ลิงก์ผู้สนับสนุน

ความชัดเจน ของ เสธ.แดง

ใครจะว่า เสธ.แดง – พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล  อย่างไร ก็ตามเถิด    แต่สังคมไทยน่าตระหนักไว้ด้วยว่า  สิ่งที่ เสธ. แดงเสนอต่อ สาธารณชนอยู่ในขณะนี้  เป็นเรื่องที่  “ผู้คุมกำลังของกองทัพ”  ที่คิดว่าตน เองกำลังทำงานเพื่อ   “ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์”  อยู่นั้น  กำลังทำ อะไรกับชาติ  เพราะสิ่งที่พวกท่านกำลังดำเนินอยู่นั้นมันขัดแย้งกับ “ความ เรียกร้องต้องการของประชาชนส่วนใหญ่”  ขัดแย้งกับทิศทางประชาธิปไตย  ที่ ประชาชนประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้  มุ่งหวัง  และปรารถนา  ทั้งนี้ก็เพื่อให้ มนุษย์ทุกรูปทุกท่าน  ได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน
             
             เสธ.แดง  ได้นำเสนอให้เห็นและชี้ว่า  ทุกวันนี้ กองทัพประสบความเสื่อมศรัทธาต่อประชาชน  เพราะ
             
             
             ๑.  ก่อการรัฐประหาร  ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙
             ๒. ไม่ทำตามหน้าที่  หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช (นายก รัฐมนตรีในขณะนั้น)  สั่งให้ทหารออกมารักษาความสงบ  แก้ปัญหาที่พวกเสื้อ เหลืองยึดทำเนียบรัฐบาล
             ๓. ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลกับนักการเมือง
             ๔.  วางแผนปราบคนเสื้อแดงในวันที่ ๑๓  เมษายน ในกรณี “สงกรานต์เลือด”
             ๕.  กรณีที่  พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ซึ่งขณะนั้นยังรับราชการ เป็นที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทยขึ้นเวที พันธมิตรฯ  ทั้งเครื่องแบบนยพล เต็มยศ  ปราศรัยโจมตี  ขับไล่ รัฐบาล (ขณะนั้น) ก็ไม่เห็นเอาผิดทางวินัย อะไรทั้งสิ้นทั้ง ๕ ข้อนี้เป็นปัญหาที่ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นกันเต็มหู เต็มตาว่า  กองทัพได้ทำตัวเช่นนั้นจริง  และนั่นเป็นการฉุดลากประเทศให้ตก ต่ำอย่างรุนแรง  อย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย  ในยุคนี้  ก่อนการ รัฐประหาร  ๑๙  กันยายน ๒๕๔๙  แม้ว่ามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ  นาย สนธิ ลิ้มทองกุล  และพวกทำการก่อกวน  โจมตีรัฐบาลอยู่ทุกวันภายใต้การสนับ สนุนของพรรคประชาธิปัตย์  แต่นั่นก็เป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่ประเทศ ประชาธิปไตยทั่วโลกยอมรับได้  และรัฐบาลประชาธิปไตยก็ต้องหาวิธีการแก้ไขไป ตามวิถีทางเท่าที่จะเป็นไปได้  การขับเคลื่อนประเทศชาติในทางเศรษฐกิจ  หรือ ด้านอื่นใด  ยังคงดำเนินไปได้แม้จะถูกภาวะการเมืองบั่นทอนลงไปบ้างก็ ตาม  รัฐบาลยังคงมีเกียรติภูมิ  นานาประเทศก็ยังมีการคบค้ากันตาม ปกติ  โครงการต่าง ๆ  ที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ก็ยังเดินหน้าไปได้  ดังนั้น กล่าวโดยรวมแล้ว  ความปั่นป่วนทางการเมืองของประชาชนแม้จะมีในบางครั้ง  ก็ ก่อผลสะเทือนต่อประเทศชาติไม่มากนัก และก็เป็นธรรมดา ๆ ในประเทศที่ปกครอง ด้วยระบอบประชาธิปไตย            แต่เมื่อ “คณะทหาร”  ที่นำโดย พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ก่อ การรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตย  ฉีกรัฐธรรมนูญ ของประชาชนทิ้งไป  ออกคำสั่งประกาศเผด็จการต่าง ๆ ขึ้นตามอำเภอใจและจัดตั้ง รัฐบาลหุ่นเชิดขึ้นมาดำเนินการตาที่ “เผด็จการ”  ต้องการ  เราเห็นกันชัดเจน มิใช่หรือว่าในยามนั้น  นานาประเทศล้วนเบือนหน้าหนี  อเมริกาประกาศงดการฝึก คอบบร้าโกลด์กับกองทัพไทย  ประเทศในยุโรป – ออสเตรเลีย  ประกาศงดเจรจาทาง การค้ากับประเทศไทย  รัฐมนตรีไทยไปต่างประเทศก็ไม่มีใครต้อนรับนายกฯ หุ่น เชิดเผด็จการไปประชุมนานาชาติที่ฮานอย  ก็ไม่มีใครคุยด้วย   ภายในประเทศก็ เจอกับสภาพเสื่อมทรุดลงทุกด้าน  พืชผลเกษตรกรมราคาตกต่ำอย่างที่ไม่เคยปราก ฎมาก่อน  มังคุดกิโลละ  ๒  บาท  ลองกองกิโลละ  ๖  บาท  ฯลฯ   เกษตรกรประสบ ภาวะลำบากแร้นแค้นกันทั่วประเทศ  ประชาชนเกิดการแตกแยกทางความคิดอย่าง รุนแรง   ในที่สุดเมื่อรัฐบาลหุ่นเชิด คมช. ถูกังประเทศชาติไปไม่ไหว  ก็จำ ใจต้องเปิดให้มีการเลือกตั้ง             กระนั้นก็ตาม  แม้มีการเลือกตั้งแล้วเมื่อพรรคพลังประชาชนอัน เป็นฝ่ายต่อต้านเผด็จการ อย่างแข็งขันได้รับชัยชนะ “คณะทหารเผด็จการ”  อัน เป็นสายงานที่สืบทอดมาจาก คมช.  ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะล้มรัฐบาลพรรคพลัง ประชาชนให้ได้   และทุกอย่างก็สำเร็จตามที่เขาต้องการ  เพราะในขณะที่พรรค พลังประชาชนเป็นรัฐบาลเมื่อกลุ่มนายสนธิ และสมุนออกมากวนเมือง  ยึดทำเนียบ รัฐบาล  ปิดถนนที่สะพานมัฆวาน  3 – 4 เดือน  จนเกิดจลาจลกลางเมือง  เมื่อ รัฐบาลขณะนั้นขอกำลังทหารให้มาช่วยผู้นำทางทหารก็ไม่ยอมปฏิบัติตาม  แต่ต่อ มาเมื่อพวกเขาใช้กระบวนการต่าง ๆ คว่ำรัฐบาลพรรคพลังประชาชนลงไปได้แล้ว  ก็ ได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดของพวกเขาขึ้นในค่ายทหาร  โดยมีพรรคประชา ธิปัตย์เป็นแกนนำ  และผู้นำทางทหารก็รับปากอย่างเข้มแข็งในการค้ำบัลลังก์ ให้   ซึ่งเรื่องนี้ก็ปรากฎชัดเจนในกรณี “สงกรานต์ เลือด”   ตามข้อ ๔  ของ เสธ.แดง  ที่เมื่อ นายอภิสิทธิ์ ในฐานะนายกรัฐตรีลง นามในประกาศภาวะฉุกเฉิน  ผู้นำทางทหารก็ออกคำสั่งให้ทหารยกกำลังพร้อมอาวุธ ครบมือเข้าปราบปราม “คนเสื้อแดง”  เหมือนกับว่าคนเหล่านั้นมิใช่คนไทย
             
