|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
คุณ พีครับ บทความของคุณพี มีเหตุผลน่ารับฟัง ขออนุญาตค้ดลอกมาลงอีกครั้งนะครับ
ข่าวเรื่องที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เปิดประเด็นเรื่อง นครปัตตานี ในครั้งนี้ ซึ่งครั้งก่อน ในสมัยที่ เป็นรองนายกฯในรัฐบาล ทักษิณ พล.อ. ชวลิต ใช้คำว่า นครรัฐปัตตานี แต่ถูกโจมตีอย่างหนัก มาคราวนี้ จึงตัดคำว่า รัฐ ออกไป และพอถูกถามว่า จะแบ่งแยกดินแดนหรือ พล.อ.ชวลิต ก็ตอบว่า”มันจะแบ่งแยกได้อย่างไรล่ะลูก มันก็เหมือนกับนครเชียงใหม่ ที่เรากระจายอำนาจให้กับส่วนท้องถิ่น”
มาวิเคราะห์กันว่าถ้า พล.อ.ชวลิต คิดอย่างที่บอกจริงๆแล้ว เขา ฉลาด หรือว่า โง่กันแน่ จึงคิดอย่างนั้น
ถ้าใครเคยไปเที่ยวภาคใต้ พอเลยสงขลาลงไป เข้าเขต 3 จังหวัด ตั้งแต่ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส เดินเข้าไปในตลาดเช้า เพื่อจะหาของรับประทาน จะรู้สึกได้ทันทีว่า มันแตกต่าง ทั้ง วัฒนธรรมการกิน ทั้ง ความเป็นอยู่ และท่วงทีของคนในท้องถิ่น เพราะกว่า 90%ของพวกเขาเป็นวิถีมุสลิม ที่เคร่งครัดในหลักศาสนา เป็นกลุ่มจังหวัดที่มีกฎหมายอีกรูปแบบหนึ่ง บังคับใช้ซึ่งแตกต่างกันกับจังหวัดอื่นๆ(ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล)
ประเทศไทยในอดีต เมื่อมีข้าราชการกระทำผิดร้ายแรง วิธีการลงโทษรูปแบบหนึ่งคือ ส่งไปอยู่ไกลๆแถวชายแดน ซึ่งโทษหนักคือทำผิดหนักๆ ก็จะถูกส่งลงไป 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้
ธรรมดาคนเลว เมื่อถูกส่งมาอยู่ไกลๆ พอชินกับท้องถิ่นก็ทำความชั่วความเลวอีก ผลก็คือ ราษฎรในท้องถิ่น รับผลร้ายจากการกระทำชั่วนั้น
ด้วยเหตุที่ วิถีชีวิตและวิธีคิด ตามวิถีมุสลิม ที่แตกต่าง ในขณะที่ ผู้มีอำนาจรัฐของไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ พอผู้มีอำนาจลงไปตรวจงาน ด้วยความไม่เข้าใจและไม่คุ้นเคย จึงถูกมองและให้มีสถานะเหมือนกับบุคคลชั้นสอง ประกอบกับ มีข้าราชการชั่วที่ถูกลงโทษส่งมาให้ ทำชั่วซ้ำอีก ผลก็คือ ชาวบ้านส่วนใหญ่ในถิ่นนี้ มองอำนาจรัฐแบบเกลียดชัง ไม่ไว้ใจ จึงเป็นต้นเหตุหลักที่มีปัญหาเรื่อยมา
จนรัฐต้องสร้างเครือข่าย ระบบการข่าว และระบบการจัดการผลประโยชน์และการปกครองให้ลงตัว หรือที่เรียกว่า ศอ.บต. เพื่อให้รู้ข่าวก่อนที่จะมีการสร้างความรุนแรง จึงระงับได้ทัน อีกทั้ง มีระบบการปกครองที่ค่อนข้างให้ความเข้าใจ รวมทั้งมีการจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัว แรงกดดันจากภายในจึงลดลง เป็นผลให้ เหตุการณ์ลดลงมาตามลำดับ ถ้านับตั้งแต่ ยุบนครรัฐปัตตานี ในอดีตให้มีสถานะเป็นเพียง จังหวัดหนึ่งของประเทศไทย
แต่เหตุการณ์กลับมารุนแรงจนยากจะแก้ไขได้ในสมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ด้วยเหตุที่มียุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ถึง2 ยุทธศาสตร์คือ
1.การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจใหม่ เพราะคิดว่า 3จังหวัดจบแล้ว มีแต่โจรกระจอก โดยการยุบ ศอ.บต. แล้วให้ตำรวจเป็นผู้ดูแลท้องที่แทน และที่ผิดหนักเข้าไปอีกคือ เมื่อมีเหตุการณ์ร้าย ตำรวจก็นำตัว สายข่าวเดิม ที่ ศอ.บต.ได้สร้างไว้ มาสอบเพราะคิดว่า เคยอยู่ในระบบการข่าว ย่อมต้องรู้เรื่อง แต่พอสอบแล้วไม่ได้เรื่องก็เกิดความหวาดระแวงว่า คนพวกนี้เสียผลประโยชน์จึงเป็นผู้ก่อความไม่สงบ จึงมีการอุ้มฆ่า สายข่าวมากมาย หลายคนต้องหนีข้ามชายแดนไปมาเลย์ เพื่อรักษาชีวิต ผลก็คือ ในปัจจุบันแม้จะ รื้อฟื้น ศอ.บต.กลับมาใหม่ ก็ยังไม่สามารถลดความรุนแรงลงได้ เพราะระบบการข่าว คนที่เคยหาข่าว ซึ่งสร้างมานับสิบปีก่อนนั้น ไม่เหลือให้ใช้งาน เมื่อไม่มีการข่าวที่ดี จึงไม่รู้ว่าจะระงับเหตุอย่างไร
