กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ด่าขรม-ขาดตลาด ไข่มาร์ค จ่อขยับราคาอีก!
หน้าฟาร์ม-ฟอง3บาท ต้องเข้าคิวแย่งกันซื้อ นม-ปุ๋ย-ปลาป๋องก็ขึ้น พาณิชย์รับ-อั้นไม่อยู่
นายก ไก่ไข่ ยอมรับปัญหาไข่ไก่ขาดตลาด เพราะผลผลิตลดน้อยลงถึง 2 ล้านฟอง/วัน คาดอีกไม่นานราคาหน้าฟาร์มขยับขึ้นแตะฟองละ 3 บาท จากปกติ 2.80 บาทต่อฟอง ติงรบ.ถ้าจะมาควบคุมต้องดูแลเรื่องอาหารสัตว์ด้วย เนื่องจากราคาขึ้นสูงจนกระทบต้นทุนผู้เลี้ยง ด้านพ่อค้า-แม่ค้า ต้องแห่ไปเข้าคิวถึงหน้าฟาร์มเพื่อขอซื้อ แต่ก็ได้ปริมาณที่น้อยลงจนทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น แม่ค้าตลาดยิ่งเจริญบ่นพึมของมีน้อยจนแทบไม่พอขาย ปลัดพาณิชย์ยันไม่แทรกแซงราคา เพราะเป็นไปตามกลไกตลาด อ้างไข่ขาดตลาดยังมีหมู-ไก่ เป็นโปรตีนทดแทน "พรทิวา" เผยพิจารณาให้ปรับราคาสินค้าอีกชุดใหญ่ อาทิ น้ำมันถั่วเหลือง ปุ๋ย นม ปลากระป๋อง และเหล็ก ชาวบ้านจุกอีกข้าวแกง-ก๋วยเตี๋ยวปรับขึ้นอีก 5-10 บาท เพราะวัตถุดิบขยับราคาเกือบทุกชนิด
ความคืบหน้าปัญหาสินค้าอุปโภค บริโภคมีราคาแพงและขาดตลาด เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เปิดเผย ถึงกรณีที่มีข่าวว่าพ่อค้าไข่ไก่ต้องเข้าคิวแย่งซื้อไข่ไก่หน้าฟาร์มเป็น จำนวนมาก ว่า เป็นผลเกิดจากขณะนี้ไข่ไก่เริ่มขาดตลาด พ่อค้าขายปลีกต้องเข้ามาซื้อไข่ไก่หน้าฟาร์ม มากกว่าระดับปกติ เนื่อง จากขณะนี้ไข่ไก่เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและราคาถูก เป็นสินค้าที่ขายได้กำไรกว่าอาหารโปรตีนชนิดอื่น อาทิ เนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อปลา ที่มีราคาสูง
"ประกอบกับปริมาณไข่ไก่ทั่วประเทศปรับลดลง 10% ทำให้ขณะนี้ไข่ไก่หายจากระบบ 2 ล้านฟอง จากปกติไข่ไก่ในระบบจะต้องมีปริมาณ 27 ล้านฟอง ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตไข่ไก่ในตลาดน้อยลง พ่อค้าขายปลีกจึงต้องแย่งซื้อ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าปริมาณไข่ไก่สดในตลาดยังไม่ขาดแคลน แม้ความต้องการบริโภคจะสูงขึ้น อีกทั้งธรรมชาติของไข่ไก่จะออกทุกวันอยู่แล้ว" นายมาโนช กล่าว
นายก สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวอีกว่าสำหรับแนวโน้มราคาไข่ไก่ช่วงนี้อาจจะมีปรับขึ้นบ้างเนื่องจากผล ผลิตลดลง และสวนทางกับความต้องการที่สูงขึ้น โดยราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มคาดว่าจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3 บาทต่อฟอง จากปัจจุบันที่ราคา 2.80-2.85 บาทต่อฟอง แต่จะปรับขึ้นจริงหรือไม่นั้นอาจจะต้องรอดูปริมาณการบริโภคในช่วงปิดเทอมว่า จะมีปริมาณลดลงมากน้อยเพียงใด หากลดลงไม่มากก็อาจทำให้ราคาไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้น
