กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ(ศร.) ประชุมแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการประกาศจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ซึ่งกกต.คิดคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยนำจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรตามที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณวันที่ 31 ธ.ค.ของปีที่ล่วงมามาคิดคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ต่อมามีผู้โต้แย้งและขอให้ผู้ร้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐาน การทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้งนั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่รวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตั้งแต่วันนี้ (3 มี.ค.) เป็นต้นไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา
จากคำวินิจฉัย จะมีผลให้ กกต.จะต้องมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ โดยจะต้องไม่นำผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวนณ เบื้องต้นการคำนวณใหม่จะทำให้ 8 จังหวัดมีความเปลี่ยนแปลง คือ 4 จังหวัด มีจำนวน ส.ส.ลดลง ได้แก่ ตากเชียงราย เชียงใหม่ และ สมุทรสาคร
ส่วนจังหวัดที่จำนวน ส.ส. เพิ่ม คือ อุดรธานี ลพบุรี นครศรีธรรมราช และ ปัตตานี และจากการคำนวนโดยนำเฉพาะจำนวนราษฎรสัญชาติไทยทั่วประเทศ 65,106,481 หารด้วย 400 เขต จะมีค่าเฉลี่ยประชากรต่อ 1 เขต ที่ 162,766 คน(เดิมค่าเฉลี่ยที่นับรวมบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย คือ 165,226 คนต่อเขต)
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|