• คตส.ลงดาบเชือด “ทักษิณ” เอื้อประโยชน์แก่บ.ชินคอร์ปฯ |
โพสต์โดย ทีมข่าว , วันที่ 08 พ.ค. 50 เวลา 23:34:25 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(สตง.)
ซึ่งเป็นที่ทำการของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
(คตส.) ว่า เมื่อเวลา 19.00 น.
นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. พร้อมด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส.
ได้ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุม คตส.ชุดใหญ่ โดยนายแก้วสรร กล่าวว่า
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตั้งข้อกล่าวหา และตั้งคณะกรรมการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เอื้อประโยชน์ต่อกิจการในเครือบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กรณีแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
เลขานุการ
คตส. กล่าวว่า ที่ประชุม คตส.เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ
ใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 สมัย
เอื้อประโยชน์ต่อกิจการชินคอร์ปฯ หลายประการ
โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าหุ้นบริษัทชินคอร์ปฯ จากผลการตรวจสอบพบว่า วันที่
ครม.มีมติให้แปรสัญญาณ ราคาหุ้นชินคอร์ปฯ กระโดดขึ้นทันที
ซึ่งผู้ถือหุ้นในบริษัทชินคอร์ป 49% อยู่ในชื่อของครอบครัวชินวัตรทั้งสิ้น
เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเครือชินคอร์ปฯ ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 5
หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังผลักภาระให้ประชาชน
และเป็นการทำลายระบบโทรคมนาคมเสรี
ผู้ประกอบการรายใหม่ไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้
“จะเห็นได้ว่า
ในวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่งครั้งแรก หุ้นชินคอร์ปฯ มีรายได้รวม 2
หมื่นล้านบาท แต่ 5 ปีผ่านไปกลับมีมูลค่าสูงถึง 7.33 หมื่นล้านบาท
อยากถามว่า ส่วนต่าง 5 หมื่นล้านบาท เอามาจากไหน
ตรงนี้ใช่หรือไม่ที่เป็นผลประโยชน์ที่ใช้อำนาจสร้างขึ้นโดยผิดกฎหมาย
ถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย” นายแก้วสรร กล่าว
ส่วนอีกเรื่องที่ประชุม
คตส. มีมติชี้มูลความผิดในโครงการบ้านเอื้ออาทร เพิ่มอีก 1 คดี
หลังจากเมื่อเดือนมีนาคมได้ชี้มูลความผิดไปแล้ว 1 คดี โดยเป็นการชี้มูลความผิดโครงการร่มเกล้า-บางพลี ทั้งนี้
คตส.มีมติให้ดำเนินคดีกับนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์
อดีตผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กับพวกรวม 12 ราย
กล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทผู้รับเหมา
ถือเป็นความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ส่วนบริษัทเอกชน
จะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดของบุคคลข้างต้น ตาม
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การของรัฐ มาตรา 3 มาตรา 8 และ มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
ทั้งนี้
คตส.ให้เหตุผลว่า โครงการร่มเกล้า-บางพลี การเคหะฯ
ได้ขายที่ดินให้กับบริษัทเอกชน ทำให้ได้กำไรถึง 142 ล้านบาท คตส.เห็นว่า
การเคหะฯ ไม่ควรแสวงหากำไรใด ๆ และเป็นการประพฤติที่มิชอบ อีกประเด็นหนึ่ง
คตส.เห็นว่า ค่าก่อสร้างที่แพงเกินจริง 184 ล้านบาท
เป็นกำไรที่บริษัทเอกชนไม่ได้มาจากการลงทุน เพราะมีเจ้าหน้าที่ของการเคหะฯ
คอยช่วยเหลือในการซื้อที่ดิน บ่งบอกถึงการทำสัญญาซื้อขายที่จอมปลอม
จนได้มาซึ่งโครงการกำไรเกินสมควร ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว
ทั้งค่าที่ดินเกินจริงและค่าก่อสร้างเกินจริง รวม 326 ล้านบาทนี้
จึงเป็นความเสียหายทางการเงินที่ตกแก่รัฐและตกแก่ประชาชนผู้บริโภค
ที่ได้บ้านคุณภาพด้อยกว่าเดิม
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประโยชน์ที่ได้ไปจากรัฐโดยมิชอบ
และเป็นความเสียหายที่ตกแก่ประชาชนโดยมิสมควรอย่างชัดแจ้ง
นายแก้วสรร
กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการนี้ ไม่พบรัฐมนตรีที่รับผิดชอบมีความผิด
มีแต่ผู้บริหารระดับสูงของการเคหะฯ และบริษัทเอกชน
ซึ่งจะเสนอตั้งอนุกรรมการไต่สวนในสัปดาห์หน้า
ที่มา www.thairath.co.th/
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 2956 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ทีมข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 08 พ.ค. 50
เวลา 23:34:25
|