นายมาโนช กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามหากราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับขึ้นเป็น 3 บาทต่อฟอง เป็นผลที่เกิดจากแนวโน้มความต้องการสูงขึ้น รวมทั้งผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากรัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซงราคาไข่ไก่ก็ต้องถามว่ารัฐจะได้ประโยชน์อะไร และจะเป็นการเข้ามาแทรกแซงเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือเปล่า มองว่าหากรัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซงราคาไข่ไก่ รัฐบาลเองก็จะต้องเข้ามาแทรกแซงอาหารสัตว์ด้วย เนื่องจากขณะนี้มีราคาสูงขึ้นกิโลละ 1 บาท จากปกติอยู่ที่ 11-12 บาทต่อก.ก. ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 12-13 บาทต่อก.ก. ทำให้ต้นทุนไข่ไก่หน้าฟาร์มขายปลีก เฉลี่ยก.ก.ละ 47 บาท ปรับตัวสูงขึ้นถึงเฉลี่ยก.ก. ละ 50-52 บาท
"อย่าง ไรก็ตามไข่ไก่เป็นสินค้าที่ออกทุกวัน ทำให้การขึ้นราคาเป็นเรื่องยากกว่าสินค้าชนิดอื่น แต่เชื่อว่าต่อจากนี้ไข่ไก่อาจจะขยับขึ้นราคาอีก 1-2 ครั้ง จากราคาปกติ ส่วนปัจจุบันราคาขายปลีกเบอร์ 0 อยู่ที่ราคา 3.40 บาท เบอร์ 1 อยู่ที่ราคา 3.30 เบอร์ 2 อยู่ที่ราคา 3.20 เบอร์ 3 อยู่ที่ราคา 3.10" นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าว
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าถึงสิ้น เดือนมี.ค.นี้ แต่ยอมรับว่ามีผู้ประกอบการบางรายทยอยขอปรับขึ้นราคาสินค้ามาแล้ว เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ปุ๋ยเคมี นมสด รวมถึงเหล็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาจากวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศที่มี ราคาสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์ให้กรมการค้าภายในพิจารณาโครงสร้างต้นทุนทั้งหมด และให้พิจารณาความจำเป็นในการปรับราคาสินค้าเป็นรายๆ ไป ตามความเหมาะสม แต่หากสินค้าใดที่ต้นทุนสูงขึ้นไม่มากและยังมีการแข่งขันสูง อาจจะยังไม่ปรับราคา ทั้งนี้หากปรับขึ้นราคาจะต้องชี้แจงต้นทุนการปรับขึ้นต่อสาธารณชนให้เกิด ความเข้าใจด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าการปรับขึ้นราคาสินค้า อาจจะพิจารณาปรับขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของรายการสินค้าทั้งหมด
นาง พรทิวา กล่าวอีกว่า ส่วนมติคณะกรรม การนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ให้โรงกลั่นรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ จำนวน 40,000 ตัน และให้ชะลอการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยการชดเชยจะคำนวณจากราคาน้ำมัน ปาล์มดิบในตลาดโลกที่มาเลเซียบวกเพิ่มลิตรละ 2.50 บาท เพื่อให้สามารถจำหน่ายในราคาไม่เกินลิตรละ 47 บาท ทั้งนี้ใน้ำมันปาล์มดิบแยกไขล็อตแรกจำนวน 30,000 ตัน นำเข้ามาครบแล้วเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา จัดสรรให้กับสมาชิกโรงกลั่น 10 แห่ง