แม่ผวา! ลูกดื่มชาเขียวชื่อดัง เจอเศษเนื้อในกล่อง
แม่ แจ้งสื่อลูกน้อยวัย 8 ขวบ ดื่มน้ำชาเขียวยี่ห้อดัง พบวัตถุคล้ายเศษชิ้นเนื้อลอยอยู่ในกล่อง ด้านบริษัทชาเขียวยังมึนไม่รู้ว่าเป็นอะไร เก็บตัวอย่างเข้าห้องแล็บเตรียมตรวจสอบ
(25 มิ.ย.)เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก
นางอริสรา วิทิตโชติปรีดา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/147 หมู่ 2 ซอยบางแสนสอง ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ออกมาซื้อน้ำชาเขียวบรรจุกล่องยี่ห้อหนึ่ง จากร้านขายของชำซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 100 เมตร เพื่อเอามาให้
ด.ญ.อิสริยา วิทิตโชติปรีดา บุตรสาววัย 8 ขวบดื่ม ตามปกติทุกวัน แต่ในวันนั้นเมื่อบุตรสาวตนได้ใช้หลอดดูดน้ำชาเขียวไปได้ประมาณครึ่งกล่อง ก็มาบอกกับตนว่า
วันนี้ทำไมรสชาติของน้ำชาเขียว รสชาติแปลกๆ มีเศษชิ้นเนื้อปะปนออกมาด้วย ตนจึงเอาลองดื่มดูก็พบเป็นเรื่องจริงอย่างที่ลูกสาวบอก จึงเอากล่องกล่องชาเขียวดังกล่าวมาให้เจ้าร้านขายของชำดู เ
มื่อฉีกกล่องออกมาพบวัตถุบางคล้ายเศษชิ้นเนื้ออะไรบางอย่างลอยอยู่ภายในกล่อง เป็นแผ่นขนาด 3 x 2 เซนติเมตร
และยังมีเศษชิ้นเนื้อเล็กปะปนอยู่ในน้ำชาเขียวจำนวนมาก
หลังจากวันนั้นมาบุตรสาวตนก็มีอาการท้องเสีย แต่อาการไม่รุนแรง ตนจึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากน้ำชาเขียวกล่องดังกล่าวอย่างแน่นอน จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จ.สมุทรปราการ ว่าส่วนใหญ่ในน้ำชาเขียวที่บรรจุอยู่ในกล่องจะมีวัตถุอะไรปนอยู่หรือไม่ ซึ่งทาง อย.ได้ตอบมาว่าหากเป็นน้ำชาเขียว ไม่ว่าจะเป็นรสอะไรก็ตาม จะต้องเป็นน้ำที่บริสุทธิ์ ไม่มีวัตถุอื่นเจือปน ตนจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ทางบริษัท ที่ผลิตน้ำชาเขียวยี่ห้อดังกล่าวทราบ ซึ่งทางบริษัทก็ได้ส่งพนักงานมาเก็บน้ำชาเขียวกล่องดังกล่าวไป โดยบอกว่าจะเอาน้ำชาเขียวไปให้ห้องแล็บของบริษัททำการตรวจสอบว่าวัตถุดัง กล่าวเป็นอะไร และเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะรู้ผล
ด้าน
นางภณิตา พรมรักษา อายุ 31 ปี เจ้าของร้านขายของชำดังกล่าว บอกว่า สิ่งที่มันปนอยู่ในน้ำชาเขียวที่บรรจุอยู่ในกล่องนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร เพราะตนได้สั่งของผ่านทางเอเยนต์ที่จำหน่ายน้ำชาเขียวยี่ห้อดังกล่าวให้มา ส่งครั้งละไม่เกิน 2 แพ็ค เอามาใส่ตู้แช่ขาย ซึ่งน้ำชาเขียวกล่องดังกล่าว ก็ยังมีน้ำชาเขียวที่อยู่ในแพ็คเดียวกันอยู่ ตนได้ลองฉีกกล่องให้ลูกค้าดู ก็ไม่พบว่ามีวัตถุอะไรแปลกปลอมปะปนอยู่แต่อย่างใด เชื่อว่าความผิดพลาดน่าจะเกิดมาจากโรงงานที่ผลิตอย่างแน่นอน