2.ทักษิณ ร่วมมือกับ จอร์ช บุช ใช้ CIA มาจับตัว ฮัมบาลี ผู้นำ อัลกอร์อีดะ ในระดับต้นๆ ซึ่งใช้ไทยเป็นที่พักผ่อนมาเป็นสิบปีแล้ว พอ ฮัมบาลี ถูกจับโดยรัฐบาลไทย ผลก็คือ ไทยถูกยกระดับให้เป็นประเทศ ศัตรู ของ อัลกอร์อีดะ ทันที
เราจะสังเกตได้ว่า ในสมัยก่อนการก่อการร้ายทุกครั้ง จะเกิดจากขบวนการต่างๆ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ก็จะมีผู้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้กระทำ แต่ปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงวันนี้ ยังไม่รู้เลยว่า ใครเป็นหัวหน้า เพราะรูปแบบการทำงานของ อัลกอร์อีดะ ไม่ใช่เป็นทรงสามเหลี่ยม ที่มีหัวหน้าสูงสุดแล้วลดระดับลงมาเป็นฐานสามเหลี่ยม แต่ อัลกอร์อีดะ ที่ปฏิบัติการทั่วโลกจะใช้รูปแบบดาวกระจาย ใครก็ได้ ที่พร้อมรับงาน แล้วรับค่าจ้างเป็นงานๆ โดยให้ระดับรองๆ ขบวนการในอดีตซึ่งมีอยู่มากมายเป็นผู้จ่ายงานและจ่ายเงิน
ทั้งหมดนี้คือ บริบทของ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.อ. ชวลิต เสนอวิธีการแก้ปัญหาโดยการ ให้มี นครปัตตานี ซึ่งจะเรียกว่าอะไรก็ตาม หรือหาก พล.อ. ชวลิต จะพลิ้วคำพูดไปอย่างไรก็ตามหากโดนสังคมโจมตีอย่างหนัก แต่สิ่งหนึ่ง ที่ พล.อ. ชวลิต จะไม่สามารถพลิ้วได้ คือ ตรรกะที่ว่า ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร มันก็คือเปลี่ยนวิธีการปกครอง หรือจะใช้คำว่า กระจายอำนาจ แบบกรุงเทพมหานคร หรือแบบเมืองพัทยา หรือแบบนครเชียงใหม่ อะไรก็ได้ วิธีการก็คือ ให้คนท้องถิ่น เลือกผู้ปกครองที่จะบริหารจัดการท้องถิ่น ของเขาเอง
คำถามที่ต้องถาม พล.อ. ชวลิต คือ
1.คุณคิดว่า ชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดน เขาชื่นชมยินดีในความเป็นรัฐไทยมากน้อยแค่ใหน
2.คุณคิดว่า ชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดน มีทัศนคติที่ดีต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐไทย มากน้อยแค่ใหน
3.นาย เด่น โต๊ะมีนา ซึ่งเคยเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่ เคยเป็น สส. สว. และมีพี่ชาย เป็น หัวหน้าขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ในมาเลเชีย คุณคิดว่า นายเด่น โต๊ะมีนา ที่เขามาสู่ระบบอำนาจรัฐนั้น เขาเข้ามาเพราะเชื่อมั่นและศรัทธาในระบบอำนาจรัฐของไทย หรือเขาเข้ามาเพราะเขาไม่มีทางเลือก เพราะเขาเห็นว่า ไม่มีกำลังที่จะแบ่งรัฐ การเข้าสู่อำนาจรัฐจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขา
4.หาก ปัตตานี ได้รับการจัดการปกครองใหม่ ตามที่คุณ เสนอ คุณคิดว่า คณะบุคคล ที่จะได้รับเลือกเข้ามาบริหาร ปัตตานี นั้น จะเป็นคนที่มีแนวคิดแบ่งแยกรัฐ หรือว่า คนที่ศรัทธาในระบบรัฐไทย
จากบริบท ที่ผมเล่ามาตั้งแต่ต้น ถึงคนท้องถิ่นส่วนใหญ่ เขารู้สึกอย่างไรกับรัฐไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยแล้ว คงจะพอมองออกว่า คนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาบริหาร ปัตตานี จะเป็นกลุ่มคนกลุ่มใหน มีโครงสร้างในระบบความคิดการเมืองการปกครองอย่างไร
และหากพวกเขามีแนวคิดที่จะแยกรัฐ และเขาได้ อำนาจบริหารและถ้าเขาบริหารดีกว่าปัจจุบัน ประชาชนในท้องถิ่นก็ยิ่งให้น้ำหนัก แก่พวกเขา ศรัทธาพวกเขา คนกลุ่มนั้นก็จะมีพลังมวลชนเกือบทั้ง 3 จังหวัด ภาคใต้ แล้วตอนนั้น รัฐไทย จะใช้อะไรไปต้านทานเขา จะใช้กองทัพไปปราบหรือ หรือจะล้มระบบการเลือกตั้ง แล้วกลับมาใช้ระบบเดิม คิดว่าจะต้าน มวลชนไหวหรือ
ทั้งหมดนี้คือคำตอบว่า พล.อ. ชวลิต มีวาระซ่อนเร้น หรือ เขาปัญญาอ่อนกันแน่ และที่ถูกกล่าวหาว่า คิดแบ่งแยกดินแดน หรือ ขบถต่อแผ่นดินนั้นมีเหตุผลหรือไม่ ก็ลองพิจารณาดูนะครับ
โดย พี pee2525@hotmail.com
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