เร่งผลิตน้ำมันพืชปาล์มบริโภค วันละ 2.5 ล้านลิตร จากความต้องการปกติวันละ 1 ล้านลิตร เพื่อให้สามารถกระจายน้ำมันพืชปาล์มไปถึงมือประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง มากที่สุด และขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย รวมทั้งผลผลิตปาล์มน้ำมันภายในประเทศออกสู่ตลาดมากขึ้น ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าน้ำมันพืชปาล์มมีเพียงพอต่อความต้องการแน่นอน
ส่วน ปัญหาเรื่องราคาข้าวนั้น รมว.พาณิชย์กล่าวว่า สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมการค้าภายใน ตรวจสอบและดูแลปัญหาการเอาเปรียบชาวนารวมถึงการกดราคารับซื้อข้าวจากผู้ ประกอบการโรงสี ซึ่งให้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องการติดป้ายแสดงราคารับซื้อ การตรวจสอบความชื้น อย่างไรก็ตามหากเกษตรกรพบปัญหาการเอาเปรียบให้แจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้า ภาย ใน 1569 พร้อมกันนี้กระทรวงพาณิชย์ พร้อม ที่จะใช้มาตรการเข้าไปรับซื้อข้าวจากเกษตรกรโดยตรงหากราคาข้าวตกต่ำ แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าว นอกจากนี้ภายในกลางเดือนนี้ ทางสำนักชั่งตวงวัดจะออกตรวจเครื่องชั่งทั่วประเทศเพื่อป้องการเอารัดเอา เปรียบชาวนา และให้เครื่องชั่งได้มาตรฐานที่ถูกต้องตามกำหนดของกรมค้าภายใน
นาง พรทิวา กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีสินค้าที่เตรียมขอปรับราคาเข้ามายังกระทรวงเพิ่มเติมอีก 1 รายการ คือ กลุ่มเหล็ก จึงได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำเหล็กไปดำเนินการ ส่วนสินค้าปลากระป๋องนั้นยอมรับว่ามีต้นทุนขึ้นจากเหล็กที่ใช้ทำกระป๋อง (ทินเพลต) ราคาแพงขึ้น แต่ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นยังไม่เกินเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนด
นาง วัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาอาหารปรุงสำเร็จในตลาดสด และห้างค้าปลีกทั่วไป เพื่อความร่วมมือจัดทำเมนูอาหารราคาไม่เกิน 25 บาท/จาน ไว้เป็นทางเลือก หลังจากที่ราคาอาหารจานด่วนมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจาก วัตถุดิบสูงขึ้น ซึ่งกรมคงไม่สามารถไปตรึงราคาอาหารจานด่วนได้ เพราะต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงจริง ดังนั้นจึงต้องปล่อยให้กลไกตลาดทำงานปกติ แต่จะไม่ให้ฉวยโอกาสขายเกินราคาที่เหมาะสม
รายงานข่าวจากกระทรวง พาณิชย์ แจ้งว่า ราคาอาหารจานด่วนในตลาดทั่วไปได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นจากจานละ 30-35 บาท/จาน เป็น 40 บาท/จานแล้ว เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปาล์ม ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง ราคาปรับเพิ่มขึ้นหมดเมื่อเทียบกับราคาช่วงปี ที่ผ่านมา และสำหรับสินค้าจำนวน 10% ที่กระทรวงพาณิชย์จะให้ปรับขึ้นราคาได้แก่ เหล็ก แบตเตอรี่ ยางรถยนต์ นมสดพร้อมดื่ม ปุ๋ยเคมี สบู่ น้ำมันถั่วเหลือง
