึงการรักษาแบบผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ
ส่วนผู้ป่วยอาการสีเหลืองและสีแดง ตามเกณฑ์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ถือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินสามารถใช้สิทธิ UCEP Plus เข้ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ได้ทุกแห่ง
ทั้งนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ สพฉ. ได้ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับโรงพยาบาลเอกชนแล้ว
โดยกลุ่มอาการสีเหลือง ได้แก่ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย ปอดอักเสบ ถ่ายเหลวมากกว่า3 ครั้งต่อวัน , เด็กมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ไม่ดื่มนม หรือทานอาหารน้อยลง , กลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ อ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม
ส่วนกลุ่มอาการสีแดง ได้แก่ หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยคขณะสนทนา แน่นหน้าอก หายใจแล้วเจ็บหน้าอก ปอดอักเสบรุนแรง มีภาวะช็อก มีภาวะโคมา ซึมลง มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง และค่าออกซิเจนในกระแสเลือดน้อยกว่า 94%
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า จำนวนวันรักษาโควิด 19 ในโรงพยาบาล ซึ่งเดิมกำหนดไว้ 10 วัน จะมีการหารือปรับลดเป็นลักษณะ 7 + 3 คือ รักษาในโรงพยาบาล 7 วัน และกลับไปแยกกักตัวที่บ้านต่ออีก 3 วัน เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับโควิด 19 มากขึ้น แต่ทั้งนี้จะมีการพิจารณาบนหลักของความปลอดภัย
ส่วนยารักษาโควิด 19 ‘โมลนูพิราเวียร์’ ที่นำเข้ามา จะมีการใช้ทั้งในกลุ่ม 608 และคนทั่วไป เพื่อเปรียบเทียบผลการใช้กับยา ‘ฟาวิพิราเวียร์’ ซึ่งหากได้ผลดี ก็สามารถจัดหายาโมลนูพิราเวียร์จากแหล่งผลิตในจีนและอินเดียในราคาที่ใกล้เคียงกับยาฟาวิพิราเวียร์ได้
ขณะที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จัดทำลักษณะอาการของผู้ป่วยโควิด 19 แต่ละกลุ่มอาการ ดังนี้
1.ผู้ป่วยสีเขียว อาการ ได้แก่ ไม่มีอาการ มีไข้อุณหภูมิ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่รับกลิ่น ไอมีน้ำมูก เจ็บคอ ตาแดง มีผื่น ถ่ายเหลว
กลุ่มนี้รักษาฟรีใน รพ.ตามสิทธิ ทั้ง บัตรทอง ข้าราชการ หรือประกันสังคม (กรณีประกันสังคม หากทำงานต่างพื้นที่สามารถเข้า รพ.เครือข่ายสิทธิสุขภาพได้) , การรักษาในกักตัวที่บ้าน HI ,ในชุมชน CI และโครงการ ‘เจอ แจก จบ’ ที่หน่วยบริการใกล้บ้าน
2.ผู้ป่วยสีเหลือง อาการ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย ปอดอักเสบ ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน เด็กมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ไม่ดื่มนม หรือทานอาหารน้อยลง กลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคเรื้อรังหญิงตั้งครรภ์ อ้วน น้ำหนักเกิน 90 กิโลกรัม การรักษา คือ รักษาฟรีใน รพ.ตามสิทธิหรือ UCEP Plus ฟรีทุก รพ.ทั้งภาครัฐและเอกชน
3.ผู้ป่วยสีแดง อาการ หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยคขณะสนทนา แน่นหน้าอก หายใจเจ็บหน้าอก ปอดอักเสบรุนแรงมีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า ซึมลง มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียสนานกว่า 24 ชั่วโมง และค่าออกซิเจนน้อยกว่า94% รักษาฟรีใน รพ.ตามสิทธิ หรือใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาฟรีทุก รพ.ทั้งภาครัฐและเอกชน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|