กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ความอ่อนหัดของประชาธิปัตย์
วันนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังพาประเทศไทยเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง เรากำลังนำเงินสำรองที่มีอยู่ไปต่อสู้กับตลาดเงินตราอีกครั้ง
เพราะ ถ้าตรวจสอบจากเม็ดเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปแทรกแซงค่าเงินไม่ให้แข็งค่า
ผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้าจนฐานะฟอร์เวิร์ ดสุทธิเพิ่มมาอยู่ที่ 15,100 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินแข็งค่าจาก 36 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ธปท.
จะขาดทุนราวๆ 35,000-40,000 ล้านบาท
ในอนาคต ธปท. มีภาระ 2 ด้าน ถ้าไม่ขาดทุนน้อยลงก็ขาดทุนมากขึ้น
//////////////////////////////////////////////////////
จนถึงวันนี้การล้มละลายของประเทศไทยเมื่อปี 2540 ที่เรียกกันว่าวิกฤตต้มยำกุ้งยังไม่คลายจากความทรงจำ
เพราะครั้งนั้นวิกฤตที่เกิดขึ้นมาจากการที่เรานำเงินทุนสำรองที่มีอยู่ไป ต่อสู้กับกองทุนของนายจอร์จ โซรอส
หรือฉายาพ่อมดทางการเงินของโลก
ครั้งนั้นเล่นเอาประเทศไทยเงินทุนสำรองหมดเกลี้ยง หนี้สินเกิดขึ้นมากมาย
เพราะการที่เราต้องการพยุงค่าเงินให้อยู่ที่ 25 บาทต่อดอลลาร์ ประเทศไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทยหมดเงินไป
ไม่ รู้เท่าไรต่อเท่าไรจากการ ตัดสินใจครั้งนั้น ตามมาด้วยการล้มครืนของธุรกิจทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน บริษัทห้างร้าน โรงงาน คนตกงานนับแสนนับล้านคน ยังคงเป็นเหมือนฝันร้ายที่หลอกหลอนเรามาจนถึงวันนี้
วันนี้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังพาประเทศไทยเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง เรากำลังนำเงินสำรองที่มีอยู่ไปต่อสู้กับตลาดเงินตราอีกครั้ง
เพราะ ถ้าตรวจสอบจากเม็ดเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปแทรกแซงค่าเงินไม่ให้แข็งค่า
ผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้าจนฐานะฟอร์เวิร์ ดสุทธิเพิ่มมาอยู่ที่ 15,100 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินแข็งค่าจาก 36 บาทต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ธปท.
จะขาดทุนราวๆ 35,000-40,000 ล้านบาท
ในอนาคต ธปท. มีภาระ 2 ด้าน ถ้าไม่ขาดทุนน้อยลงก็ขาดทุนมากขึ้น
สิ่งที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวก็คือ ทุกวันนี้ ธปท. นำเงินออกไปต่อกับสู้ค่าเงินดอลลาร์คิดเป็นจำนวน 400 ล้านบาทต่อวัน
หรือเดือนละ 12,000 ล้านบาท เพื่อต้องการพยุงค่าเงินไม่ให้อ่อนตัวลงไปมากกว่านี้ เพราะหากอ่อนตัวลงไปมาก
จะส่งผลร้ายต่อผู้ส่งออก แต่กลับลืมไปว่าการที่ทำเช่นนี้สักวันเงินกองทุนสำรองที่มีอยู่จะลดลงตามไป ด้วย
โดยมีรายงานข่าวว่าปัจจุบันนี้เงินทุนสำรองของประเทศลดลงไปมากกว่าครึ่ง
นัย ว่าต่อไปนี้หากเงินทุนสำรองลดลงไปขนาดนี้ ในขณะเดียวกันหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมาเป็น 60% ของจีดีพี
ถือว่าสูงสุด อันนี้มาจากการกู้เงินแบบบ้าระห่ำของรัฐบาลที่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่ม ขึ้น นอกจากนี้
เมื่อเงินทุนสำรองลดลงไปซ้ำเติมอีก ต่อไปหนี้เราจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
รัฐบาลไม่เคยออกมาบอกเลยว่าฐานะ ทางการเงินการคลังกำลังอยู่ในสถานะไหน และต้องเตรียมตัวเช่นไร
รัฐบาลเพียงแต่ออกมาบอกว่าเรามาถูกทางแล้ว
แต่ในความเป็นจริงคือไทยเราใกล้เจ๊ง นี่คือความจริง
อีก ไม่นานจะเป็นการล้มครืนอีกครั้งของแบงก์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน
สถาบันการเงินทั้งหลายใกล้จะจำกัดการให้เงินกู้แล้ว ส่วนบรรดามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายก็ใกล้จะตกงานอีกครั้ง
เพราะสิ่งที่ ธปท. ทำในครั้งนี้ไม่ได้ต่างไปจากครั้งเมื่อปี 2540 แต่อย่างใด
สมัยนั้น ประชาธิปัตย์โจมตี “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นคนทำประเทศพัง
หลังจากนั้นคุณชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ให้กำเนิดตำนานงูเห่าเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี
ก็เอาประเทศไทยไปจำนำกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF จากนั้นเป็นต้นมาไทยก็เข้าสู่ยุคมืด
กลายเป็นประเทศที่ต้องทำตามที่ IMF บงการ
เราเพิ่งมาหลุดพ้นสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เราคืนเงินทั้งหมดให้กับ IMF
แต่ การแทรกแซงค่าเงินโดยใช้เงินมากขนาดนี้นับว่าสุ่มเสี่ยงต่อการขาดทุนในอนาคต
เพราะ ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าอยู่แล้ว ขณะที่ ธปท. ต้องกู้เงินในตลาดซื้อคืนพันธบัตรเพื่อนำมาใช้ในการแทรกแซง แต่การจะนำเงินไปปล่อยกู้ในสหรัฐก็ไม่สร้างผลตอบแทน ซึ่งภาระที่เพิ่มสูงขึ้นมากสะท้อนว่า
ไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงขึ้น โดยในช่วง 8 เดือนแรกเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 14,8000 ล้านดอลลาร์
และจากความจำเป็นที่ต้องดูแลความผันผวนของค่าเงินบาท
ทั้งนี้ การขาดทุนจากการเข้าแทรกแซงค่าเงินเป็นแค่การขาดทุนทางบัญชี ไม่ได้มีการบันทึกขาดทุนจริง ธปท.
ยังมีความจำเป็นต้องแทรกแซงค่าเงินต่อไปอีก ทั้งนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่ามาแล้ว 14%
แต่สำหรับเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น แม้จะเผชิญปัจจัยที่กดดันให้ค่าเงินบาทแข็ง
หากเราใช้เงินขนาดนี้แต่ ยังไม่สามารถที่จะควบคุมค่าเงินได้ ไม่แน่ปลายปีนี้อาจจะได้เห็นวิกฤตการเงินครั้งใหม่
ที่คนไทยต้องรับกรรมจาก การกระทำของแบงก์ชาติและรัฐบาลประชาธิปัตย์อีกครั้ง นึกแล้วเสียวสันหลังจริงๆ
เพราะอีกไม่นาน “มาร์ค” จะทำให้คนไทยรู้จักกับ IMF อีกครั้ง
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=29906
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|