นาย ยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิด และหากพบว่าปริมาณไข่ไก่ลดลงเองตามธรรมชาติ ทางกระทรวงพาณิชย์เองก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกไม่เข้าไปแทรกราคา เพราะมองว่าให้เป็นการปรับสมดุลของราคาไข่ไก่ ซึ่งจากช่วงก่อนหน้านี้ที่ผลผลิตไข่ไก่ออกมากส่งผลทำราคาไข่ไก่ถูกลง จนทำให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ปลดแม่ไก่ยืนกรงไปจำนวนมาก
"ยอมรับว่าราคาไข่ ไก่ปรับเพิ่มเฉลี่ยราคาฟองละ 10-20 สตางค์ อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้รับรายงานว่าไข่ไก่เกิดปัญหาขาด แคลนในตลาด แต่หากเกิดปัญหาขาดแคลนจริงก็เป็นเรื่องยากที่จะเร่งผลผลิตไข่ไก่ให้ออกมาก ขึ้น ทั้งนี้มองว่าไข่ไก่ขาดไม่น่าจะกระทบต่อผู้บริโภคมากนัก เนื่องจากยังมีแหล่งอาหารที่เป็นโปรตีนชนิดอื่นทดแทนได้ อาทิ ไก่ หมู อย่างไรก็ตาม การดูแลปริมาณผลผลิตไข่ไก่ในประเทศเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้กบอร์ด) ที่จะต้องติดตามดูแล" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.พระนคร ศรีอยุธยา ว่า มีพ่อค้าแม่ค้านำรถกระบะจำนวนมากมาต่อแถวที่หน้ากรรณสูตรฟาร์ม เป็นฟาร์มผลิตไข่ไก่ขนาดใหญ่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา อัตราการผลิตวันละกว่า 1 ล้านฟอง หลังจากเกิดกระแสข่าวไข่ไก่เริ่มขาดตลาดและจะมีราคาแพงมากขึ้น โดยนายเสน่ห์ กรรณสูตร เจ้าของกรรณสูตรฟาร์ม กล่าวว่า มีพ่อค้าแม่ค้าคนกลางขาประจำมากันจำนวนมาก ความต้องการไข่มีมากกว่าจำนวนไข่ที่ผลิตได้ในแต่ละวัน ต้องแก้ ไขปัญหาด้วยการกระจายจำนวนไข่ให้ทั่วถึง โดย ปกติรถกระบะ 1 คัน จะมาซื้อไข่จำนวนบรรทุก เต็มที่ได้ 36,000 ใบ แต่เมื่อมีไข่น้อยก็เฉลี่ยกันไป โดยได้ไปประมาณรายละ 25,000 ฟองหรือน้อยกว่านั้น ทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น เชื่อ ว่าท้ายที่สุดพ่อค้าแม่ค้าคนกลางก็อาจต้องขยับราคาไข่ขึ้นอีก
นายไกร สิทธิ์ จันทร์สองดวง อายุ 31 ปี พ่อค้าไข่ไก่จากตลาดประตูน้ำพระอินทร์ จ.พระ นครศรีอยุธยา กล่าวว่า มารับไข่ไก่ไปขายต่อโดยซื้อในราคาฟองละ 2.80 บาท ซึ่งเป็นราคาเท่าเดิม แต่ไม่สามารถซื้อไข่ได้เต็มรถกระบะเพราะไข่ไก่มีน้อย ซื้อได้เพียง 25,000 ฟอง/ เที่ยวเท่านั้น แต่ต้นทุนการขนส่งและค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังเท่าเดิม ดังนั้นทำให้ต้นทุนต่อฟองเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และคาดว่าอีกไม่นานคงต้องขอขึ้นราคาส่งบ้าง