             การปฏิบัติแบบไม่มีมาตรฐานเช่นนี้ใคร ๆ ก็เห็นกันทั้ง ประเทศ  ใคร ๆ  ก็เห็นว่า  “มันไม่เป็นธรรม”    แต่ผู้มีอำนาจทงทหารไทยยุค นี้ทำกันได้
             
             เสธ. แดง   เป็นทหารทุกกระเบียดนี้ว  เป็นนักเรียนนายร้อยที่ มีมันสมอง  เป็นคนอ่านหนังสือ  เขียนหนังสือ  และสนใจศึกษาสภาพสังคม  จึง รู้ว่าสังคมเราจะวิวัฒนาการไปอย่างไร  พลังส่วนใดก้าวหน้าและถูกต้องพลัง ส่วนใดล้าหลัง  และดึงรั้งประเทศชาติไม่ให้ไปสู่ความผาสุขของประชาชนนี่เป็น เรื่องวิสัย ทัศน์  ที่ผู้นำเหล่าทัพหลายคนคิดไม่ได้อย่างเสธ.แดง
             
             เสธ. แดง  พยายามจะลาออกมาช่วยประชาชน แต่เขากำลังจะได้ผลอันเป็นปฏิกิริยาร้ายจากผู้นำกองทัพ ๕ ข้อนี้แหละเป็นลายแทง

 คัดจากคอลัมภ์ บทความ
                             โดย  ประภัสสร เพ็งจันทร์
                   จาก นสพ.  ความจริงวันนี้   ฉบับวันที่  ๒๒  -  ๒๔  ธันวาคม  ๒๕๕๒

Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
		VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV