มาตรา 237 และมาตราอื่นๆ เพื่อปลดล็อค แต่ก็ถูกปฏิเสธจากพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ว่า กันตามความจริง การเจรจากันมิได้มีอะไรเป็นอุปสรรค เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังโฟนอินมาคุยกับแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านสะพานพระราม 7 ได้ และโทรศัพท์คุยกับใครต่อใครอยู่ทุกวี่ทุกวัน ทำไมจะคุยกับนายสุเทพไม่ได้ ในช่วงที่พันธมิตรเข้าไปยึดทำเนียบเป็นที่ชุมนุม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีก็ยังโทรศัพท์พูดคุยกับแกนนำพันธมิตร โดยที่ไม่มีใครคิดว่าจะพูดคุยกันได้ ปัญหาอยู่ที่ว่า ฝ่ายรัฐบาลโดยนายสุเทพมีความกล้าที่จะรับฟังข้อเสนอจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก็เคยพูดมาแล้วและปัจจุบัน ส.ส.พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงก็พูดกันอยู่หรือไม่ เพราะอาจจะถูกคนในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย โดยประเมินว่าพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง "ไม่มีน้ำยา" ในการต่อสู้เพื่อจะนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยโดยไม่ต้องรับโทษทัณฑ์
ตราบ เท่าที่นายสุเทพหรือนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นองค์กรทางการ เมืองและเป็นแกนนำรัฐบาลเห็นว่า สถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรง ไม่เกิดสงครามมวลชนที่คนไทยฆ่าฟันกันเองหรือแม้แต่ไม่มีวันเกิดการ "สงครามกลางเมือง" การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีก ก็ไม่จำเป็นต้องยื่นไมตรีไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถ้าในอนาคตข้างหน้า คนไทยแตกแยกไปมากกว่านี้ เศรษฐกิจก็ตกต่ำย่ำแย่ บ้านเมืองไม่มีความสุขสงบ ถึงตอนนั้นหวังว่าคงจะไม่มาเถียงกันว่าเป็นความผิดของใครและอย่าได้เสียดาย ที่ทำไมในช่วงสถานการณ์ไม่เลวร้าย การพบปะพูดจากันจึงไม่เกิดขึ้น
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01edi01040952§ionid=0102&selday=2009-09-04