นายเพลิน โอกาส อายุ 63 ปี พ่อค้าไข่ไก่จากพระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่มาเข้าคิวแต่เช้ามืด กล่าวว่า ซื้อไข่ไก่ใบละ 2.80 บาท นำไปขายต่อราคา 3.00 บาท และพ่อค้าแม่ค้าปลีกขายใบละ 3.50 บาท แต่เมื่อไข่ไก่ขาดตลาด และมาซื้อในแต่ละเที่ยวก็ได้น้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ เท่ากับซื้อไข่บรรทุกเต็มคันรถ ทำให้ต้นทุนต่อฟองเพิ่มขึ้น เชื่อว่าต่อไปไข่จะต้องแพงขึ้นและอาจขาดตลาด เพราะความต้องการของผู้บริโภคในช่วงนี้ยังเท่าเดิมแต่ของมีน้อยลง
วัน เดียวกันผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สังเกตการณ์จากผลกระทบปัญหาเรื่องไข่ไก่ขาด ตลาด ที่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ พบว่าตามร้านขายไข่ไก่ มีจำนวนไข่ไก่หายไปเกือบครึ่ง บางร้านถึงกับต้อง ปิดร้านเพราะไม่มีไข่ไก่จำหน่าย น.ส.ปัทมาพร ยอดสันติ เจ้าของร้านสมบัติไข่ไก่ ไข่เป็ด บอกว่า ช่วงนี้ไข่ไก่ขาดตลาดมาก วันหนึ่งขาดไปประมาณ 10-20 แผง แต่จะขาดเพียงบางวัน บางเบอร์เท่านั้น ซึ่งทางร้านอาจจะไม่ได้รับผลกระทบเท่ากับร้านค้าไข่ไก่ที่จำหน่ายไข่ไก่แบบ ส่ง แต่ดีที่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมซึ่งปกติไข่ไก่ก็จะขายได้น้อยลงอยู่แล้ว
ด้าน น.ส.วรางค์ภรณ์ ศิริแก้วนพภาคุณ เจ้า ของร้านสมใจไข่ บอกว่า การที่ไข่ไก่ขาดตลาดนั้นส่งผลกับร้านเป็นอย่างมาก เพราะขาดไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนที่รับเข้ามาในแต่ละวัน ทำให้รายได้ลดน้อยลงทั้งที่ค่าใช้จ่ายยังเท่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าร้าน ค่าจ้างลูกน้อง เมื่อเวลาไปติดต่อซื้อจากฟาร์มในช่วงเวลานี้ ทางฟาร์มจะไม่ให้เครดิตในการซื้อเป็นเงินเชื่อแล้ว แต่ต้องซื้อเป็นเงินสดเลยเพราะไข่ไก่มีจำนวนจำกัด ซึ่งทางฟาร์มจะแบ่งให้กับลูกค้ารายอื่นด้วย ประ กอบกับลูกค้าที่ไม่สามารถหาซื้อไข่ไก่ในตลาดเล็กๆ ก็ต้องเข้ามาซื้อที่ตลาดแห่งนี้ ทำให้การจำหน่ายไข่ไก่ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
น.ส.สมใจ มหาชน เจ้าของร้านบ๊วยไข่ไก่ ไข่เป็ด บอกว่า ตอนนี้ปัญหาไข่ไก่ขาดตลาดทำให้โดนลูกค้าต่อว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าไม่เข้าใจถึงต้นเหตุที่ทำให้ไข่ไก่ขาดตลาด ทุกวันนี้ได้ไข่ไก่มาเพียงครึ่งหนึ่งของที่เคยได้ในแต่ละวัน และส่วนใหญ่ต้องเก็บให้ลูกค้าประจำ ต้องปฏิเสธการขายให้กับลูกค้าขาจร ทำให้มีรายได้น้อยลงกว่าเดิมมาก อยากจะฝากให้ใครก็ได้รัฐบาลไหนก็ได้ที่ทำงานเป็น พร้อมจะช่วยเหลือประชาชนสามารถหาแนวทางแก้ไขให้ได้ หากประชาชนอยู่รอด ก็จะทำให้ประเทศชาติอยู่รอดเช่นกัน
น.ส.พรพรหม พูลสวัสดิ์ เจ้าของร้านเต้ไข่ไก่ ไข่เป็ด บอกว่า ปัญหาของไข่ไก่ขาดตลาดนั้นน่าจะมาจากหลายๆ ด้านมารวมกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นมีปัญหาเรื่องการขอขึ้นราคาไข่ไก่จากฟาร์ม แต่ทางรัฐบาลไม่ชัดเจนในเรื่องของการกำหนดราคา โดยพยายามควบคุมราคาไม่ให้ขึ้น ตั้งแต่เป็นแม่ค้าขายไข่ไก่มา 20 กว่าปี ก็ยังไม่เคยประสบปัญหาไข่ขาดตลาดมากขนาดนี้ อย่าง มากก็ขาดตลาดแค่ 10-20 เปอร์เซ็นต์ของยอดจำหน่ายทั้งหมด การสั่งซื้อไข่ไก่จากฟาร์มก็มีปัญหา เพราะได้ไข่ไก่เป็นจำนวนที่ไม่แน่นอน บางครั้งทางฟาร์มถึงกลับต้องเลื่อนวันการส่งไข่ด้วย จนทำให้โดนลูกค้าต่อว่าเกือบทุกวัน
ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.พิษณุโลก มีกลุ่มชาวนาจากอ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และชาวนาจากจ.สุโขทัย มารวมตัวกันยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าฯ พิษณุโลก โดยมีกลุ่มชาวนาประมาณ 400-500 คน ตั้งเวทีปราศรัยถึงการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนของรัฐบาลโต๊ะละ 2 ล้านบาท แต่ชาวนาขอราคาข้าวเพิ่มอีก 1,000 บาทเท่านั้น ต่อมานายปรีชา ลงมาพบกับชาวนา พร้อมขึ้นเวทีรับหนังสือเรียกร้องของเกษตรกรชาวนา พร้อมกับไข่ต้ม 1 ถุง โดยผู้ว่าฯ รับปากจะดำเนินการส่งหนังสือไปถึงท่านนายกฯ จากนั้นแกนนำกล่าวเพิ่มเติมว่าหากภายใน 7 วัน ผลสรุปยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทางกลุ่มชาวนาจะเดินทางมาอีกครั้ง โดยคราวหน้าจะมามากเพิ่มขึ้น และหากไม่ได้รับการตอบสนองจะปิดถนนทันที
ที่จ.น่าน เกษตรกรผู้ปลูกพริก จากอำเภอท่าวังผา, อำเภอปัว และอำเภอเวียงสา กว่า 200 คน มาชุมนุมที่บริเวณศาลากลางจังหวัดน่าน เรียกร้องให้ทางจังหวัดช่วยเหลือหลังราคาพริกสดตกต่ำ โดยนำเครื่องขยายเสียงผลัดเปลี่ยนกันขึ้นพูดถึงปัญหาที่เกษตรกรเดือดร้อน นายธนาชัย ปะทิ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกพริก กล่าวว่าขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกพริกกว่า 3,000 ราย โดยเฉพาะที่อำเภอท่าวังผา ที่ปลูกพริกมากที่สุดในจังหวัดน่าน รวม 2,831 ไร่ ผลผลิตประมาณ 7,000 ตัน กำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากราคาพริกตกต่ำมาก โดยพ่อค้าและโรงงานรับซื้อเพียงกิโลกรัมละ 3 บาท จากปีที่แล้ว 8 บาท ขณะที่ต้นทุนการปลูกสูงขึ้นตกกิโลกรัมละ 9 บาท
ต่อมานายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าฯ น่าน เข้าพบเกษตรกรเพื่อรับฟังความเดือดร้อน พร้อมกับให้เกษตรกรสรุปความต้องการที่ให้ช่วยเหลือและส่งตัวแทนเข้าร่วม ประชุมกับจังหวัด โดยกลุ่มเกษตรกรเรียกร้องให้ช่วยเหลือ 4 ข้อ ประ กอบด้วยซื้อพริกสดในราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท, รับจำนำพริกแห้งจำนวน 500 ตัน, ระงับการนำเข้าพริกต่างประเทศ 6 เดือน และให้รัฐชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพริกไร่ละ 1 หมื่นบาท
นายเจน ณรงค์ ศรีอินทร์ การค้าภายในจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ทางจังหวัดตราดได้รับจัดสรรน้ำมันพืชจุกสีชมพู 2 ครั้ง ปริมาณ 20,000 ลิตร ซึ่งคิดว่าไม่น่ามีปัญหาในเรื่องของการขาดแคลน เพราะขณะนี้มีน้ำมันกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัดเพียงพอต่อความต้องการของ ประชาชน
ที่มา ข่าวสด
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
